เมื่อแบรนด์ยักษ์ใหญ่ตั้งเป้ารักษ์โลก





 
     เมื่อผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ เริ่มมีการปรับตัวและตั้งเป้าที่จะผลิตบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่หรือรีไซเคิลได้มากขึ้น


     บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมน้ำอัดลมอย่าง Coca-Cola ได้ออกมาประกาศจุดยืนด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นขวดแก้วหรือกระป๋องจะต้องสามารถนำมารีไซเคิลได้อย่าง 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2573 โดยทางแบรนด์มุ่งที่จะพัฒนาการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมากขึ้นและลดการใช้พลาสติกสำหรับการทำบรรจุภัณฑ์ให้น้อยลง รวมถึงการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการรีไซเคิลที่ถูกต้องในชุมชนของตนอีกด้วย
ด้านซีอีโออย่าง James Quincey กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกหันมาใส่ใจในเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำมารีไซเคิลได้มากขึ้น โดยพวกเขามีความต้องการและความคาดหวังว่าบริษัทต่างๆ จะคำนึงถึงเรื่องนี้และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังจะทำและขอเชิญชวนให้แบรนด์อื่นๆ มาร่วมด้วย


     “เพราะโลกของเรากำลังประสบปัญหาเรื่องขยะจากการที่บรรจุภัณฑ์ไม่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ ซึ่งเรารวมถึงแบรนด์อื่นๆ มีหน้าที่ที่จะต้องแก้ปัญหานี้ หากสิ่งไหนสามารถรีไซเคิลได้ ก็ควรรีไซเคิล ดังนั้นเราจึงต้องการช่วยให้ผู้คนทุกที่เข้าใจวิธีการทำหน้าที่ของตนในการรักษาสิ่งแวดล้อม”



     นอกจากนี้ทางบริษัทยังให้การสนับสนุนแนวคิดเรื่อง Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ให้ความสำคัญกับการจัดการของเสียจากการผลิตและบริโภคด้วยการนำวัตถุดิบที่ผ่านการผลิตและบริโภคแล้วเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่ (re-material) หรือนำมาใช้ซ้ำ (reuse) โดยเห็นว่าวัตถุดิบอย่างอะลูมิเนียม พลาสติกและแก้วควรถูกนำกลับมาใช้ใหม่แทนการกำจัดทิ้ง


     “เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าหากโลกของเราไม่มีบรรจุภัณฑ์อย่างขวดพลาสติกหรือกระป๋อง หลายๆ ชีวิตที่ไม่ใช่แค่มนุษย์แต่รวมถึงสัตว์และโลกของเราคงเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น”


     นอกจาก Coca-Cola แล้ว แบรนด์น้ำแร่อย่าง Evian ก็ตั้งเป้าที่จะใช้ขวดพลาสติกที่รีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2568 เพื่อร่วมแก้ปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์ที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยขยะพลาสติกนับล้านตันต้องถูกทิ้งลงในหลุมฝังกลบและในมหาสมุทร



     

      เพื่อที่จะบรรลุถึงจุดประสงค์ ทางแบรนด์ได้มีการทำงานร่วมกับ Loop Industries บริษัทด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อสร้างอนาคตของพลาสติกที่ยั่งยืนในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ โดยมุ่งไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่จะเปลี่ยนขยะพลาสติก Polyethylene Terephthalate (PET) ให้เป็นพลาสติกคุณภาพสูงและสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้หลายๆ ครั้งแทน PET ที่สามารถรีไซเคิลได้เพียง 3 ครั้งในปัจจุบัน


     หรือแม้แต่แบรนด์อย่าง McDonald’s ก็ไม่พลาดที่จะโดดเข้าแคมเปญนี้เช่นกัน โดยประกาศว่าจะใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลหรือวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับผลิตถ้วยใส่น้ำอัดลม กล่องใส่อาหารชุด Happy Meal และบรรจุภัณฑ์อื่นๆ ภายในปี 2568 โดยครึ่งหนึ่งของบรรจุภัณฑ์ในปัจจุบันผลิตจากวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ นอกจากนี้ 64 เปอร์เซ็นต์ของบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ไฟเบอร์เป็นวัตถุดิบได้รับการรับรองและสามารถนำมารีไซเคิลได้อีกด้วย


     นอกจากนี้ ทางแบรนด์ด้านอาหารจานด่วนระดับโลกยังตั้งเป้าที่จะไม่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นโฟมจากซัพพลายเชนทั่วโลกภายในสิ้นปีนี้



 

RECCOMMEND: MARKETING

ถอดวิธีคิดญี่ปุ่น 5 เคล็ดลับออกแบบสินค้าที่ครองใจคนทั่วโลก

เคยสงสัยไหมว่าทำไมสินค้าจากญี่ปุ่นถึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก? ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, แกดเจ็ต, นั่นเพราะสินค้าจากแดนปลาดิบมักจะโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด

เจาะลึกเทรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มปี 2568 ที่ธุรกิจต้องรู้

 ในปี 2568 ยังคงเป็นสนามแข่งขันที่ดุเดือด ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกแนวโน้มสำคัญๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในวงการอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนธุรกิจและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

เอาสินค้าเข้า Modern Trade ต้องทำยังไง? เจาะลึกทุกขั้นตอน สู่ความสำเร็จบนชั้นวางสินค้า

การก้าวเข้าสู่โลกของ Modern Trade นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วันนี้ SME Thailand จะพาคุณไปล้วงเคล็ดลับจากวงในมาเปิดเผยแบบหมดเปลือกกัน