เตรียมอวสาน พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง กว่า 30 ประเทศทั่วโลกห้ามใช้สินค้าเหล่านี้แล้ว

TEXT : Neung Cch.

Main Idea

  • ความพยายามแก้ปัญหาขยะพลาสติกทั่วโลกนั้นมีมานาน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก  

 

  • ดังนั้นหลายๆ ประเทศจึงใช้วิธีแบน พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (single use plastic: SUP) ถูกผลิตขึ้นมาคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของการผลิตพลาสติกทั้งหมดในโลก หรือเป็นปริมาณมากถึง 130 ล้านตันในปี 2019

 

  • ทำให้สินค้าที่ทำจากพลาสติกหลายอย่าง อาทิ ช้อน ส้อม หลอดพลาสติก ฯลฯ ไม่สามารถใช้ได้ในหลายประเทศ

 

     เพราะในการย่อยสลายพลาสติกต้องใช้เวลาหลายร้อยปี เกือบครึ่งหนึ่งของพลาสติกที่ผลิตขึ้นในปัจจุบันเป็นแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง จากทั้งหมดนั้นมีเพียง 9 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ถูกรีไซเคิล ร้อยละ 12 ถูกเผา และร้อยละ 79 ถูกฝังกลบ

     เรื่องการกำจัดพลาสติกกลายเป็นปัญหาร้ายแรงถึงขนาดที่องค์การสหประชาชาติระบุว่าพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวเป็นหนึ่งในความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน

     นอกจากนี้ การศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมใหม่พบว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของเกลือที่ขายทั่วโลกมีไมโครพลาสติกผสมอยู่ และที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือการศึกษาที่เกิดขึ้นในอิตาลีในปี 2020 พบไมโครพลาสติกอยู่ในรกของผู้หญิง 4 ใน 6 คนที่ทำการศึกษา

สัญญาณร้ายเตือนถึงภาคธุรกิจ

     นอกจากภัยร้ายที่กระทบถึงผู้คนแล้ว นี่อาจเป็นสัญญานเตือนที่ส่งผลกระทบมาถึงภาคธุรกิจด้วย โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ผลิตช้อน ส้อม ขวดพลาสติก หลอดพลาสติก รองเท้า เสื้อผ้าแว่นกันแดด หรือสินค้าที่ทำจากพลาสติกใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง

     เนื่องจากองค์การสหประชาชาติเปิดเผยในเดือนพฤษภาคม 2019 ว่า 180 ประเทศให้คำมั่นว่าจะ “ลด” การใช้พลาสติกลงอย่างมากภายในปี 2030 และหลายประเทศได้ออกกฎหมาย ‘แบน’ การใช้ถุงพลาสติก และการใช้มาตรการทางภาษี หรือทั้งสองอย่างควบคู่กันไป มีไม่ต่ำกว่า 32 ประเทศ ที่ใช้กฎหมายแบนการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว

ตัวอย่างประเทศที่มีการแบนพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว

     หากใครที่ทำธุรกิจส่งออกหรือมีซัพพลายเออร์ที่ผลิตสินค้าเกี่ยวข้องกับพลาสติกและเกี่ยวข้องกับประเทศคู่ค้าเหล่านี้ก็ต้องระวังเป็นพิเศษ

สหภาพยุโรป

     อียูได้ออกกฎหมายแบนพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นหลอด ช้อนส้อม มีด รวมถึงคอตตอนบัด ตั้งแต่ปี 2021 และภายในปี 2025 กำหนดให้ 25% ของขวดพลาสติกควรจะต้องรีไซเคิลได้ ทั้งนี้ 90% ของขวดเครื่องดื่มจะต้องถูกรวบรวมและรีไซเคิลภายในปี 2029

ฝรั่งเศส

     ต้องยกให้เป็นประเทศแรกที่ประกาศห้ามนำถ้วย จาน และช้อนส้อมพลาสติกเข้าประเทศทั้งหมดตั้งแต่ปี 2020 ทั้งนี้ฝรั่งเศสมีความพยายามที่จะเปลี่ยนเป็น “ประเทศที่เป็นแบบอย่างในด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การกระจายรูปแบบพลังงาน และเพิ่มการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน”

อังกฤษ

     ล่าสุดรัฐบาลอังกฤษประกาศห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น ถาด ชาม ช้อนส้อม และถ้วยโฟมและภาชนะบรรจุอาหารที่ทำจากโฟมโพลีสไตรีน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2023

สหรัฐฯ

     ในปัจจุบันในบางรัฐของสหรัฐก็ห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง อาทิ เช่น รัฐอลาสกา; บอสตัน และสหรัฐเตรียมแบนผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในอุทยาน ภายในปี 2032 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ คำสั่งจะครอบคลุมอุทยานแห่งชาติ 423 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงเขตพักพิงสัตว์ป่า ที่ดิน และแหล่งน้ำอื่น ๆ ที่บริหารจัดการโดยกระทรวงมหาดไทยของสหรัฐ

ออสเตรเลีย

     หลายๆ รัฐในออสเตรเลีย ต่างมีมาตรการห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2018 รวมทั้งวิกตอเรียเป็นรัฐล่าสุดของออสเตรเลียที่ห้ามขายถุงพลาสติก ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 ผู้ค้าปลีกทุกรายในวิกตอเรียจะถูกปรับอย่างหนัก

เวียดนาม

     ได้ออกกฎหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2020 มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการที่จะต้องทำให้ได้ภายในปี 2030 คือ หนึ่ง ลดขยะพลาสติกในทะเล 75% สอง กำจัดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งและถุงพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายตามชายฝั่ง สาม ท้องทะเลปราศจากขยะพลาสติก

จีน

     มีการห้ามใช้ถุงที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ในเมืองใหญ่ตั้งแต่สิ้นปี 2020 และในปี 2022 จะห้ามไม่ให้ใช้หลอดแบบใช้ครั้งเดียวในร้านอาหาร

บังกลาเทศ

     นับประเทศแรกที่ห้ามใช้ถุงพลาสติก นับตั้งแต่ค.ศ. 2002 หลังจากพบว่าถุงพลาสติกเข้าไปอุดตันท่อระบายน้ำจนทำให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศขึ้น และบังคลาเทศได้สร้างทางเลือกนำวัสดุจากธรรมชาติแทนพลาสติก นั่นคือปอกระเจา ทำเป็นเส้นใยที่ใช้ทำกระสอบผ้าใบให้เป็นวัสดุคล้ายพลาสติกแต่สามารถย่อยสลายได้

ไต้หวัน

     ไต้หวันประกาศแบนการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ทั้งถุงพลาสติก หลอด ช้อน ส้อม และถ้วยพลาสติก ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 

นิวซีแลนด์

     หลังจากการห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในปี 2019  รัฐบาลนิวซีแลนด์  กำลังวางแผนที่จะใช้ความคิดริเริ่มใหม่ๆ เพื่อ  กำจัดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

     Packaging Gateway รายงานว่ารัฐบาลนิวซีแลนด์มีแผนที่จะลงทุน 40 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (26.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อช่วยสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับพลาสติก

แคนาดา

     นายกรัฐมนตรีแคนาดาประกาศเมื่อปีที่แล้วว่าประเทศจะตั้งเป้าหมายห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวที่ “เป็นอันตราย” ภายในปี 2021 ได้แถลงการณ์ไว้ว่า “ในฐานะพ่อแม่ เราอยู่ในจุดที่ต้องพาลูกๆ ไปที่ชายหาดที่ไม่มีเศษ โฟม หรือขวด”

โมร็อกโก

    ที่นี่เคยมีการใช้ถุงพลาสติกสูงถึงปีละ 3 พันล้านใบต่อปี สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก จนรัฐบาลโมร็อกโกต้องออกประกาศห้ามใช้ถุงพลาสติกในปี 2009 แล้วค่อยห้ามผลิต ซื้อขาย นำเข้า และส่งออกถุงพลาสติกอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา นอกจากจะเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้ถุงพลาสติกภายในประเทศ เพื่อเป้าหมายในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นประเทศสีเขียวที่สะอาดและน่าอยู่

เยอรมนี

     เมืองฮัมบูร์กออกกฎหมายห้ามใช้พลาสติกเฉพาะกลุ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2016

ซิมบับเว

     ในปี 2017 พวกเขาออกกฎหมายห้ามใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ทำจากโพลีสไตรีน โดยมีโทษปรับตั้งแต่ 30 ถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ไทย

     ในประเทศไทยเองก็ได้เริ่มมีการรณรงค์เรื่องนี้ปี 2020 ร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว

อินโดนีเซีย

     เนื่องจากเป็นประเทศที่มีหมู่เกาะมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จึงต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวและการประมงเป็นอย่างมาก รัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศแผนที่จะกำจัดพลากสติกซึ่งเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจและสุนทรียภาพ โดยจะลดขยะพลาสติกลง 70% ภายในห้าปี และทั้งหมดภายในปี 2040 

อินเดีย

     รัฐบาลอินเดียประกาศห้ามใช้ ‘พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง’ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2022 โดยห้ามผลิต นำเข้า จัดเก็บ แจกจ่าย จำหน่าย และใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ซึ่งรวมถึงพลาสติกประเภทโพลีสไตรีน (polystyrene) ที่มักจะใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ของข้าวของเครื่องใช้และอาหาร

เคนยา

     ประกาศแบนถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในปี 2017 และในเดือนมิถุนายน 2020 ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวนำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เช่น ขวดน้ำและจานใช้แล้วทิ้งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ป่าไม้ ชายหาด และพื้นที่อนุรักษ์ สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนต้องโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือปรับ 38,000 ดอลลาร์

ทวีปแอฟริกา

     เป็นที่ซึ่งประเทศส่วนใหญ่ได้ออกกฎหมายห้ามทั้งการผลิตและการใช้ถุงพลาสติก

รวันดา

     ห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในปี 2008 จากข้อมูลของ Plastic Oceans การห้ามใช้ถุงพลาสติกเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของรวันดา มีเป้าหมายเป็นประเทศปลอดพลาสติกแห่งแรกของโลก

โซมาเลีย

     ห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในพื้นที่ที่ควบคุม ตั้งแต่ปี 2018

ซิมบับเว

     ในเดือนกรกฎาคมปี 2017  ซิมบับเวประกาศห้ามใช้ Expanded Polystyrene (EPS) ซึ่งเป็นวัสดุคล้ายโฟมที่ใช้สำหรับบรรจุอาหารที่ใช้เวลานานถึง 500 ปีในการย่อยสลาย ผู้ที่ละเมิดการแบนจะต้องจ่ายค่าปรับระหว่าง 30 ถึง 500 ดอลลาร์

วานูอาตู

     วานูอาตูเป็นประเทศแรกในมหาสมุทรแปซิฟิกได้ประกาศการเริ่มต้นของการเลิกใช้ถุงพลาสติกและขวดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2017

     นี่อาจเป็นสัญญานเตือนให้ผู้ผลิตต้องปรับตัวเริ่มหาวัตถุดิบชนิดใหม่ รวมถึงเทรนด์การทำการค้าที่ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น ถ้าอยากทำธุรกิจให้ยั่งยืน

ที่มา : https://www.dezeen.com/2023/01/17/england-single-use-plastic-plates-cutlery-ban/

https://www.india-briefing.com/news/india-new-plastic-waste-management-rules-single-use-plastic-ban-effective-from-july-1-2022-25398.html/

https://edition.cnn.com/2022/07/01/india/india-bans-single-use-plastic-intl-hnk/index.html

https://www.thenationalnews.com/world/uk-news/2022/12/19/france-to-ban-disposable-packaging-and-utensils-in-fast-food-restaurants/

https://www.independent.co.uk/climate-change/news/germany-single-use-plastic-ban-straw-cotton-bud-takeaway-box-a9583466.html

https://earth.org/germany-to-ban-single-use-plastic-2021/

https://www.iamexpat.de/expat-info/german-expat-news/germany-bans-many-single-use-plastics-mid-2021

https://designedconscious.com/plastics-in-the-ocean/sustainability-news-stories/countries-with-single-use-plastic-bans/

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

ESG จะเปลี่ยนความเสี่ยงเป็นโอกาสธุรกิจได้อย่างไร

แม้คำว่า ESG (Environment, Social, Governance) จะฟังดูเป็นเรื่องใหญ่โตและต้องใช้เงินลงทุน แต่แท้จริงแล้วเอสเอ็มอี ก็สามารถทำได้ เพราะนี่คือโอกาสและความท้าทายครั้งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ   

4 เครื่องมือช่วย “ตัดสินใจ” ที่ผู้ประกอบการต้องรู้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า

หากมีทางเลือกอยู่หลายทาง แล้วทางไหนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ และข้อผิดพลาดน้อยที่สุด SME Thailand เลยอยากจะแนะนำเครื่องมือที่ช่วยให้การตัดสินใจที่มีความรอบคอบและเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด