5 วิธีเป็น CEO ที่เก่ง ไม่เน้นทำงานหนักตลอด 24 ชม. ฉบับ Warren Buffet

TEXT: Momiin

Main Idea

  • Productive คือ การจัดการบริหารเวลาและลำดับความสำคัญในชีวิต หรือพูดง่ายๆ คือ การวางแผนการใช้ชีวิตหรือการทำธุรกิจในแต่ละวัน ว่าวันนี้เราจะทำอะไรบ้าง เพื่อให้แผนที่เราวางไว้ประสบความสำเร็จ

 

  • และการเป็นคนที่ Productive ก็ไม่ใช่คนที่ทำงานหนัก แต่เป็นคนที่บริหารจัดการเวลาในการทำงานที่ดีต่างหาก

 

  • วันนี้เราเลยมี 5 วิธีเป็น CEO ที่ Productive ที่สุดฉบับ “Warren Buffet” นักการเงินที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาฝากเพื่อนๆ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกคนกัน

 

5 วิธีของการเป็น CEO ที่ Productive

1. ให้ความสำคัญกับเวลา

     เพราะ 1 วันมีแค่ 24 ชั่วโมง ดังนั้นเวลาจึงเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับคนที่ Productive ซึ่งพวกเขาจะให้ความสำคัญกับเวลามาก และจะไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปเปล่าๆ เหมือนนักธุรกิจระดับโลกอย่าง Warren Buffet นักการเงินที่มีชื่อเสียงและซีอีโอแห่งบริษัท Berkshire Hathaway ที่มีมูลค่าสูงกว่า 84 พันล้านดอลลาร์ เขามีการบริหารจัดหารเวลาที่ดีมาก และมีชื่อเสียงในเรื่องการรักษาตารางเวลามาก และเขาจะหงุดหงิดเมื่อมีคนไม่เคารพเวลา และในแต่ละวันเขาจะพยายามหลีกเลี่ยงการประชุม ไม่ให้ใครนัดประชุมล่วงหน้า เพราะค่อนข้างหวงเวลาในชีวิตของตัวเอง ไม่อยากให้คนอื่นมาแย่งไป

2. เรียนรู้และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา

     คนที่ Productive จะชอบศึกษาหาความรู้และชอบพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา และจะไม่หยุดเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองสนใจหรือไม่สนใจก็ตาม ซึ่งเหมือนกับ Warren Buffet ที่เคยเล่าว่าในแต่ละวัน เขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่าน รวมๆ แล้ว 500 หน้าต่อวัน ทั้งหนังสือพิมพ์ เอกสารด้านการเงิน งานวิจัย รวมถึงหนังสือประเภทอื่นๆ ทำให้ช่วงเวลาทำงานของ Warren Buffett กว่า 80% ในแต่ละวัน เป็นช่วงเวลาแห่งการอ่านและศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา

3. แยกแยะเวลางานและเวลาพักผ่อน

     ถึงแม้ว่าการเป็นคนที่ Productive จะให้ความสำคัญในเรื่องเวลามาก แต่เวลาในความหมายของคนที่ Productive นั่นคือ การบริหารจัดการเวลาที่ดี ดังนั้นพวกเขาก็ให้ความสำคัญกับเวลาพักผ่อนเช่นกัน เหมือนกับ Warren Buffet ที่ให้ความสำคัญกับการนอนมาก และต้องนอนครบ 8 ชั่วโมงต่อวัน

4. จัดลำดับความสำคัญเก่ง

     คนที่ Productive ต้องจัดลำดับความสำคัญได้ดี ต้องรู้ว่าอะไรสำคัญที่ควรทำก่อนหรือหลัง เพื่อทำให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเหมือนอย่าง Warren Buffet ที่โฟกัสทำทีละเรื่อง เพราะจะช่วยให้ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีได้อย่างเต็มที่ หรือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

5. เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

     เพราะคนที่ Productive รู้ดีว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไร และจะเลือกทำในสิ่งที่รักและดีที่สุดให้กับตัวเอง เหมือนกับ Warren Buffet ที่ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และยังสอนลูกของเขาให้ทำสิ่งที่รักเช่นกัน  ซึ่งเขาจะบอกลูกๆของเขาเสมอว่าให้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก อย่าใช้เวลาไปกับสิ่งอื่นที่ไม่ได้รัก พยายามหาสิ่งที่รักให้เจอ เพราะการทำสิ่งที่ตัวเองชอบจะทำให้เราทำงานออกมาดี

     และนี่คือ 5 วิธีของการของ CEO ที่ Productive ฉบับ Warren Buffet  ซึ่งผู้ประกอบคนไหนอยากที่จะเป็นคนที่ Productive เหมือนกับ Buffet ก็สามารถนำ 5 วิธีนี้ไปปรับใช้กับตัวเองได้

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

ESG จะเปลี่ยนความเสี่ยงเป็นโอกาสธุรกิจได้อย่างไร

แม้คำว่า ESG (Environment, Social, Governance) จะฟังดูเป็นเรื่องใหญ่โตและต้องใช้เงินลงทุน แต่แท้จริงแล้วเอสเอ็มอี ก็สามารถทำได้ เพราะนี่คือโอกาสและความท้าทายครั้งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ   

4 เครื่องมือช่วย “ตัดสินใจ” ที่ผู้ประกอบการต้องรู้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า

หากมีทางเลือกอยู่หลายทาง แล้วทางไหนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ และข้อผิดพลาดน้อยที่สุด SME Thailand เลยอยากจะแนะนำเครื่องมือที่ช่วยให้การตัดสินใจที่มีความรอบคอบและเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด