Text : กองบรรณาธิการ
ก่อนหน้านี้เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินคำว่า Influencers หรือผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นดารา คนมีชื่อเสียงต่างๆ แต่วันนี้ในยุคที่ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อ Influencers เริ่มขยายไปในกลุ่มที่ไม่ใช่คนดังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่วันนี้ผู้บริโภคเริ่มหันมาเชื่อมั่นในตัวของ Micro-Influencers มากขึ้น
ถามว่า Micro-Influencers คือใครได้บ้าง คำตอบง่ายๆ ก็คือ ผู้บริโภคนั่นเอง ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ที่มีผู้ติดตามในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ตั้งแต่ 500 – 10,000 คน ซึ่งอาจจะเป็นคนที่มีความคิดเห็นที่น่าสนใจและมีความสร้างสรรค์ในตัวเอง โดยคนเหล่านี้จะแสดงความคิดเห็นจากมุมมองของตัวเอง จึงถือว่าเป็นพลังการบอกต่อที่จะโน้มน้าวคนได้มากกว่า และมีความเป็นออแกนิคคอนเทนต์สูงสุด (ดูไม่เหมือนโฆษณา) นั่นเอง
ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของสุวิตา จรัญวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เรดแลบ จำกัด บอกว่า ปัจจุบัน Micro-Influencers มีความสำคัญอย่างยิ่งในระดับเอเชีย และประเทศชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเองด้วย เนื่องจากมีอัตราการเติบโตของโซเชียลมีเดียในระดับแนวหน้าของเอเชีย โดยมีผู้ใช้งาน Facebook กว่า 47 ล้านคน ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผู้ใช้งาน Facebook ราว 241 ล้านคน และในเวลาเพียงแค่ 1 ปี จำนวนผู้ใช้ Instagram ในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นเป็น 4 เท่าจากปีก่อน
อย่างไรก็ดี เรียกได้ว่า Micro-Influencers มีส่วนสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในรูปแบบเพื่อน-ถึง-เพื่อน ดังนั้น การสื่อสารผ่าน Micro-Influencers จึงมีประสิทธิภาพ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีระบบหรือแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้แบรนด์ หรือธุรกิจสามารถทำงานร่วมกับ Micro-Influencers ได้โดยตรง ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการเปิดตัว เทลสกอร์ (Tellscore) แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ Micro-Influencers และแบรนด์ต่างๆ ได้ทำงานร่วมกันโดยตรง ซึ่งเครื่องมือดิจิทัลนี้จะช่วยเสริมกำลังการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค (Reach) และกระตุ้นความต้องการซื้อ (Conversion) ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จัก ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ Micro-Influencers มีรายได้จากการแสดงความคิดเห็นและนำเสนอคอนเทนต์ของแบรนด์ผ่านช่องทางโซเชียลของตน
เทลสกอร์ใช้เทคโนโลยี Predictive Micro-targeting ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถกำหนดงบประมาณเองได้ กำหนดจำนวน Micro-Influencers ที่จะร่วมงานได้ โดยคัดเลือกจากความถนัดของ Micro-Influencers จำนวนผู้ติดตาม และที่สำคัญที่สุดคือ คาดคะเนจำนวนคนเห็นโพสต์ และจำนวนปฏิสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นจริงกับโพสต์ของ Micro-Influencers ดังกล่าว (Engagement Rates) โดยเทลสกอร์จะทำหน้าที่เป็นระบบที่เชื่อมระหว่างแบรนด์และ Micro-Influencers เข้าด้วยกัน ระบบการให้คะแนนของเทลสกอร์ใช้อัลกอริทึมพิเศษ ที่สามารถวัดผลได้แม่นยำหลังจบงาน นำเสนอเป็นรายงานพร้อมใช้
ใครก็ตามที่มีผู้ติดตามในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ และมีความคิดเห็นที่น่าสนใจและสร้างสรรค์ ก็สามารถเป็น Micro-Influencer ของเทลสกอร์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยระบบจะแจ้งให้ทราบเมื่อมีงานจากแบรนด์ต่างๆ เข้ามา เพื่อให้ Micro-Influencers ได้แชร์คอนเทนต์ หรือสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้ติดตามของตนเองได้รับรู้ ในขณะเดียวกันก็จะได้รับผลตอบแทนจากงานที่ทำ ซึ่งการสื่อสารจาก Micro-Influencers จะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า การสื่อสารจากแบรนด์ถึงผู้บริโภค และ Micro-Influencers จะได้รับค่าตอบแทนสำหรับการแชร์คอนเทนต์หรือการรีวิวสินค้าครั้งละตั้งแต่ 100 – 50,000 บาท โดยประมาณ โดยขึ้นอยู่กับระดับ Engagement และจำนวนผู้ติดตาม
เครื่องมือบริหารจัดการแคมเปญของเทลสกอร์ (Campaign Management Tool) จะทำให้การสร้างแคมเปญของแบรนด์เป็นเรื่องง่าย และสะดวก ในขณะที่ Micro-Influencers สามารถทำงานภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด ทางแบรนด์เองก็มีตัวช่วยควบคุมเวลา และเครื่องมือคาดคะเนผลลัพธ์ก่อนสั่งงาน และระบบรายงานผลหลังจบงานแต่ละแคมเปญด้วยเช่นกัน
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
RECCOMMEND: MARKETING
เคยสงสัยไหมว่าทำไมสินค้าจากญี่ปุ่นถึงได้รับความนิยมไปทั่วโลก? ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, แกดเจ็ต, นั่นเพราะสินค้าจากแดนปลาดิบมักจะโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
ในปี 2568 ยังคงเป็นสนามแข่งขันที่ดุเดือด ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกแนวโน้มสำคัญๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในวงการอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนธุรกิจและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
การก้าวเข้าสู่โลกของ Modern Trade นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วันนี้ SME Thailand จะพาคุณไปล้วงเคล็ดลับจากวงในมาเปิดเผยแบบหมดเปลือกกัน