Main Idea
- ตอนนี้ตลาด E-commerce ระหว่างประเทศกำลังมาแรงพร้อมทั้งมีมูลค่าทางการตลาดสูงขึ้นเรื่อยๆ นี่จึงเป็นโอกาสใหม่สำหรับผู้ประกอบการไทยที่อยากพาธุรกิจของตัวเองไปบุกตลาดต่างประเทศ
- แต่หากต้องไปคนเดียวอาจจะยากเกินไป Amazon Global Selling หน่วยธุรกิจหนึ่งของ Amazon ที่จะเข้ามาช่วยติดปีกให้ผู้ประกอบการขยายฐานไปสู่ตลาดต่างประเทศได้ง่ายยิ่งขึ้น
ลองนึกภาพกลับไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน การที่ธุรกิจจะเติบโตข้ามประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนต้องหาตัวแทนจากต่างประเทศ ต้องไปออกงานแฟร์หาคู่ค้า เมื่อได้ลูกค้าก็ต้องมานั่งคิดถึงเรื่องของการขนส่งอีก ยังไม่นับเรื่องค่าเงินบาทต่างๆ นาๆ ทำให้ผู้ประกอบการหลายคนรู้สึกว่ากว่าจะไปเปิดตลาดต่างประเทศได้นั้นมันช่างยากเย็นเหลือเกิน!
เวลาผ่านไปทำให้โลกเราเชื่อมกันมากขึ้นทางออนไลน์ เทรนด์ Cross-border e-commerce จึงเป็นโอกาสใหม่สำหรับผู้ประกอบการไทยที่อยากพาธุรกิจของตัวเองไปบุกตลาดต่างประเทศ หลายคนอาจมองว่าขายออนไลน์เป็นเรื่องที่จำกัดเฉพาะในประเทศอย่างเดียว แต่เปล่าเลย เพราะทุกวันนี้แค่คุณนั่งอยู่ที่ออฟฟิศก็สามารถขายสินค้าให้กับลูกค้าที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่งได้แล้ว
หนึ่งในแพลตฟอร์มที่เข้ามาเป็นสะพานให้แก่ผู้ประกอบการไทยข้ามไปหาลูกค้าอีกหลายประเทศทั่วโลกได้คือ Amazon Global Selling หน่วยธุรกิจหนึ่งของ Amazon ที่จะเข้ามาช่วยติดปีกให้ผู้ประกอบการขยายฐานไปสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งล่าสุด Amazon Global Selling ได้ตั้งทีมในประเทศไทยและพร้อมที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการไทยอย่างเต็มที่เพื่อสร้างโอกาสในการส่งออก
- เทรนด์ Cross-border e-commerce กำลังมาแรง!
Bernard Tay ผู้อำนวยการ Amazon Global Selling ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กล่าวว่าตอนนี้ตลาด E-commerce ระหว่างประเทศกำลังมาแรงพร้อมทั้งมีมูลค่าทางการตลาดสูงขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2561 ตลาดค้าปลีกทั่วไปมีอัตราการเติบโตคงที่ 6 เปอร์เซ็นต์ แต่ตลาด E-commerce โตถึง 23 เปอร์เซ็นต์ สำหรับตลาด E-commerce ระหว่างประเทศช่วง 4-5 ปีก่อนจะมีการเติบโตอยู่ที่ 15 เปอร์เซ็นต์แต่ปี 2020 จะก้าวกระโดดอยู่ที่ 29 เปอร์เซ็นต์ จึงนับว่านี่เป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทยในการก้าวไปสู่ตลาดโลกผ่านช่องทางออนไลน์
แต่หากคุณต้องเดินทางไปคนเดียวอาจจะยากเกินไป Amazon Global Selling จึงเป็นประตูหนึ่งบานที่น่าสนใจไม่น้อย
- Amazon Global Selling ช่วยอะไร
- เครือข่ายและฐานลูกค้าทั่วโลก Amazon มีเว็บไซต์ใน 18 ประเทศทั่วโลก รองรับ 27 ภาษา รองรับธุรกิจรายย่อยในการขายสินค้าจาก 130 ประเทศทั่วโลก
- ระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ Amazon มีศูนย์จัดส่งสินค้า 175 แห่งทั่วโลก ผู้ขายสามารถใช้บริการ Fulfillment by Amazon ที่ให้บริการจัดการออเดอร์และจัดส่งสินค้าได้
- นวัตกรรมด้านการบริการและเครื่องมือต่างๆ เพื่อการจำหน่ายสินค้าทั่วโลก เช่น การเปิดบัญชีผู้ขาย การลงรายการสินค้า การบริหารราคาสินค้า บริการโลจิสติกส์ Customer Service ไปจนถึงรายงานธุรกิจและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ
- สินค้าไทยประเภทไหนขายดีบน Amazon
หากพูดถึงศักยภาพของธุรกิจไทย บอกเลยว่าไม่เป็น 2 รองใคร โดย Bernard Tay ได้เปิดเผยว่ากลุ่มประเภทธุรกิจของไทยที่ได้รับความนิยมบน Amazon มีดังนี้
- กลุ่ม Home สินค้าตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ไม้จากประเทศไทย
- กลุ่ม Toys สินค้าของเล่นเด็ก สินค้าสร้างเสริมพัฒนาการเด็กก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน
- กลุ่ม Sport อุปกรณ์เกี่ยวกับกีฬาจากบ้านเราก็มาแรง โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวกับกีฬามวยจะได้รับความชื่นชอบเป็นพิเศษ
- กลุ่ม Pet สินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
- กลุ่ม Fashion เสื้อผ้า
- แบรนด์ไทยที่โลดแล่นบน Amazon
นอกจากประเภทของสินค้าที่คุณต้องรู้แล้ว ลองมาดูตัวอย่างแบรนด์ไทยที่ขายดิบขายดีบน Amazon กันดีกว่า
- PJ Wood จากผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่รับผลิตให้แต่องค์กรใหญ่ก็ได้ปรับโมเดลธุรกิจของตัวเองพร้อมทั้งขายออนไลน์ผ่านทาง Amazon ส่งผลให้เติบโตถึง 150 เปอร์เซ็นต์ จุดเด่นของ PJ Wood คือเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ทำจากไม้ยางพารา สินค้าที่ขายดีคือ PJ Wood Folding TV Tray&Snack Table – Natural ซึ่งมีเรตติ้งสูงถึง 420 หรือถ้าคิดเป็นจำนวนออเดอร์ก็ประมาณ 4 หมื่นกว่าครั้งเลยทีเดียว
- Wilkins Cleanser แบรนด์ไทยที่รูปลักษณ์สากลกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรองเท้า ที่ดูเผินๆ ก็ดูไม่ออกเลยว่าแบรนด์ไทย โดย Wilkins Cleanser ได้เริ่มขาย Amazon ช่วงปี 2561 เพียง 6 เดือนก็ทำให้ยอดขายโตกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ สินค้าขายดีบน Amazon คือ Wilkins Premium Midsole Marker เป็นปากกาเอาไว้ระบายสีรองเท้าหนัง ผ้าใบ หากว่ารองเท้าของคุณมีรอยด่าง รอยดำ
- Viris Zamara แบรนด์เสื้อผ้าของคนไทยที่เริ่มต้นขายกับ Amazon ในปี 2561 ก่อนหน้านี้ได้ขายเสื้อผ้าใน Platinum แต่พอเข้ามาขายบน Amazon และสร้างแบรนด์เพื่อขายให้แก่ลูกค้าต่างชาติเท่านั้น ผลปรากฎว่าธุรกิจโตขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์
- SME กว่า 50,000 รายสร้างยอดขายบน Amazon ได้รายละประมาณ 500,000 เหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา
- SME กว่า 200,000 รายสร้างยอดขายบน Amazon ได้รายละประมาณ 100,000 เหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา
- SME ที่สร้างยอดขายเกิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐผ่านร้านค้าออนไลน์บน Amazon มีการเติบโต 20 เปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมา
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
