Main Idea
How to สร้าง “แก๊งเสื้อยืด” ในองค์กร
- เปิดรับและเข้าใจความแตกต่างของคนทำงานรุ่นใหม่
- ยืดหยุ่นเวลางานและการแต่งกายให้ถูกกับจริตคนยุคนี้
- มองที่ผลลัพธ์ไม่ใช่วิธีการ
- ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน
การทำตัวให้อยู่ในกระแส รู้ทันเทรนด์ เข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ๆ และใช้เทคโนโลยีให้คล่องแคล่ว อาจเป็นเรื่องยากและจุดอ่อนของ SME ยุคเก่า แต่ถ้าองค์กรเรามี “แก๊งเสื้อยืด” หรือกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่อยู่ในองค์กรด้วยแล้วล่ะก็ จากจุดอ่อนจะกลายเป็น “แต้มต่อ” ของธุรกิจขึ้นมาได้
“แก๊งเสื้อยืด” ม้าศึกพลิกเกมรบ SME ยุคใหม่
หนึ่งในความท้าทายของ SME วันนี้ คือการปรับตัวเองให้เท่าทันกับโลกยุคใหม่ และเลือกใช้เทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจ เพื่อที่จะต่อกรกับบริษัทขนาดใหญ่ คู่แข่งที่มีอยู่รอบด้าน และยืดหยัดอยู่ได้ท่ามกลางสนามรบที่ท้าทายนี้ แต่ใช่ว่า SME ทุกคนจะสามารถปรับตัวเองได้ หนึ่งในทางออกก็คือการสร้างคนรุ่นใหม่ๆ “ม้าศึกเลือดใหม่” เข้ามาในองค์กรให้มากขึ้น
“สมัยก่อนถ้าใครถามว่าบริษัทผมเจ๋งที่สุดเรื่องอะไร ผมตอบด้วยความมั่นใจว่า กาแฟผมอร่อย ร้านผมนั่งสบายมาก แต่วันนี้พอเจอวิกฤตเราไม่เหลืออะไรเลย ไม่ว่าจะ Product หรือ Place แต่สิ่งที่พาเรารอดมาได้ก็คือทีมงานคนรุ่นใหม่ ที่เราเรียกว่าแก๊งเสื้อยืด ที่ช่วยกันคิดนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้เราลุยไปข้างหน้าและกลับมาต่อสู้ได้ใหม่ ผมบอกได้เต็มปากว่าคนกลุ่มนี้สำคัญมาก การรับฟังน้องๆ ทำให้เราได้มุมมองใหม่ๆ เยอะแยะไปหมด วิธีคิดของพวกเขามันไม่มีกรอบ ไม่มีกฎเกณฑ์ มันมีแต่ว่าเทคโนโลยีอะไรที่พร้อมใช้ เขาใช้ ในขณะที่ SME เรายังกลัวเรื่องเทคโนโลยี ยังมองว่า AI ไกลตัว ทั้งที่แค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็มี AI อยู่ในนั้นเต็มไปหมด ฉะนั้นวิธีเริ่มต้นที่เร็วและง่ายที่สุดก็คือ การหาน้องๆ แก๊งเสื้อยืด เขามาทำงานในองค์กร แก๊งนี้จะทำให้เราเข้าไปหาเทคโนโลยีได้เร็วขึ้น”
“มารุต ชุ่มขุนทด” ผู้ก่อตั้งร้านกาแฟ CLASS Café หนึ่งในองค์กรที่เชื่อในพลังของแก๊งเสื้อยืดบอกกับเราถึงความจำเป็นที่ SME ต้องมีกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ โดยย้ำว่าหากองค์กรไหนขาด เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก และอยู่รอดยากในโลกยุคต่อจากนี้
เพราะคนรุ่นใหม่โตมากับสื่อดิจิทัล คนกลุ่มนี้ไม่กลัวเทคโนโลยี และปรับใช้เทคโนโลยีได้เร็ว จึงเข้ามาช่วยแก้ปัญให้กับ SME ยุคเก่าได้ แต่หัวใจสำคัญคือ SME ต้องเข้าใจไลฟ์สไตล์การทำงานและความต้องการของคนรุ่นใหม่...แน่นอนว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากคนรุ่นเก่า
“บางคนบอกว่าเด็กรุ่นนี้ไม่ได้เรื่องเลย ไม่อดทน อยู่ที่ไหนก็ไม่นาน แต่ถามว่าเราเข้าใจแก๊งนี้จริงหรือเปล่า อย่างบริษัทรุ่นเก่าที่ไม่มีแก๊งเสื้อยืดอยู่ สิ่งแรกที่เขาทำคือเวลาทำงานอย่าหยิบมือถือนะ แต่คนรุ่นใหม่เขาอยู่ไม่ได้ถ้าขาดมือถือเพราะว่าเขาอัพเดท Facebook ตลอดเวลา เขาคุยกันผ่านไลน์ตลอดเวลา ถ้าเราไปตัดการเชื่อมต่อเขาออกจากโลกของเขา เขาหายใจไม่ออก หรือบริษัทบังคับว่าต้องใช้ PC ในการทำงาน แล้วนั่งอยู่หน้าเครื่องตลอดเวลานะ แต่แก๊งเสื้อยืดเขาใช้งาน iPad เขาไม่ได้แบก PC มาทำงานด้วย สุดท้ายเมื่อบริษัทไม่เข้าใจ เขาก็อยู่ไม่ได้ ก็ลาออกไปเพราะว่าไลฟ์สไตล์เขามันไม่แมทช์กับองค์กร กลายเป็นว่าเราบอกเขาไม่อดทน แต่ที่จริงแล้วเพราะเราไม่เข้าใจเขาหรือเปล่า
ยกตัวอย่างที่ CLASS Café เราคุยกับแก๊งเสื้อยืดผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์กปรากฏว่าเราทำงานได้เร็วกว่าเดิมมาก อย่างเวลาที่ลูกค้าร้องเรียนอะไรบนโซเชียลเน็ตเวิร์กคนกลุ่มนี้จะเข้าไปแก้ไขทันทีเพราะเขาหยิบมือถือตลอดเวลา นี่คือสิ่งหนึ่งที่เป็นบริบทที่ตรงข้ามกับคนยุคเก่า ซึ่งเราต้องเข้าใจช่องว่างระหว่างวัยให้มากขึ้น ถ้าเข้าใจและใช้เขาให้เป็นเราก็จะอยู่ร่วมกับแก๊งเสื้อยืดได้”
ปรับรูปแบบการทำงานรับไลฟ์สไตล์แก๊งเสื้อยืด
“Shipyours” บริการคลังสินค้าออนไลน์สำหรับ SME ก็เป็นหนึ่งในองค์กรที่เต็มไปด้วยแก๊งเสื้อยืด แม้แต่ตัวผู้ก่อตั้งอย่าง “อานันท์ สุขุมภาณุเมศร์” ก็เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ เขาปรับองค์กรให้ยืดหยุ่นและรับกับจริตของแก๊งเสื้อยืดด้วยการทำงานแค่ 4 วัน ส่วนอีก 3 วันที่เหลือจะไปทำงานจากที่ไหนก็ได้ ขอแค่รายงานการทำงานกลับมาให้รับทราบเท่านั้น
“พนักงานของเราเข้าออฟฟิศแค่สัปดาห์ละ 4 วัน คือวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี ส่วนวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ให้อยู่บ้านแต่เขาต้องรายงานการทำงานกลับมาผ่านโซเชียลมีเดีย ผ่านเทคโนโลยี ข้อดีคือผมสามารถดึงดูดคนเก่งๆ ได้ค่อนข้างเยอะอย่าง Marketing ที่บริษัทก็ย้ายมาจากบริษัทใหญ่ซึ่งจริงๆ แล้ว เงินเดือนเขาก็เยอะนะ แต่เขาย้ายมาหาผมเพราะรู้สึกว่าการทำงานแบบนี้มันถูกจริตมากกว่า มันเริ่มงานเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเราโฟกัสไปที่ผลลัพธ์ นี่คือจุดต่าง”
อานันท์ ยกตัวอย่าง คนรุ่นเก่าที่อาจมองว่าการอยู่ในที่ทำงาน การเข้าทำงานทุกวัน หรือการใส่ชุดยูนิฟอร์ม เป็นตัวชี้วัดความตั้งใจในการทำงาน แต่ในความเป็นจริงคนยุคนี้อาจมองว่าจริงๆ แล้ว เขาจะเป็นแบบไหนหรือทำงานอย่างไรก็ได้ ขอแค่ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจก็พอแล้ว นี่เป็นสิ่งที่องค์กรยุคนี้ต้องเข้าใจคนกลุ่มนี้ให้มากขึ้น
ออฟฟิศไร้สตาฟ เมื่อคนทำงานจากที่ไหนก็ได้
ในอดีตเราเคยคิดว่างานบริการอย่างโรงแรมจำเป็นที่จะต้องใช้คนมาให้บริการ โรงแรมต้องมีพนักงานมาคอยยกมือไว้และให้การต้อนรับลูกค้า แต่นี่ไม่ใช่กับ บีไฮฟ์ ภูเก็ต โอลด์ทาวน์ โฮสเทล เพราะ “มโนสิทธิ์ แจ้งจบ” ผู้ก่อตั้งโรงแรมเชื่อว่าคนยุคนี้ไม่ได้ชอบอะไรที่ยุ่งยากและโรงแรมสามารถให้บริการโดยไร้คนได้ถ้าใช้เทคโนโลยีและพลังของแก๊งเสื้อยืดเข้ามาช่วย
“เรากำลังจะเป็นโรงแรมที่ไร้สตาฟ คือไม่จำเป็นจะต้องมีสตาฟมาคอยสวัสดี ถ้าเราเข้าใจคนรุ่นใหม่เราจะพบว่าเขาไม่ได้อยากเจอคน แต่อยากเดินเข้ามาในโรงแรมแล้วไปถึงห้องได้ทันที ซึ่งเราสามารถตอบสนองเขาได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย อย่างตอนนี้แก๊งเสื้อยืดของเราอยู่กันคนละจังหวัด แต่โรงแรมยังเปิดให้บริการได้ เพราะเราทำทุกอย่างอยู่บน Cloud หมด แก๊งเสื้อยืดเราใช้ Facebook ใช้ไลน์คุยกับลูกค้าว่าจะเข้ามาโรงแรมกี่โมง ถ้าสมมุติมีใครมีปัญหาสามารถติดต่อได้ตลอด ฉะนั้นการที่เขาดูจอหรือติดสื่อพวกนี้มันมีประโยชน์ เพราะเขาสามารถทำงานได้ตลอดเวลา
อย่าง ผมทิ้งงานไว้ในกรุ๊ปไลน์บอกเขาว่าของานนี้ก่อน 9 โมงนะ เขาไม่ได้อ่านในทันที แต่ผมก็ไม่ต้องไปหงุดหงิดว่าทำไมเขาไม่อ่านหรือไม่รับสาย เพราะเดี๋ยว 9 โมงจะมีงานมาส่งแน่ๆ นี่คือตัวอย่างการทำงานกับแก๊งเสื้อยืดที่ต้องมีแนวคิดที่รีแล็กซ์และยืดหยุ่น เขาทำงาน 24 ชั่วโมงแบบไม่ปะติดปะต่อ ไม่โฟกัส แต่ถามว่าเขามีความรับผิดชอบไหม มันขึ้นอยู่กับว่าเรามอบหมายงานเขาแบบไหน แล้วมีเงื่อนไขอะไรกับเขา ผมยังเชื่อว่า ถ้าคนรุ่นเก่าเปิดใจ และเข้าใจว่าคนรุ่นนี้เขาเป็นอย่างไร เราจะสามารถทำงานร่วมกับเขาได้ง่ายขึ้น และงานก็จะมีผลลัพธ์แบบที่เราต้องการได้”
นี่คือตัวอย่างขององค์กร SME รุ่นใหม่ที่เชื่อในพลังของ “แก๊งเสื้อยืด” และมีผลงานพิสูจน์แล้วว่า คนรุ่นใหม่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนองค์กรยุคนี้ ขอแค่เข้าใจ เปิดใจ ยอมรับ และปรับตัวเข้าหากัน แก๊งยูนิฟอร์มกับแก๊งเสื้อยืดก็สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติและร่วมขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จแบบที่ต้องการได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
