เราทุกคนรู้ดีว่า 2564 จะเต็มไปด้วยความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับคนทำธุรกิจ ไม่ใช่แค่การปรับตัวและพัฒนาเท่านั้น แต่ต้องไม่ยอมติดกับดักวิธีทำงานแบบเดิมๆ จนถอยหลังลงคลอง และนี่คือ 15 เรื่องที่ควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยากสูญเสียธุรกิจของคุณไป
1. หลุดโฟกัส
เมื่อผู้ประกอบการลืมเหตุผลของการทำธุรกิจนี้ตั้งแต่แรก นั่นเท่ากับเดินอยู่บนเส้นทางแห่งความล้มเหลวแล้ว ตรวจสอบให้แน่ใจอย่างสม่ำเสมอว่าสินค้าและบริการเข้าถึงลูกค้า และประเมินอยู่ตลอดเวลาว่าคุณมาถูกทางหรือไม่ เพราะหากสินค้าและบริการไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าได้ เขาก็บอกลาธุรกิจของคุณน่ะสิ
2. ขาดความเป็นผู้นำ
ผู้นำองค์กรคือต้นทางนโยบายทั้งหมดขององค์กร ทั้งการขาย การตลาด การบริหารจัดการเป็นเพียงปลายของภูเขาน้ำแข็ง เมื่อผู้นำตัดสินใจผิดพลาดย่อมทำให้เกิดผลแย่ๆ ในปี 2564
3. ไม่สน ไม่แคร์ ไม่ใส่ใจพนักงาน
หากพนักงานไม่มีความสุข ไร้แรงจูงใจ ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะให้บริการลูกค้าอย่างขยันขันแข็ง องค์กรที่ประสบความสำเร็จมักจะให้ความสำคัญกับคนข้างใน และโครงสร้างภายในองค์กรก่อนจะออกไปสร้างรายได้และจัดการกับเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น
4. ไม่ทำงานร่วมกับพันธมิตร
องค์กรที่ไปได้ไกลมักมองหาโอกาสในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เริ่มต้นด้วยการแสวงหาโอกาสเริ่มต้นทำสิ่งเล็กๆ กับพันธมิตรที่มีศักยภาพ ความสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญในการชนะเกมนี้
5. สร้างกำแพงกับคนรอบข้าง
จงเป็นผู้นำที่คนอื่นสามารถขอความช่วยเหลือได้ และทำให้พวกเขามั่นใจว่าคุณจะช่วยเหลือพวกเขาได้ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ใช่แค่กับคนในองค์กรเท่านั้น แต่หมายถึงทั้งสื่อมวลชน ไปจนถึงคู่แข่งด้วย
6. ไม่สนใจลูกค้า
อย่าเพิกเฉยกับลูกค้า หลายครั้งที่องค์กรให้ความสำคัญกับเรื่องภายในมากเกินไป เช่น ความดีเลิศของผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการภายในที่ซับซ้อนเกินความจำเป็น แต่กลับลืมใส่ใจกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการที่สุด ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็สิ่งที่ตามมาก็คือรายได้ที่ลดลงและความถดถอยขององค์กร
7. ไม่เก็บคนที่มีความรับผิดชอบไว้
ความรับผิดชอบเป็นกุญแจสำคัญในความสำเร็จขององค์กร เราจะมีโอกาสทำงานสำเร็จตามเป้าหมายได้ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ถ้ามีความรับผิดชอบและมุ่งมั่นที่จะทำ มีงานวิจัยมากมายยืนยันว่าการที่มีคนที่มีความรับผิดชอบในองค์กร ประกอบกับการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีความรับผิดชอบ จะยิ่งเพิ่มโอกาสแห่งความสำเร็จมากขึ้นไปอีก
8. มีแผนแต่ดำเนินการไม่สำเร็จ
การดำเนินงานเป็นกระบวนการสำคัญที่สุดในการบรรลุเป้าหมาย หลายคนเอาแต่วางแผน วางนโยบายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่กลับล้มเหลวเมื่อถึงเวลาดำเนินการ ฉะนั้น จงตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ โดยการดำเนินการตามภารกิจและเป้าหมายที่กำหนดไว้ให้ได้
9. ไม่ยอมเสี่ยงทำการใดๆ
หลายธุรกิจต้องทนทุกข์ทรมานเพราะปฏิเสธที่จะรับความเสี่ยง ไม่ยอมใช้เทคโนโลยี หรือปรับรูปแบบธุรกิจตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เพราะไม่มีอะไรการันตีว่าจะสำเร็จจริงหรือไม่จนกลัวว่าที่ลงทุนไปจะเสียเปล่า แต่จงจำไว้ว่าความเสี่ยงทางธุรกิจไม่ได้มีแค่ความเสี่ยงทางการเงินเท่านั้น การลงทุนไปต่อให้ยังไม่ได้รายได้กลับมา ก็ยังสามารถสร้างช่องทางการหารายได้ใหม่ๆ หรือคว้าโอกาสที่คนอื่นไม่ยอมคว้าเอาไว้ได้เหมือนกัน
10. ไม่มีมาตรฐาน
ไม่มีบริษัทรถยนต์ที่ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย หรือสายการบินที่ไม่มีมาตรฐานการปฏิบัติงาน เพราะการขาดมาตรฐานอาจนำไปสู่ผลกระทบอันเลวร้าย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจของคุณทำงานด้วยมาตรฐานระดับสูง ซึ่งหมายถึงการทำสิ่งที่ดีที่สุด คาดหวังสิ่งที่ดีที่สุด และสร้างคุณภาพและมาตรฐานขั้นต่ำที่ยอมรับได้ภายในองค์กร
11. ปล่อยให้พนักงานทำตามใจชอบ
พนักงานบางคนในบริษัทอาจมีการกระทำที่บ่อนทำลายมาตรฐานขององค์กร และบางครั้งคนๆ นั้นอาจเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงก็ได้ แต่พึงระลึกไว้เสมอว่า “ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร” ฉะนั้นจงสร้างและรักษาวัฒนธรรมองค์กรของคุณให้เป็นองค์กรที่ปลอดภัย และมีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร
12. เน้นการแข่งขันมากเกินไป
บางอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการแข่งขันในตลาด เพราะมีคู่แข่งจำนวนมากนำเสนอผลิตภัณฑ์เดียวกัน หรือมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ดังนั้น สภาพของธุรกิจคือ “ทำ” หรือ “ตาย” แต่หากเอาแต่โฟกัสอยู่ที่การแข่งขันว่าทำอย่างไรที่จะขายได้มากกว่า สาดโปรโมชั่นและการตลาดเพื่อแย่งชิงลูกค้าให้ได้ แบบนั้นธุรกิจของคุณอาจจะล้าหลังด้านการสร้างสรรค์และคิดนอกกรอบ ถ้าจะให้ดีลองหันกลับมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ดี มีคุณค่าต่อลูกค้า และยกระดับมาตรฐานของธุรกิจดีกว่า
13. ไม่สนใจคำวิจารณ์
เคยมีคนมาวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแบรนด์คุณหรือเปล่า? ถ้าไม่ล่ะก็แสดงว่าคุณไม่ได้สร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเลย ธุรกิจใดก็ตามควรมีนักวิจารณ์และมีผู้ชี้แนะให้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง บอกทั้งข้อดี ข้อเสีย ลองใส่ใจคนที่ชี้นิ้วมาที่ธุรกิจของคุณ และฟังว่าเขากำลังบอกอะไร คุณอาจจะเห็นหนทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาธุรกิจ
14. ไม่สนใจสังคม
ในปี 2564 องค์กรของคุณต้องมีส่วนร่วมในสังคมบ้าง ช่วยให้พนักงานเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ลองทำงานใกล้ชิดกับชุมชนรอบข้างที่สนับสนุนธุรกิจของคุณ มีส่วนร่วมและเป็นมิตรกับพวกเขามากขึ้นอีกหน่อยสิ
15. หยุดเรียนรู้
หากหยุดเรียนรู้แล้วล่ะก็คงไม่สามารถสร้างสรรค์อะไรได้มากนัก หลายธุรกิจกำลังตายไปอย่างช้าๆ หรืออยู่รอดอย่างยากลำบากเพราะถูกเทคโนโลยีบดขยี้เพราะปฏิเสธความเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้เข้ากับวิธีการทำธุรกิจแบบใหม่ จงทำตัวเป็นผู้หิวโหยองค์ความรู้ และมองหาสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ'
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี