TEXT : กองบรรณาธิการ
จากวิวัฒนาการของ e-Commerce ที่เริ่มต้นจากการลงโฆษณาประกาศขาย มาเป็นแพลทฟอร์มร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ทั้งที่เป็นการซื้อตรงจากแบรนด์สินค้านั้นๆ หรือเว็บซื้อขายออนไลน์ผ่านพ่อค้าหรือจากผู้บริโภคด้วยกัน มาจนปัจจุบันที่ผู้ประกอบการหันมาใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางกันมากขึ้น ทั้งร้านค้าบนเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือไลน์ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ท่ามกลางคู่แข่งมากมายเช่นนี้ ต้องทำอย่างไรถึงจะได้เป็นตัวจริงในสายตาลูกค้า
จากมุมมองของ ประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำตลาด e-Comerce ซึ่งกล่าวในงานสัมมนา "พลิกธุรกิจก้าวกระโดด ด้วยออนไลน์" มองว่า ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่เงินอยู่บนฟ้า สินค้าอยู่บนมือถือ และมีการใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นหลัก ดังนั้น เราควรใช้โซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก เป็นช่องทางการทำตลาดออนไลน์ให้ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ
หลักของการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียนั้น ประสิทธิ์ ระบุว่า อย่างแรกต้องเข้าใจสื่อสังคมออนไลน์ก่อน ผู้ประกอบการต้องสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย กล่าวคือ สินค้าหรือแบรนด์ต้องมีเรื่องราวที่น่าสนใจ บ่งบอกถึงตัวตนและตรงกับสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ
"แบรนด์ที่จะเกิดบนโลกออนไลน์ได้ ต้องมีตัวตน มีเรื่องเล่าเพราะสมองมนุษย์ชอบเรื่องเล่า จากนั้นประสบการณ์จะตามมาเรียกว่าเป็น customer experience นอกจากนี้ ผู้ประกอบการต้องเข้าใจในสินค้าหรือแบรนด์ของตนเองด้วยว่าจะขาย need หรือ want ซึ่งลูกค้าในปัจจุบันจะนิยมซื้อสินค้าโดยตัดสินใจจาก want มากกว่าเพราะเป็นการซื้อด้วยอารมณ์ อยากได้ซื้อเลย ชอบซื้อเลย ไม่ต้องคิดอะไร ในขณะที่สินค้าที่เป็น need นั้นลูกค้าจะต้องใช้ความคิดในการตัดสินใจเยอะกว่า"
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของความน่าเชื่อถือที่จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น ในกรณีของผู้ค้าบนเฟซบุ๊ก การมีแค่หน้าเพจยังไม่พอ ผู้ประกอบการต้องมีการยืนยันเพจด้วย ประสิทธิ์ อธิบายว่าการยืนยันเพจจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์ มีปฏิสัมพันธ์กับเรามากขึ้น และยังช่วยในการดึงลูกค้าที่หลงไปกับเพจปลอมต่างๆ ให้กลับมา
ในส่วนของแพลทฟอร์ม ประสิทธิ์เลือกที่จะแนะนำเฟซบุ๊ก ให้เป็นแพลทฟอร์มหลักเนื่องจากการทำตลาดบนเฟซบุ๊ก เป็นการทำตลาดแบบ People Based Marketing ที่อิงกับตัวลูกค้าซึ่งสามารถกระจายต่อไปยังกลุ่มคนรอบข้างลูกค้าคนนั้นๆ ได้ด้วย ทำให้ผู้ประกอบการสามารถขยายฐานกลุ่มเป้าหมายได้กว้างมากกว่าเดิม และที่สำคัญ เขายังมองว่าเฟซบุ๊ก นั้น เป็นเหมือนใบปลิวที่จะส่งตรงถึงมือลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่มแม่นยำด้วย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี