ความกดดัน กระตุ้นการทำงาน ได้จริงหรือ?

เรื่อง: วันวิสา งามแสงชัยกิจ

 

         ว่ากันด้วยเรื่องความกดดันของการทำงาน ในมุมมองที่ต่างกันระหว่าง “เจ้านาย” และ “พนักงาน”

         ฝั่งพนักงาน “ทำไมเจ้านายต้องกดดันเราซะขนาดนั้น...”

         ในขณะที่ฝั่งเจ้านายหรือเจ้าของกิจการ ก็อาจมองว่า “เครียดเล็กๆ กดดันหน่อยๆ แค่นี้จะเป็นไร งานจะได้เดิน งานจะได้ออกมาดี” หรือบางที “ยิ่งเครียดก็ยิ่งดีนะ”

 

ความเครียดช่วยให้คนทำงานได้ดีขึ้น..จริงหรือ?

            สิ่งที่ผู้ประกอบการในฐานะผู้นำองค์กรคิดอาจจะไม่ได้เกินจริงไปทั้งหมด เมื่องานวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย - เบิร์กลีย์ ชี้ให้เห็นว่า ความเครียดบางอย่างก็สามารถช่วยให้คนทำงานได้ดีขึ้นจริง

  • ในปี 2013 นักวิจัยได้ทดลองฉีดสเต็มเซลล์ในสมองของหนู
  • ทำให้มีความเครียดเกิดขึ้นทันที เรียกว่า Acute Stress หรือ “เครียดเป็นระยะเวลาสั้นๆ”
  • ส่งผลให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมา
  • 2 สัปดาห์ต่อมาหลังจากเซลล์ใหม่เติบโตเต็มที่ หนูมีความตื่นตัว พร้อมเรียนรู้ และมีความจำที่ดีขึ้น

 

ข้อสรุปจากนักวิจัย : ความเครียดที่เกิดขึ้นแบบทันที สามารถช่วยให้สมองตื่นตัว ซึ่งการตื่นตัวที่ดีขึ้นเช่นนี้จะนำมาสู่ประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้นนั่นเอง

          ในขณะที่ การทดลองด้านการตอบสนองต่อความเครียดในมนุษย์ของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย – ซานฟรานซิสโก ชี้ให้เห็นอีกว่า

  • ความเครียดเรื้อรัง เป็นตัวบ่อนทำลายกัดกร่อนจิตใจ
  • ความเครียดสั้นๆ หรือเฉียบพลันทันทีเพียงเล็กน้อย จะทำให้สมองของเรามีความยืดหยุ่นและสามารถทำให้เราอดทนต่อความกดดันต่างๆ ได้

 

เครียดแค่ไหนถึงจะพอ..และไปต่อได้

         อย่างไรก็ตาม ปัญหาโลกแตกที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ก็คือ “การหาตรงกลางระหว่างกันไม่เจอ” เพราะฉะนั้น การโดนกดดันอยู่เสมอจนนำไปสู่ความเครียดที่กัดกินทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของคนทำงาน จึงกลายเป็นโจทย์แห่งความท้าทายที่เจ้าของธุรกิจต้องหาคำตอบให้เจอ นั่นก็เพราะ

  • 1 ใน 4 ของพนักงานมองว่า งานของพวกเขานั้นเป็นความเครียดอันดับหนึ่งในชีวิต
  • 3 ใน 4 ของพนักงานปัจจุบันเชื่อว่า โดยเฉลี่ยของคนทำงานตอนนี้มีความเครียดในงานมากกว่าคนรุ่นก่อน
  • ความเครียดในสถานที่ทำงานทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 125 – 190 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
  • 65% บอกว่าความเครียดในที่ทำงานทำให้เกิดปัญหา และมากกว่า 10% ระบุว่าสิ่งเหล่านี้มีผลกระทบที่สำคัญ
  • 29% เคยตะโกนใส่เพื่อนร่วมงานเพราะความเครียดในที่ทำงานมาแล้ว
  • เกือบ 1 ใน 5 ของคนลาออกจากตำแหน่งเดิมเนื่องจากความเครียดจากงาน และเกือบ 1 ใน 4 ต้องเสียน้ำตาเพราะความเครียดในที่ทำงาน

 

       ที่สำคัญความกดดันหรือความเครียดที่มากเกินไปยังเป็นตัวลด Productivity ในการทำงาน ทำให้คนสูญเสียพลังงาน ไม่มีสมาธิ ลดทอนความคิดสร้างสรรค์ สร้างความเบื่อหน่ายและภาวะหมดไฟในการทำงาน สุขภาพกายย่ำแย่ สภาพจิตใจตกต่ำ จนสุดท้ายแล้วก็ต้องแยกทางกัน (แบบไม่เผาผี) ดีไม่ดียังดีดให้องค์กรมีอัตรา Turnover ของพนักงานสูงลิ่วก็ได้

        ดังนั้น ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ที่คนทำงานร่วมกันต้องร่วมกันหาตรงกลางและความพอดีระหว่างกันให้เจอ  

 

อ้างอิง:

https://www.fastcompany.com/3064562/sorry-but-some-work-related-stress-is-good-for-you

https://www.linkedin.com/pulse/moody-boss-anxious-employees-lower-engagement-upasana-dhanda

https://www.business.com/articles/stress-and-productivity-what-the-numbers-say/

https://www.cdc.gov/niosh/docs/99-101/

https://www.stress.org/workplace-stress

 

 

www.smethailandclub.com

ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

พลังของ Introvert ! ศักยภาพเงียบที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

Introvert ไม่ได้แค่ “อยู่เงียบๆ” แต่คือพลังสำคัญในโลกการทำงาน ทั้งคิดลึก ฟังเก่ง สร้างสรรค์ และนิ่งภายใต้แรงกดดัน มาดูกันว่าทำไมธุรกิจถึงไม่ควรมองข้ามพลังเงียบนี้

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร