แปลและเรียบเรียง : เจษฎา ปุรินทวรกุล
ลองหลับตาแล้วนึกภาพตามดูว่า มันจะเป็นเรื่องที่ดีขนาดไหน ถ้าทุกวันที่เราไปทำงาน เหล่าเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า ลูกน้อง และลูกค้าซึ่งครั้งหนึ่งค่อนข้างเฉยชา และไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรต่อการมีตัวตนของเราสักเท่าไหร่ กลับปฏิบัติต่อเราด้วยความเคารพและเอาใจใส่ต่อเรามากยิ่งขึ้น เรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้ โดย Ken Sundheim ซีอีโอแห่งบริษัท KAS Placement บริษัทที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาธุรกิจและการตลาดอย่างมืออาชีพทั่วสหรัฐฯ แนะนำให้คุณพัฒนาตัวเองดังนี้
1. กำหนดคุณค่าและตัวตนของคุณให้ชัดเจน
เป็นเรื่องปกติที่มนุษย์เราจะเดินตามผู้ที่แข็งแกร่งและมีความสามารถ แล้วลองคิดดูว่ามันเป็นเรื่องดีแค่ไหนถ้าเรามีความสามารถมากพอที่จะช่วยเหลือคนรอบข้างได้ นั่นคือสิ่งที่สร้างการยอมรับนับถือระหว่างเรากับเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี
ในจุดนี้ให้เราลองเขียนลงในกระดาษดูว่าจุดแข็งและจุดอ่อนของเราคืออะไร จุดแข็งหรือจุดเด่นในการทำงานก็ให้เก็บไว้ ส่วนจุดด้อยก็ให้โยนทิ้งออกไปซะ คุณไม่จำเป็นต้องพัฒนาเพื่อให้เก่งไปในทุกๆ ด้าน เพียงแค่มีจุดเด่นที่จะสามารถช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานรวมถึงคนรอบข้างได้ในบางสถานการณ์ก็เพียงพอแล้ว
2. ค้นหาสิ่งที่ตนเองชื่นชอบให้พบ
คุณชอบดูหนังไหม ชอบเดินทางหรือเปล่า หรือชอบตีกอล์ฟ ค้นหาสิ่งเหล่านั้นให้พบว่าคุณชื่นชอบอะไร เพราะการทำงานในบริษัท พนักงานที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกันมักจะคุยกันได้ถูกคอ ส่งผลให้สังคมในที่ทำงานของคุณเกิดความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างการยอมรับระหว่างกันได้มากขึ้น
3. มีเป้าหมายของตัวเอง
ในสังคมการทำงานที่อเมริกาเป็นสังคมที่อยู่ค่อนข้างยาก งานบางงานกฎหมายแรงงานครอบคลุมไม่ถึง งานเอกชนก็ไม่มั่นคง หากทำงานไม่ดีเจ้านายก็พร้อมไล่ออกได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินทดแทน สิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งความเครียด ความผิดหวัง และความกดดัน การสร้างเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการทำงานจึงเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราบอกว่าเราเข้าบริษัทนี้มาเพื่อบริการลูกค้าให้ดีกว่าบริษัทอื่นๆ และทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความตั้งใจ ภายในเวลาไม่นานผู้ที่อยู่รอบๆ ตัวของคุณ จะเห็นถึงความตั้งใจตลอดจนทัศนคติที่ดีของคุณ
4. เลิกสนใจแต่ตัวเอง
เคยสังเกตกันบ้างไหม เวลาที่เรามองรูปภาพที่มีคนหลายๆ คน เรามักจะมองไปที่ตัวเราเองก่อนเป็นอันดับแรก จำไว้เสมอว่ามนุษย์มักให้ความสำคัญกับเรื่องของตัวเองสูงมาก (ไม่ว่าจะในออฟฟิศ หรือนอกออฟฟิศ) พวกเขาจะปลื้มและรู้สึกดีกับเราถ้าเราใส่ใจเรื่องราวต่างๆ ของเขามากขึ้น ยิ่งถ้าคุณเป็นคนระดับหัวหน้า การหยุดโฟกัสเรื่องตัวเองและหันไปสนใจเรื่องราวของลูกน้องก็จะทำให้คุณได้รับความเคารพมายิ่งขึ้นไปด้วย
5. จินตนาการสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
ลองใช้บางช่วงเวลาหลับตาคิดและจินตนาการดูว่า ควรทำอะไร และเมื่อทำไปแล้วมันสร้างการยอมรับ มิตรภาพและความสำเร็จในการทำงานได้อย่างไรบ้าง หรือทบทวนทักษะที่ใช้ในการทำงานเพื่อลับเขี้ยวเล็บของตัวเองให้คมเพื่อพร้อมใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที สิ่งนี้เหมือนกับการบริหารจิตใจตัวเอง เหมือนกับการคิดในสิ่งที่ดีบ่อยๆ พร้อมกับสะบัดความคิดเชิงลบทิ้งออกไป เมื่อถึงเวลาลงมือทำ เราจะได้ทำได้
การทำตามขั้นตอนเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ควรฝึกเอาไว้สักนิดเพื่อให้ชีวิตในการทำงานดีขึ้น นอกจากนั้น Ken Sundheim ยังเคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับทหารกองทัพเรือหน่วยซีลคนหนึ่งซึ่งกระโดดร่มลงมาจากเครื่องบินแต่ร่มดันไม่ยอมกาง ท้ายที่สุดเขากลับสามารถลงมาเล่าให้ทุกคนฟังได้ว่าสิ่งที่ช่วยเขาไว้ก็คือการฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อเจอเหตุการณ์จริงก็สามารถโฟกัสไปที่การแก้ไขปัญหาไปได้โดยไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป แน่นอนว่าเขาได้รับความนับถือจากคนรอบข้างมากขึ้นอย่างมหาศาล
ปัญหาต่างๆ ในที่ทำงานอาจไม่ได้เกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ สัปดาห์หน้า หรือเดือนหน้า แต่ถ้าเราฝึกจินตนาการรับมือเอาไว้ หรือฝึกฝนและเตรียมความพร้อมไว้ พร้อมๆ กับการมีปฏิสัมพันธ์ในทางที่ดีกับคนรอบข้าง คุณย่อมได้รับความเคารพนับถือเพิ่มขึ้นทั้งจากในสถานที่ทำงานและชีวิตส่วนตัว
create by smethailandclub.com