เพราะหนึ่งในฟันเฟืองที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของการทำธุรกิจ ก็คือ ทรัพยากรบุคคล มีการกล่าวไว้ว่าหากสามารถบริหารจัดการดูแลบุคลากรในองค์กรได้ดีก็เหมือนมีอาวุธชั้นยอดอยู่ในมือที่แม้จะต้องเจอกับคู่แข่งนับร้อย หรือมีวิกฤตเข้ามาสักกี่ครั้งก็สามารถผ่านพ้นไปได้
ในโอกาสวันแรงงานแห่งชาตินี้เราจึงขอนำเสนอ 9 วิธีเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้พนักงานมาฝากผู้ประกอบการ SME กัน ซึ่งเมื่อพนักงานมีความแข็งแรงทางด้านจิตใจแล้วก็เปรียบเหมือนหัวใจที่แข็งแกร่งของธุรกิจนั่นเอง
เริ่มที่ผู้นำก่อน
การเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตามจะเกิดผลได้ดีที่สุดว่ากันว่าต้องเริ่มจากเมื่อผู้นำก่อน จึงจะสามารถมัดใจพนักงานได้ โดยมีสถิติบอกไว้ว่าการที่ผู้นำองค์กรใดก็ตามลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือทำให้เห็นเป็นตัวอย่างได้ จะทำให้พนักงานอยากเข้ามามีส่วนร่วมด้วยมากขึ้นถึง 55 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว
ชัดเจนและโปร่งใส
ข้อต่อมาสิ่งที่สามารถสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานได้ ก็คือ ความชัดเจนและโปร่งใส เชื่อสิไม่ว่าจะเป็นข่าวร้ายหรือข่าวดี การบอกความจริงออกไปให้ได้รับรู้ พนักงานของคุณก็พร้อมยอมรับ เพราะอย่างน้อยๆ การเปิดเผยข้อมูลให้รู้ถึงสถานการณ์ความจริงที่เกิดขึ้นนั่นเป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่าคุณให้ความสำคัญกับพวกเขา เชื่อใจกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกอยากมีส่วนร่วม และแน่นอนว่าพวกเขาย่อมพร้อมที่จะเผชิญหน้าและแก้ไขปัญหาไปพร้อมกัน เมื่อองค์กรเกิดความเป็นหนึ่งเดียวได้ ต่อให้ปัญหาและอุปสรรคจะเข้ามาแค่ไหน ก็สามารถฟันฟ่าไปได้อย่างแน่นอน
ให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์
โดยปกติแล้ว การประเมินผลการทำงานของพนักงานส่วนใหญ่มักจะทำกันเป็นรายปีหรือรายไตรมาส เพื่อให้คำแนะนำและชี้แนวทางการทำงานให้ แต่จากปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปโลกหมุนเร็วขึ้นทุกวัน การเปลี่ยนมาให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์ที่มีความใกล้ชิดและทันต่อสถานการณ์มากขึ้น อาจช่วยให้พนักงานของคุณบรรลุเป้าหมาย รวมถึงสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีด้วย
ให้อิสระรับผิดชอบด้วยตัวเอง
เพราะการเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่แค่การเดินนำหน้า แต่คือ การยอมก้าวถอยหลังไป เพื่อฝึกให้ผู้อื่นสามารถก้าวขึ้นมาดูแลรับผิดชอบได้บ้าง ซึ่งการปล่อยให้เหล่าพนักงานได้มีอิสระในการคิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง จะยิ่งทำให้พวกเขาเกิดความมั่นใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น จนวันหนึ่งสามารถเติบโตรับผิดชอบในหน้าที่ที่ใหญ่ขึ้นได้
ให้มากกว่าผลตอบแทน
นอกจากค่าตอบแทนที่จะได้รับตามที่ตกลงกันไว้แล้ว การเพิ่มเติมสวัสดิการล็กๆ น้อยๆ หรือสิทธิพิเศษ จะเป็นการช่วยกระตุ้นพนักงานให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็รู้สึกชื่นชมองค์กรด้วย เช่น อาหารกลางวันฟรี, มีห้องฟิตเนสให้เล่น, การส่งเสริมทักษะงานอดิเรกต่างๆ
หมั่นพูดคำว่า "ขอบคุณ"
เป็นเรื่องง่ายๆ แต่หลายองค์กรโดยเฉพาะในบริษัทขนาดใหญ่มักจะมองข้ามไป แต่เชื่อไหมว่าการให้กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลยจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและมีส่วนร่วมจากพนักงานได้มากถึงขึ้น 67 เปอร์เซ็นต์ และพนักงานอยากทำงานร่วมกับบริษัทได้มากขึ้น 1.3 เท่าเลยทีเดียว
จริงใจ
เพราะพนักงานไม่ใช่เครื่องจักร ดังนั้นแล้วการให้ความจริงใจ มีความปรารถนาดีซึ่งกันและกัน แม้จะเป็นในเรื่องงาน สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความไว้วางใจ สร้างความรู้สึกเป็นครอบครัวเดียวกันได้ ซึ่งนับเป็นสิ่งล้ำค่าที่หากเกิดขึ้นแล้วก็ย่อมเหนียวแน่น ไม่เปลี่ยนแปลงไปง่ายๆ
ใช้เวลาอื่นร่วมกันบ้าง
นอกจากการทำงานแล้ว หากมีเวลาว่างลองหากิจกรรมอื่นทำร่วมกัน หรือพูดคุยกันนอกเหนือจากเรื่องงานดูบ้าง เพราะไม่เพียงจะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำ หัวหน้างาน และพนักงานดีขึ้นแล้ว ยังทำให้ลดความตึงเครียด มีอะไรก็กล้าที่จะบอกกล่าว ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น บรรยากาศการทำงานก็สนุก ความคิดสร้างสรรค์ก็สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ยากด้วย
ให้โอกาสเติบโต
ข้อสุดท้ายนับเป็นอีกหนึ่งคุณธรรมของผู้นำธุรกิจที่สร้างให้เกิดความมั่นใจต่อพนักงานต่อการมองเห็นโอกาสความก้าวหน้า เพื่อให้พนักงานอยู่ร่วมกับองค์กรไปนานๆ โดยจริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องการมอบตำแหน่งใหม่หรือเงินที่มากมาย แต่อาจหมายถึงโอกาสการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การได้ฝึกฝนทักษะรับผิดชอบหน้าที่ที่มากขึ้น ซึ่งนับเป็นอีกสิ่งสำคัญที่สามารถสร้างขวัญและกำลังใจให้พนักงานได้ไม่น้อยเลย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี