เหตุใด UK ให้ใช้รถบรรทุกสินค้ายาวขึ้น กว่าเดิมถึง 2.05 เมตร

TEXT : กองบรรณาธิการ

Main Idea

  • เพราะเชื่อว่าการใช้รถบรรทุกที่ยาวขึ้นจะช่วยเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 1.4 พันล้านปอนด์ และช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 70,000 ตัน

 

  • ล่าสุด รัฐบาล UK ได้อนุมัติให้ใช้รถบรรทุกที่ยาวกว่าเดิม 2.05 ม. ที่จะเริ่มให้วิ่งบนท้องถนนได้ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 แม้จะมีเสียงคัดค้านถึงอันตรายบนท้องถนน

 

     กฎหมายนี้อาจเป็นที่ถูกใจคนทำธุรกิจแต่อาจไม่ถูกใจผู้ที่ใช้รถใช้ถนน ถึงแม้จะมีกลุ่มรณรงค์เรื่องความปลอดภัยได้ออกมาเคลื่อนไหวว่าอาจทำให้คนเดินถนนและคนขี่จักรยานตกอยู่ในความเสี่ยง เพราะเมื่อรถบรรทุกที่มีขนาดยาวขึ้น เวลาเลี้ยวจะต้องใช้พื้นที่มากขึ้นและยากต่อการควบคุม

     อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่ง (Department for Transport - DfT) ได้ประกาศอนุญาตให้รถบรรทุกที่มีขนาดยาวขึ้น 2.05 ม. วิ่งบนท้องถนนได้ตั้งแต่ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566

     ทั้งนี้รถพ่วงบรรทุกที่มีความยาวเพิ่มขึ้นจะมีขนาดสูงสุด 61 ฟุต (18.55 ม.) ซึ่งยาวกว่าขนาดมาตรฐานประมาณ 6 ฟุต 9 นิ้ว (2.05 ม.) รถบรรทุกที่ยาวขึ้นจะสามารถขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่เคลื่อนที่เร็วและสินค้าขายปลีก รวมถึงขยะบรรจุภัณฑ์ พัสดุภัณฑ์ และพาเลท

เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 1.4 พันล้านปอนด์

     ทางรัฐบาลได้ออกมายืนยันว่าก่อนหน้านี้พวกเขาได้มีการทดสอบใช้รถบรรทุกขนาดความยาวนี้ตั้งแต่ปี 2554 และมีการใช้งานแล้วประมาณ 3,000 คันจากกว่า 300 บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ

     ด้วยขนาดความยามของรถที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้ธุรกิจมีประสิทธิผลมากขึ้น ตัวอย่างเช่น Greggs ร้านเบเกอรี่ที่ใช้รถมาตั้งแต่ปี 2556 สามารถบรรทุกสินค้าได้มากกว่าปกติ 15%

     การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 1.4 พันล้านปอนด์ให้กับอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้า

     ในขณะที่สามารถลดจำนวนรถพ่วงขนาดมาตรฐาน 1 คันออกจากถนนทุกๆ 12 เที่ยว ซึ่งการลดรถบรรทุกบนท้องถนนลงนี้จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 70,000 ตันจากการปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศในระยะเวลา 11 ปี

     Grant Shapps รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า “รัฐบาลนี้มุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและดำเนินการการลดคาร์บอนในการขนส่งอย่างรวดเร็วเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเป็นศูนย์ภายในปี 2593

ทางออกที่ดีหรือถอยหลังเข้าคลอง

     อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ก็มีทั้งคนที่เห็นพ้องและผู้ที่เห็นต่าง นอกจากมองว่าขนาดของรถรถบรรทุกที่ยาวขึ้นนั้นจะนำอันตรายต่อผู้ใช้ถนนและคนเดินถนน

     ดังนั้นแทนที่ภาครัฐจะหันไปใช้รถบรรทุกที่ยาวขึ้น อาจไปสนับสนุนให้มีการขนสินค้ามากขึ้นโดยทางรถไฟ ซึ่งเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสะอาด โดยรถไฟบรรทุกสินค้าเพียงขบวนเดียวสามารถบรรทุกรถบรรทุกได้ถึง 129 คัน

     ในขณะที่ DfT ได้ชี้แจงว่ารถบรรทุกใหม่จะสามารถเคลื่อนย้ายสินค้าในปริมาณที่เท่ากันกับรถพ่วงในปัจจุบันโดยใช้เวลาเดินทางน้อยลง 8% และจากการทดลองใช้รถบรรทุกนี้มากว่า 11 ปีได้แสดงให้เห็นว่ารถบรรทุกเหล่านี้ปลอดภัยสำหรับการใช้งานบนถนนสาธารณะ พบว่ามีอุบัติเหตุการชนกันน้อยกว่ารถบรรทุกทั่วไปประมาณ 61%

     จากข้อมูลของรัฐบาลที่เผยแพร่ในเดือนกรกฎาคม 2564 เปิดเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 58 คนจากรถบรรทุกที่ยาวขึ้นระหว่างปี 2555 ถึง 2563

     อย่างไรก็ดีปัจจุบันปัจจุบัน น้ำหนักสูงสุดของรถบรรทุกจะอยู่ที่ 44 ตัน รัฐบาลจะเดินหน้าทดลองเพิ่มขนาดน้ำหนักเป็น 48 ตัน เพื่อให้สามารถขนสินค้าไปที่ตู้คอนเทนเนอร์ได้โดยตรงโดยเพื่อลดความแออัดของจำนวนรถบรรทุกและลดการปล่อยมลพิษ โดยการทดลองนี้จะถูกใช้เฉพาะในเส้นทางที่กำหนด

     ไม่แน่ว่าต่อไปเราอาจเห็นรถบรรทุกที่มีความยาวนี้ในอีกหลายๆ ประเทศก็เป็นได้

ที่มา : https://www.gov.uk/government/news/uk-economy-boosted-by-14-billion-as-longer-lorries-roll-out-on-roads

https://www.bbc.com/news/business-65533993

https://www.independent.co.uk/business/longer-lorries-to-be-allowed-on-britain-s-roads-b2335936.html

https://www.smarttransport.org.uk/news/latest-news/longer-lorries-could-hit-uk-roads-from-2022

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

ESG จะเปลี่ยนความเสี่ยงเป็นโอกาสธุรกิจได้อย่างไร

แม้คำว่า ESG (Environment, Social, Governance) จะฟังดูเป็นเรื่องใหญ่โตและต้องใช้เงินลงทุน แต่แท้จริงแล้วเอสเอ็มอี ก็สามารถทำได้ เพราะนี่คือโอกาสและความท้าทายครั้งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ   

4 เครื่องมือช่วย “ตัดสินใจ” ที่ผู้ประกอบการต้องรู้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า

หากมีทางเลือกอยู่หลายทาง แล้วทางไหนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ และข้อผิดพลาดน้อยที่สุด SME Thailand เลยอยากจะแนะนำเครื่องมือที่ช่วยให้การตัดสินใจที่มีความรอบคอบและเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด