6 นิสัยที่บอกว่าคุณกำลังจะเป็นเศรษฐี

 

     คุณคิดว่าความร่ำรวยเป็นเรื่องบังเอิญไหม?

     ทำไมบางคนทำงานหนัก ทำธุรกิจมาตั้งมากมาย แต่ทำไมถึงยังไม่ร่ำรวยสักที ในขณะที่บางคนอาจใช้เวลาทำงานเท่ากัน หรือน้อยกว่า แต่ทำไมพวกเขาจึงประสบความสำเร็จรวยเป็นเศรษฐีขึ้นมาได้ นอกจากโชคชะตา ปัจจัยองค์ประกอบแวดล้อมทางธุรกิจแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาเติบโตร่ำรวยขึ้นมาได้ ก็คือ อุปนิสัยที่แตกต่างจากคนทั่วไป ซึ่ง Tom Corley นักบัญชี นักวางแผนทางการเงิน และนักเขียนชื่อดังเจ้าของผลงาน “Rich Habits: The Daily Success Habits of Wealthy Individuals” และหนังสือเทคนิคเกี่ยวกับเส้นทางสู่ความร่ำรวยอื่นๆ อีกมากมาย

     โดย Corley ได้ใช้เวลากว่า 5 ปีในการสัมภาษณ์นักธุรกิจเศรษฐีจำนวน 233 คน โดยเขาพบว่าในจำนวนกว่า 177 คน คือ เศรษฐีที่สร้างฐานะขึ้นมาด้วยตัวเอง และนี่คือ 6 อุปนิสัยที่เขาพบว่าบุคคลร่ำรวยเหล่านั้นมีกัน

อยากเป็นเศรษฐี - ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา

     Corley เล่าว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่เหล่าเศรษฐีที่เขาสัมภาษณ์ให้ความสำคัญ ก็คือ การเรียนรู้และพัฒนาตนเอง โดยกว่า

  • 49 % พวกเขาจะใช้เวลา 2-3 นาทีทุกวันเพื่อเรียนรู้คำศัพท์ใหม่

 

  • 61% มักจะแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาได้ฝึกฝนทักษะใหม่อย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อวัน

 

  • 63% กล่าวว่าพวกเขาชอบฟังหนังสือเสียงระหว่างเดินทางไปทำงาน

 

  • และ 71% มักอ่านหนังสือการสร้างความสำเร็จและฝึกฝนพัฒนาตนเอง โดยเฉพาะหนังสือเกี่ยวกับชีวประวัติของบุคคลตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ

 

อยากเป็นเศรษฐี - ต้องฟังให้มากกว่าพูด

     กลยุทธ์อีกข้อที่ Corley ได้เรียนรู้ระหว่างการสัมภาษณ์ ก็คือ กฎการฟังแบบ 5: 1 โดยในทุกครั้งที่มีการประชุมหรือรวมกลุ่มกันขึ้นมา ในทุกนาทีที่เศรษฐีเหล่านั้นพูด พวกเขาจะหยุดฟังเป็นเวลา 5 นาที วิธีดังกล่าวจะทำให้พวกเขาสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นในการทำงาน รวมถึงยังช่วยให้ได้มุมมองที่แตกต่างออกไปด้วย ซึ่งกว่า 81% บอกว่าพวกเขาต้องการคำติชมจากบุคคลอื่นทุกวัน ทั้งในและนอกที่ทำงานเสมอ

อยากเป็นเศรษฐี – ต้องสร้างทีมที่ยอดเยี่ยม

     โดยพบว่ากว่า 86% ของเหล่าเศรษฐีที่สร้างฐานะร่ำรวยขึ้นมาได้ด้วยตนเองมักทำงานโดยเฉลี่ยกว่า 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แน่นอนพวกเขาไม่ได้ทำงานเพียงลำพังคนเดียว โดยพวกเขาจะโฟกัสไปที่จุดแข็งและการหาวิธีมาปิดจุดอ่อนของธุรกิจ โดยถึงแม้ไม่ได้มีทักษะด้วยตนเอง แต่พวกเขาก็รู้จักมอบหมายงานและหน้าที่ให้บุคคลที่เก่งกว่าหรือมีความชำนาญเฉพาะในด้านนั้นๆ เพื่อจะได้มีเวลาไปโฟกัสกับเรื่องที่ใหญ่กว่า รวมถึงมีเวลา มีพลังกายและพลังใจที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตยั่งยืนต่อไป โดยการอยู่ท่ามกลางผู้คนที่มีวิสัยทัศน์และมองเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน จะทำให้ธุรกิจสามารถไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น

อยากเป็นเศรษฐี – ต้องมีฝันใหญ่

     Corley เล่าว่าเศรษฐีหลายคนที่เขาเคยสัมภาษณ์มา มักใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า ”การตั้งค่าความฝัน” โดยพวกเขามักนั่งลงเพื่อเขียนเป้าหมายชีวิตในอุดมคติว่าจะเป็นอย่างไรในอีก 10 ปีข้างหน้า ยกตัวอย่างเช่นเศรษฐีคนหนึ่งมีความหลงใหลในไวน์มาก และคิดว่าเขาสามารถลงทุนเป็นล้านๆ ไปกับไวน์ได้ ซึ่งคนรอบข้างแทบจะไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้เลย แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร กระทั่ง 15 ปีผ่านไป เขาได้กลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับไวน์ จนสุดท้ายสามารถซื้อบ้านในฝันบนชายหาดในฟลอริดาได้ และมีรายได้ 4 ล้านดอลลาร์ นั่นเป็นเพราะเขาปฏิเสธความคิดที่จะล้มเลิกไปตั้งแต่เมื่อวันแรกนั่นเอง

อยากเป็นเศรษฐี – ต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพของตนเอง

     การมีสุขภาพดี หมายถึงการมีอายุที่ยืนยาว ซึ่งก็เท่ากับว่ามีเวลามากขึ้นในการสร้างความมั่งคั่งให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเอง โดย Corley เล่าว่ามีเศรษฐีนีคนหนึ่งต่อสู้กับการลดน้ำหนักของตัวเองเป็นเวลานาน โดยเธอจะเดินเป็นระยะเวลาหนึ่งไมล์ต่อวันในทุกๆ วัน หลังจากหนึ่งเดือนก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 ไมล์ และ 3 ไมล์ตามลำดับ จนในที่สุดเธอสามารถลงแข่งขันในรายการวิ่งมาราธอนได้แล้วกว่า 3 ครั้ง โดยเธอเชื่อว่าพลังกาย ความมุ่งมั่น และแรงผลักดันที่ทำให้ประสบความสำเร็จได้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเป้าหมายการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถเปลี่ยนชีวิตของเธอได้ในที่สุด

อยากเป็นเศรษฐี – สร้างโชคให้กับตัวเอง

     โดยโชคในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการพนันเสี่ยงโชคอะไร เพราะกว่า 94% ของเศรษฐีที่ Corley บอกว่าพวกเขาไม่เคยเล่นการพนันเลย ซึ่งโชคในที่นี่ไม่ได้หมายถึงเรื่องบังเอิญ แต่หมายถึงการเสี่ยงดวงกับสิ่งใหม่ๆ โดยเศรษฐีหลายคนแบ่งปันความสามารถในการมองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น หรือเรียกง่ายๆ ว่า “โอกาส” เพื่อคิดหาหนทางที่จะสร้างสรรค์เส้นทางใหม่ๆ สู่ความสำเร็จเสมอ จนในที่สุดโชคก็เข้าข้างพวกเขา บุคคลที่ไม่ล้มเลิกตามความฝันหรือเป้าหมายของตนเองง่ายๆ

ที่มา : https://www.cnbc.com/2022/10/09/i-spent-5-years-interviewing-233-millionaires-here-are-the-habits-that-made-them-rich-and-successful.html

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

ESG จะเปลี่ยนความเสี่ยงเป็นโอกาสธุรกิจได้อย่างไร

แม้คำว่า ESG (Environment, Social, Governance) จะฟังดูเป็นเรื่องใหญ่โตและต้องใช้เงินลงทุน แต่แท้จริงแล้วเอสเอ็มอี ก็สามารถทำได้ เพราะนี่คือโอกาสและความท้าทายครั้งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ   

4 เครื่องมือช่วย “ตัดสินใจ” ที่ผู้ประกอบการต้องรู้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า

หากมีทางเลือกอยู่หลายทาง แล้วทางไหนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ และข้อผิดพลาดน้อยที่สุด SME Thailand เลยอยากจะแนะนำเครื่องมือที่ช่วยให้การตัดสินใจที่มีความรอบคอบและเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด