อยากเป็นองค์กรเนื้อหอมที่พนักงานหลงรัก ต้องปลดล็อกข้อจำกัดเรื่องสถานที่และเวลา




Main Idea
 
  • การพัฒนาด้านเทคโนโลยีทำให้เราสามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา จนกลายเป็นปัจจัยหลักที่พนักงานยุคใหม่เลือกเข้าทำงานในองค์กรต่างๆ
 
  • บริษัทหรือองค์กรที่มีความยืดหยุ่นในการทำงานจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงเพิ่มความสุขของพนักงานไปได้พร้อมกัน



               
     การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีทำให้เราสามารถทำงานได้ทุกที่และทุกเวลา จนกระทั่งกลายเป็นความท้าทายของธุรกิจต่างๆ ว่าจะเลือกสร้างประโยชน์จากพฤติกรรมนี้ให้มากที่สุดได้อย่างไร ผลสำรวจล่าสุดจาก IWG พบว่างานที่มีความยืดหยุ่น (Flexible Working) เช่น เวลา สถานที่ ฯลฯ ได้กลายเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกตำแหน่งงานหรือเปลี่ยนงาน
               



     เมื่อให้พนักงานจัดลำดับความสำคัญของผลประโยชน์ที่ได้จากที่ทำงาน พบว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ปฏิเสธงานที่ไม่ให้ความยืดหยุ่นในการทำงาน และอีก 54 เปอร์เซ็นต์ บอกว่างานที่มีตัวเลือกในเรื่องของสถานที่ทำงาน มีความสำคัญมากกว่าการได้วันหยุดเพิ่ม ซึ่งแปลว่างานหนักไม่ใช่ปัญหาหากสามารถเลือกสถานที่ทำงานได้ และการที่ทำงานที่ไหนก็ได้กลายเป็นสิ่งที่พนักงานคาดหวัง โดย 70 เปอร์เซ็นต์ เล็งเห็นว่าการมีตัวเลือกของสถานที่ทำงานเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่นำมาประเมินในการหาโอกาสใหม่ๆ ทางสายอาชีพ เป็นเสมือนบรรทัดฐานใหม่เมื่อต้องการก้าวสู่ขั้นต่อไปในการทำงาน
               

     องค์กรหลายแห่งเล็งเห็นเทรนด์แล้วปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อผลประโยชน์ที่อาจได้รับจากการทำงานที่คล่องตัว โดยที่พนักงานไม่เพียงแต่ได้ทำงานในสถานที่ที่หลากหลาย แต่ยังเพิ่มความพึงพอใจ ประสิทธิภาพในการทำงาน ไปจนถึงประสิทธิภาพของธุรกิจอีกด้วย
               



     ในอุตสาหกรรมที่ใช้ความรู้เป็นพื้นฐาน อย่าง ธุรกิจการให้คำปรึกษา และธุรกิจ ICT ได้เริ่มปรับใช้โครงสร้างการทำงานแบบยืดหยุ่นแล้วเพื่ออำนวยต่อการทำงานนอกสถานที่ เช่นเดียวกับผู้นำทางธุรกิจทั้งหลายที่เริ่มตระหนักได้ถึงความสำคัญ และจุดเด่นของการทำงานแบบยืดหยุ่น ซึ่งส่งผลดีต่อการดึงดูดพนักงานที่มีศักยภาพสูง รวมถึงเพิ่มความสุขในการทำงานให้กับพนักงานอีกด้วย
               

     แต่ก่อนการทำงานที่ยืดหยุ่นมักใช้แค่ในกลุ่มพ่อแม่มือใหม่ที่ต้องการอยู่ใกล้ลูกน้อย แต่ปัจจุบันการทำงานแบบไม่ยึดติดกับสถานที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในทุกระดับอาชีพ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ อย่างยุคมิลเลนเนียล ซึ่งคุ้นชินกับการสื่อสารตลอด 24 ชั่วโมง มักชื่นชอบความคล่องตัวและยืดหยุ่นในการทำงาน
               



     อีกหนึ่งข้อดีของการทำงานแบบยืดหยุ่นที่สำคัญอย่างยิ่ง ได้แก่ เวลาในการเดินทางไปทำงานลดลง พนักงานสามารถนำเวลา และความกดดันในการเดินทางที่ต้องเผชิญกับรถติด หรือระบบขนส่งมวลชนที่เบียดเสียดไปโฟกัสในการทำงานได้มากขึ้นเช่นกัน
               

     ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยส่งเสริมความหลากหลายในระดับอายุของหลายๆ องค์กร เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มคนเกษียณมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอีกด้วย
               

     SME ที่อยากรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรไปนานๆ และเป็นองค์กรที่คนทำงานหลงรัก ก็สามารถนำไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้ได้
 


ที่มา : IWG
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet Quitting เวอร์ชั่นใหม่จากจีน! ประท้วงแบบใหม่ แบบสับ แห่แต่งชุดไม่เหมาะสมไปทำงาน เรียกร้องสวัสดิภาพที่ดี

“Quiet Quitting” หรือ “การลาออกเงียบ” เทรนด์การทำงานของคนยุคนี้ที่มีการพูดถึงกันมากเมื่อช่วง 2 ปีก่อน ล่าสุดคนรุ่นใหม่ หรือ คน Gen Z ต่างหันมาแต่งตัวไปทำงานด้วยชุดที่ไม่เหมาะสม เช่น การสวมชุดที่ดูคล้ายชุดนอนมาทำงาน, การแต่งกายด้วยชุดเวอร์วัง อย่างเสื้อคลุมขนสัตว์ที่ดูรุ่มร่าม เป็นต้น โดยมองว่าไม่ได้ทำผิดกฎอะไร แค่อยากแสดงออกเชิงสัญญาลักษณ์เฉยๆ

ไม่อยากเจ๊งต้องอ่าน รวมทางออกให้ธุรกิจไปต่อ ยามเจอวิกฤตเศรษฐกิจเลวร้าย

ความท้าทายไม่เคยขาดหายไปสำหรับผู้ประกอบการ SME ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเศรษฐกิจถดถอย แต่ทุกปัญหาล้วนมีทางออกเสมอสำหรับผู้ที่มีวิสัยทัศน์และยืนหยัดด้วยปรัชญาที่ถูกต้อง

5 หนังครอบครัวฟีลกู้ด ที่คนทำธุรกิจควรดู

เพราะครอบครัว คือ รากฐานสำคัญของทุกอย่าง หลายธุรกิจแจ้งเกิดเติบโตประสบความสำเร็จได้  เนื่องในวันครอบครัว 14 เมษายนนี้ เลยอยากชวนมาดู 5 หนังเรื่องราวธุรกิจที่มีความอบอุ่นของครอบครัวเป็นแรงผลักดันจนสำเร็จมาฝากกัน