ไม่เก่งเรื่องแผนก็วางกลยุทธ์การตลาดได้

TEXT  คัมภีร์เงิน
 




           คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักการตลาดมืออาชีพจึงจะวางกลยุทธ์การตลาดให้กับบริษัทได้ แค่คุณคิดนอกกรอบเท่านั้นเอง ลูกค้าก็มาอยู่ในกำมือ มาดูตัวอย่างต่อไปนี้กัน 


           ย้อนกลับไปเมื่อห้าสิบกว่าปีที่แล้วในยุคที่เตาไมโครเวฟเริ่มวางขายอย่างจริงจัง โดยขายความรวดเร็วในการทำอาหารและมุ่งไปกลุ่มแม่บ้าน  ปรากฏว่าล้มเหลว เพราะแม่บ้านสมัยนั้นกลัวมัน อีกทั้งห้องครัวในขณะนั้นก็มีขนาดเล็กและไม่มีที่พอจะวาง สิ่งสำคัญที่สุดก็คือแม่บ้านกลัวว่าพ่อบ้านจะหาว่าเธอขี้เกียจทำอาหารด้วยการใช้อุปกรณ์สมัยใหม่  ภาพลักษณ์ของแม่บ้านในยุคนั้นคือต้องทำอาหาร ไม่ใช่ทำเร็วๆ ด้วย แต่ต้องค่อยๆ ทำ ประหนึ่งเป็นทาสหน้าเตาไฟ 


           ดังนั้น นักการตลาดแสนฉลาดก็เลยได้ไอเดียใหม่ โดยเน้นการขายไปที่คุณผู้ชายแทน เพราะผู้ชายชอบเทคโนโลยีมากและพวกเขาก็จะเป็นคนไปบอกให้ภรรยาซื้อ ในช่วงแรกเตาไมโครเวฟเอาไว้ใช้ละลายอาหารแช่แข็งและอุ่นอาหารเก่า แต่อีกไม่นานนักก็กลายเป็นสิ่งที่ต้องมีในทุกครัวเรือน ห้องครัวเองก็มีขนาดใหญ่ขึ้น นับเป็นตัวอย่างชัดเจนที่นักการตลาดสมองใสสร้างความน่าสนใจลงไปในสินค้า 


           นี่คือการตลาดและการคิดนอกกรอบที่ทำให้ผู้บริโภคมีความอยากซื้อ เราเรียกการตลาดแบบนี้ว่าการตลาดแบบสร้างสรรค์ แต่เจ้าของธุรกิจ SME มักจะบอกว่าไม่มีเวลาพอที่จะทำการตลาด ถามจริงๆ เถอะว่าเซ็นจ่ายเงินสนุกกว่าเซ็นใบสั่งซื้อกระนั้นหรือ วัตถุประสงค์ของการตลาดแบบสร้างสรรค์ ก็คือการทำให้สินค้าหรือบริการกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค 


           สมมุติว่าคุณจะขายสบู่หอมแฮนด์เมด คุณอาจทำสินค้าสวยงาม คุณภาพเยี่ยม กลิ่นแปลกไม่เหมือนใคร เป็นสินค้าที่คนต้องใช้ทุกวัน เสร็จแล้วคุณก็นั่งรอคนมาซื้อ ใช่หรือไม่ ถ้าใช่แปลว่าคุณไม่ Proactive คุณต้องใช้ทุกวิธีที่จะทำให้สินค้าไปอยู่หน้าผู้บริโภค เช่น ใช้ social media ส่งโปสต์การ์ดไปยังกลุ่มเป้าหมาย ไปโปรโมตในงานแสดงต่างๆ เป็นต้น 

           คุณต้องขายสินค้าให้กลุ่มคนที่ดูเหมือนจะมีความต้องการมาก แล้วคนเหล่านั้นเป็นใครล่ะ เหมือนการขายไมโครเวฟในยุคแรกนั่นแหละ คุณต้องเป็นคนหาคำตอบเอง (หรือไม่ก็เดา) เพราะนี่เป็นส่วนหนึ่งของการตลาดแบบสร้างสรรค์ สรุปก็คือว่าการตลาดแบบสร้างสรรค์คือการขายด้วยวิธีการใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน สร้างความต้องการความอยากในแบบที่คนส่วนมากไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการ


           แต่หากคุณยังไม่มีสินค้าละก็ ให้ลองคิดว่าในชีวิตประจำวันตอนนี้มีปัญหาอะไร และหาทางแก้ปัญหานั้นด้วยวิธีใหม่ๆ สุดท้ายนี้ขอฝากบัญญัติ 10 ประการที่นักการตลาดที่ประสบความสำเร็จรู้จักและใช้จากจิตใต้สำนึก 


           1. ต้องคิดถึงความต้องการของลูกค้าก่อนของตนเอง

           2. ต้องตื่นเต้นกับความสำเร็จและเรียนรู้จากความล้มเหลว

           3. ต้องรู้จักฟังก่อนพูด

           4. ต้องเชื่อมั่นในสินค้า (หรือตัวเอง) และบำรุงรักษาจนมันเติบใหญ่

           5. ต้องถลำให้ลึกลงไปในความต้องการของลูกค้า

           6. ต้องทำใจให้ชอบและรับให้ได้กับความคิดที่หลากหลาย

           7. ต้องใส่ความรู้สึกลงไปในทุกการขาย

           8. ต้องไม่จมปลักกับความสมเพชตัวเองหากไม่เป็นไปตามฝัน

           9. ต้องสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับลูกค้า

           10. ต้องนับถือตัวเองและความสามารถของตัวเอง 



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

ถอดวิธีคิดญี่ปุ่น 5 เคล็ดลับออกแบบสินค้าที่ครองใจคนทั่วโลก

เคยสงสัยไหมว่าทำไมสินค้าจากญี่ปุ่นถึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก? ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, แกดเจ็ต, นั่นเพราะสินค้าจากแดนปลาดิบมักจะโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด

เจาะลึกเทรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มปี 2568 ที่ธุรกิจต้องรู้

 ในปี 2568 ยังคงเป็นสนามแข่งขันที่ดุเดือด ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกแนวโน้มสำคัญๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในวงการอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนธุรกิจและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

เอาสินค้าเข้า Modern Trade ต้องทำยังไง? เจาะลึกทุกขั้นตอน สู่ความสำเร็จบนชั้นวางสินค้า

การก้าวเข้าสู่โลกของ Modern Trade นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วันนี้ SME Thailand จะพาคุณไปล้วงเคล็ดลับจากวงในมาเปิดเผยแบบหมดเปลือกกัน