TEXT : กองบรรณาธิการ
การเข้าห้องน้ำทำกิจธุระส่วนตัวอาจเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไปที่วันหนึ่งๆ เราอาจเข้าห้องน้ำ 2 – 3 เป็นอย่างน้อย แต่นั่นอาจไม่ใช่กับ บริษัท Anpu Electric Science and Technology ณ เมืองตงกวน มณฑลกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เพราะเขากำหนดให้พนักงานแต่ละคนสามารถเข้าห้องน้ำได้ไม่เกิน 1 ครั้งต่อวัน ใน 8 ชั่วโมงการทำงาน ไม่เช่นนั้นจะโดนปรับ!
เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นมาจากการที่ฝ่ายบริหารของบริษัทได้ออกกฎข้อบังคับดังกล่าวออกมาให้พนักงานปฏิบัติตาม โดยก่อนเข้าห้องน้ำพนักงานจะต้องมาลงทะเบียนแจ้งไว้กับหัวหน้างานก่อน และสามารถเข้าได้เพียงคนละ 1 ครั้งต่อวันเท่านั้น ซึ่งหากมากเกินกว่านี้จะต้องมีความผิด และต้องโดนปรับเป็นเงินจำนวน 20 หยวน หรือประมาณ 3 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ที่มาของกฎดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่บริษัทต้องการหามาตรการ เพื่อป้องกันการอู้งานของพนักงาน ซึ่งมีบางส่วนที่ชอบใช้ข้ออ้างของการเข้าห้องน้ำ เพื่อแอบหลบมาอู้งานเล่นโทรศัพท์มือถือบ้าง สูบบุหรี่บ้าง ทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร พวกเขาจึงได้ออกกฎและนำมาตรการดังกล่าวมาใช้
โดยในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้มีการลงโทษพนักงานไปแล้ว 7 คนด้วยกัน โดยมิได้หักจากเงินเดือน แต่ใช้วิธีหักจากโบนัสหรือเบี้ยขยันที่จะได้รับแทน
ซึ่งเมื่อเรื่องดังกล่าวรู้ไปถึงหูของสำนักงานทรัพยากรบุคคลและประกันสังคม ก็ได้มีการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้บริษัทคืนเงินค่าปรับให้แก่พนักงานที่ถูกลงโทษ
โดยบริษัทอ้างว่ากฎข้อบังคับดังกล่าวที่ตั้งขึ้นมาเป็นกฎภายในที่ได้ทำข้อตกลงกับพนักงานไว้แล้ว และยังกล่าวว่าก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้พยายามเจรจากับพนักงานที่ส่อพฤติกรรมอู้งานไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เป็นผล จึงได้ออกมาตรการดังกล่าวมาใช้
อย่างไรก็ดีเมื่อข่าวได้ถูกแพร่กระจายไปบนโซเชียลมีเดียต่างก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันออกมาหลายส่วน ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่เห็นด้วยที่มีการจำกัดสิทธิส่วนบุคคลมากจนเกินไป แต่ก็มีบางส่วนที่ปรบมือให้ว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่เฉียบขาดและได้ผล
ทั้งนี้ South China Morning Post หนังสือพิมพ์ของจีนได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า เป็นความจริงและเป็นเรื่องปกติที่พนักงานชาวจีนส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะที่ยังมีอายุน้อยมักใช้เวลาในการเข้าห้องน้ำแอบเข้าไปอู้งาน เพื่อสูบบุหรี่หรือเล่นโทรศัพท์มือถือ และทำให้เสียสมาธิในการทำงาน แต่การลงโทษดังกล่าวของบริษัทก็ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะสามารถยอมรับได้เช่นกัน
ซึ่งเหตุการณ์ออกกฎห้ามพนักงานเข้าห้องน้ำบ่อยๆ เมื่ออยู่ในชั่วโมงการทำงานของนายจ้างชาวจีนนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว คนงานชาวจีนในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองอูรุมชี เมืองหลวงของมณฑลซินเจียง ได้รับแจ้งว่า บริษัทห้ามใช้เวลาในการเข้าห้องน้ำนานเกิน 8 นาที ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับ 20 หยวนต่อนาที เพื่อป้องกันการแอบเข้าไปอู้งานและเล่นโทรศัพท์มือถือ ในขณะที่บางบริษัทถึงขั้นลงทุนด้านเทคโนโลยี เพื่อปิดกั้นสัญญาณอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ของห้องน้ำ เพื่อให้พนักงานของพวกเขาใช้เวลาในการเข้าห้องน้ำเร็วขึ้นนั่นเอง
ไม่น่าเชื่อว่าประเด็นเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเข้าห้องน้ำจะกลายมาเป็นประเด็นชี้วัดประสิทธิภาพของการทำงานไปได้ ถามว่าจะส่งผลต่อการทำงานจริงๆ ไหม ก็อาจมีความเป็นไปได้บ้าง แต่ยังไงก็เชื่อว่าการลิดรอนสิทธิส่วนบุคคลที่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับงานโดยตรง ยังไงก็คงไม่มีใครชอบแน่นอน และย่อมทำให้เกิดความรู้สึกในเชิงลบมากกว่า ซึ่งสุดท้ายต่อให้สามารถปฏิบัติตามได้ ก็ย้อนกลับมาส่งผลต่อคุณภาพของงานที่เกิดขึ้นอยู่ดี เพราะเมื่อทำงานไม่มีความสุข ผลงานที่ได้ก็ย่อมออกมาไม่ดีด้วย
อย่างไรเสีย นี่เป็นเพียงการนำเสนอตัวอย่างเรื่องราวทางธุรกิจที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาเล่าสู่กันฟังเท่านั้น หวังว่า SME บ้านเราคงไม่นำเอาไปใช้ เพราะการพูดจากันดีๆ สร้างแรงจูงใจเชิงบวก น่าจะส่งผลดีกับประสิทธิภาพของการทำงานได้มากกว่าการสร้างบาดแผลในใจให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
ที่มา : www.entrepreneur.com , www.scmp.com
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
RECCOMMEND: MANAGEMENT
“Quiet Quitting” หรือ “การลาออกเงียบ” เทรนด์การทำงานของคนยุคนี้ที่มีการพูดถึงกันมากเมื่อช่วง 2 ปีก่อน ล่าสุดคนรุ่นใหม่ หรือ คน Gen Z ต่างหันมาแต่งตัวไปทำงานด้วยชุดที่ไม่เหมาะสม เช่น การสวมชุดที่ดูคล้ายชุดนอนมาทำงาน, การแต่งกายด้วยชุดเวอร์วัง อย่างเสื้อคลุมขนสัตว์ที่ดูรุ่มร่าม เป็นต้น โดยมองว่าไม่ได้ทำผิดกฎอะไร แค่อยากแสดงออกเชิงสัญญาลักษณ์เฉยๆ
ความท้าทายไม่เคยขาดหายไปสำหรับผู้ประกอบการ SME ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเศรษฐกิจถดถอย แต่ทุกปัญหาล้วนมีทางออกเสมอสำหรับผู้ที่มีวิสัยทัศน์และยืนหยัดด้วยปรัชญาที่ถูกต้อง
เพราะครอบครัว คือ รากฐานสำคัญของทุกอย่าง หลายธุรกิจแจ้งเกิดเติบโตประสบความสำเร็จได้ เนื่องในวันครอบครัว 14 เมษายนนี้ เลยอยากชวนมาดู 5 หนังเรื่องราวธุรกิจที่มีความอบอุ่นของครอบครัวเป็นแรงผลักดันจนสำเร็จมาฝากกัน