Main Idea
- องค์กรจำนวนไม่น้อยเลยที่เฟ้นหาพนักงานคล้ายๆ กัน ทัศนคติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตำแหน่งนี้ต้องเพศนี้เท่านั้นหรืออาจจะเลือกแค่เด็กจบใหม่จากสถานศึกษาชั้นนำของประเทศ
- ยังมีอีกมุมหนึ่งที่ผู้นำองค์กรต้องรู้เลยคือความหลากหลายของคนในองค์กรอาจกลายเป็นโอกาสที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้มากขึ้นกว่าการคัดเลือกพนักงานที่เป็นแบบเดียวกันทั้งหมดหรือโยนตำแหน่งงานสูงๆ ให้แก่พนักงานชายเท่านั้น! ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
มีองค์กรจำนวนไม่น้อยเลยที่เฟ้นหาพนักงานคล้ายๆ กัน ทัศนคติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตำแหน่งนี้ต้องเพศนี้เท่านั้นหรืออาจจะเลือกแค่เด็กจบใหม่จากสถานศึกษาชั้นนำของประเทศ แต่ความเป็นจริง ยังมีอีกมุมหนึ่งที่ผู้นำองค์กรต้องรู้เลยคือความหลากหลายของคนในองค์กรอาจกลายเป็นโอกาสที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้มากขึ้นกว่าการคัดเลือกพนักงานที่เป็นแบบเดียวกันทั้งหมดหรือโยนตำแหน่งงานสูงๆ ให้แก่พนักงานชายเท่านั้น! ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
จากบริษัทชั้นนำที่อยู่ในการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์จูนทั้ง 500 อันดับ (Fortune 500 Companies) มีเพียงผู้หญิงแค่ 24 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับสูงหรือ CEO เทียบเป็นแค่ 1 ใน 4 เท่านั้นเอง แต่การทำงานในยุคใหม่ พฤติกรรมและทัศนคติเกี่ยวกับผู้หญิงในระดับบริหารกำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยผลสำรวจของ Ipsos บริษัทสำรวจและวิจัยตลาดจากประเทศฝรั่งเศสได้ทำการสำรวจและพบว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลก รู้สึกสบายใจที่จะทำงานร่วมกับหัวหน้าผู้หญิง
ยกตัวอย่างจาก IWG ผู้ดำเนินการบริหารแบรนด์ผู้ให้บริการพื้นที่สำนักงานชั้นนำระดับโลกพวกเขาเผยว่า 69 เปอร์เซ็นต์ของพนักงาน IWG ที่เป็นผู้บริหารระดับกลางเป็นผู้หญิง และในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของ IWG ที่เป็นผู้หญิงมีจำนวนสูงถึง 41 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับ IWG ประเทศไทยที่ได้มีผู้บริหารหญิงมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมดในประเทศไทย โดยมีส่วนช่วยในการขยับขยายแบรนด์พื้นที่สำนักงานภายใต้ IWG ร่วมกันถึงสามแบรนด์ซึ่งประกอบด้วย Regus (รีจัส), Spaces (สเปซเซส) และ HQ (เอชคิว) หนึ่งในเคล็ดลับแห่งความสำเร็จคือการเปิดรับวัฒนธรรมที่หลากหลายทางทรัพยากร ช่วยให้การทำงานมีความยืดหยุ่นและสมดุล ซึ่งความยืดหยุ่นและความเท่าเทียมในองค์กรส่งผลให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุขอีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการเติบโตธุรกิจได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
·
4 เหตุผลว่าทำไมผู้หญิงจึงเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม
1.พวกเธอให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance
ผู้นำหญิงส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance เนื่องจากพวกเธอเข้าใจดีว่าพนักงานทุกคนมีชีสิตส่วนตัวที่แสนมีค่าไม่แพ้กับการทำงานในองค์กรเลย เธอเองก็เช่นกัน ผู้นำหญิงหลายคนมีอีกหลายบทบาทที่ต้องทำหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็น หน้าที่ภรรยา หน้าที่คุณแม่ของลูกน้อยหรือหน้าที่ลูกสาวของครอบครัว เมื่ออยู่ในองค์กรเธออาจจะแสดงบทบาทผู้นำอย่างเต็มที่ ตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จลุล่วงเพื่อที่เธอจะได้ใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน และเธอก็มักจะคาดหวังให้ลูกน้องใช้ชีวิตส่วนตัวให้มีความสุขด้วย
2.สื่อสารอย่างสร้างสรรค์
ผู้หญิงกับเรื่องการสื่อสารเป็นของคู่กัน ต่างจากผู้ชายที่มักจะเก็บเงียบ มีปัญหาอะไรไม่ยอมบอก ไม่ยอมพูด ไม่ค่อยแชร์แต่จะซุ่มเงียบเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ส่วนผู้นำหญิงเธอมักจะใช้การสื่อสารที่สร้างสรรค์กับผู้อื่นเสมอ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในทีมก็ต้องแชร์กัน หากใครทำผลงานได้ยอดเยี่ยม เธอก็จะลืมที่จะกล่าวชมคนในทีมหรือหากใครทำผิดพลาด เธอก็สามารถใช้คำพูดตำหนิได้อย่างอ่อนโยน นี่แหละคือความสามารถเฉพาะตัวของเหล่าผู้นำหญิงสุดแข็งแกร่ง
3.โฟกัสที่ความเป็นทีม
ทีมคือสิ่งสำคัญของการทำงานร่วมกัน และผู้นำหญิงให้ความสำคัญกับทีมมาเป็นอันดับต้นๆ เธอมักจะมีพลังงานที่ล้นเหลือในการกระตุ้นการทำงานของคนในทีม สร้างกำลังใจ ปลอบโยน มีความสามารถในการดึงศักยภาพของแต่ละคนออกมาได้อย่างเต็มที่ อาจเพราะผู้นำหญิงส่วนใหญ่ติดบทบาทนี้มาจากการเป็นคุณแม่ในครอบครัวที่ต้องสร้างความสุขให้แก่ทุกคนในบ้าน ดูแลลูก ดูแลสามี ดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อย ครอบครัวและทีมจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเธอ
4.อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ
เสน่ห์อีกอย่างของความเป็นผู้หญิงคือพวกเธอจะมีความอ่อนโยนแต่พวกเธอแข็งแกร่งกว่าที่ใครๆ คิด หลายคนอาจมองภายนอกแล้วเห็นลุคของผู้บริหารหญิงที่แต่งตัวสวยเนี้ยบดูดี มีการบริหารจัดการที่โอนอ่อน ยืดหยุ่น แต่ถ้าถึงภาวะคับขันหรือเรื่องคอขาดบาดตาย พวกเธอก็สามารถทำได้ดีไม่แพ้ผู้นำชายเลยทีเดียว อาจเป็นเพราะผู้หญิงต้องอดทนกับหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่แตกต่างผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นการต้องทนทุกข์กับอาการปวดท้องประจำเดือน การอุ้มท้อง คลอดลูก เลี้ยงลูก เป็นต้น
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี