แจ็ค หม่า ชายผู้อยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของอาลีบาบา แม้วันนี้เขาจะไม่ได้คุมบังเหียนของอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีนนี้แล้ว แต่วิธีคิด วิธีการทำงานของผู้ชายคนนี้ ยังเป็นโรลโมเดลให้กับใครอีกหลายต่อหลายคนได้เดินตาม แม้แต่การเลือกพนักงานมาร่วมทีม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร ผู้ชายคนนี้ก็มีวิธีเลือก “พนักงานที่ใช่” ในแบบของเขา มาดูกันว่า แจ็ค หม่า มีวิธีเลือกคนแบบไหนถึงขับเคลื่อนองค์กรมาได้ไกลขนาดนี้
ไม่จ้างคนที่ “เก่งที่สุด”
ด้วยการเป็นยักษ์ใหญ่แห่งโลก E-commerce จึงไม่น่าแปลกใจว่าอาลีบาบาจะมีพนักงานกว่า 80,000 คนทั่วโลก แต่รู้ไหมว่ากฎข้อแรกของการคัดเลือกบุคลากรเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จของ หม่า นั้น คือ การหลีกเลี่ยงการจ้างคนที่เก่งที่สุด หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ อาจฟังดูแปลกเพราะหลายต่อหลายบริษัท มักแย่งชิงตัวคนเก่งๆ กันอยู่เสมอ แต่เหตุผลของเจ้าพ่อ E-commerce รายนี้ก็คือ การจ้างคนที่ “ใช่” นั้นจำเป็นกว่าการจ้างคนที่เก่งที่สุด เพราะในตลาดนั้นไม่มีใครที่เป็นคนที่เก่งที่สุด แต่คุณสามารถฝึกฝนคนเหล่านั้นได้ด้วยตัวของคุณเอง และคนเหล่านั้นก็จะกลับมาสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทของคุณ เพราะฉะนั้นจึงควรเริ่มคัดสรรคนที่มีความพร้อมที่จะเรียนรู้และไม่กลัวที่จะทำผิดพลาดเข้ามาร่วมในองค์กร
ฉลาดทั้ง “EQ และ IQ”
กฎอีกข้อในการรับพนักงานของ หม่า ก็คือ ไม่จ้างเด็กท็อปของโรงเรียนมาเป็นพนักงาน เพราะเขามองว่าคนที่เป็นหัวกะทินั้นมักจะหงุดหงิดหรือท้อใจได้ง่าย เมื่อต้องเจอกับความยากลำบากในโลกของความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มาสมัครงานนั้นก็ต้องมีความฉลาดบางอย่างเพื่อที่จะสามารถทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมของธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ ที่สำคัญ ผู้นำคนนี้มีแนวโน้มที่จะเลือกพนักงานที่มีความฉลาดทางอารมณ์ที่ดี (Emotional Quotient: EQ) เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้คนๆ นั้นสามารถเป็นผู้นำและผู้เล่นในทีมที่ดีขึ้น แต่การปราศจากซึ่งความฉลาดหรือมีไหวพริบ (Intelligence Quotient: IQ) ก็จะทำให้พนักงานคนนั้นไปได้ไม่ไกลเช่นกัน เพราะฉะนั้นพนักงานที่ “ใช่” และ “มีประสิทธิภาพ” จึงควรมีทั้งอีคิวที่ดี เพื่อทำงานร่วมกันกับคนอื่นได้ และไอคิวที่ดีเพื่อที่จะได้รู้ว่าตัวเองนั้นทำหน้าที่อะไรอยู่
คน “คิดบวก”
อีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของการเป็นพนักงานที่มีศักยภาพก็คือ เป็นคนคิดบวก ซึ่ง หม่า เองก็ได้บอกว่าลักษณะนิสัยแบบนี้นี่เองที่ช่วยให้อาลีบาบาเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้ เพราะการมองโลกในแง่ดีจะช่วยให้คนสามารถมองสถานการณ์ที่ท้าทายต่างๆ ในแง่ดีได้ ในฐานะของการเป็นผู้ประกอบการและเป็นผู้นำขององค์กรหากไม่มองโลกในแง่ดีจะทำให้เกิดปัญหาหรือความยุ่งยากได้ เพราะฉะนั้นพนักงานที่ถือว่าเป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันองค์กรให้ไปข้างหน้าก็ต้องเป็นคนที่คิดบวกเช่นกันเพื่อเข้ามาเสริมการทำงานระหว่างกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี