เรื่อง : เจษฎา ปุรินทวรกุล
การเป็นหัวหน้า ไม่ได้หมายความว่าคุณสมบูรณ์แบบจนไร้ที่ติ เพราะบางครั้งเราเองก็อาจจะพลั้งเผลอลืมตัว และมักพูดในสิ่งที่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง โดยเฉพาะในบางอารมณ์ที่คุณกำลังคิดหาทางออกต่างๆ ให้กับพนักงาน ความเครียดรุมเร้า คำพูดที่เคยเฉียบคม ตรงประเด็น อาจกลายเป็นคำพูดที่ไม่หรูหราแถมยังก่อให้เกิดปัญหาใหญ่สำหรับองค์กรขึ้นมาได้อีก ซึ่งทางท่าและคำพูดบางคำสามารถทำลายชื่อเสียงและความไว้วางใจที่พนักงานเคยมอบให้กับคุณไปจนหมด และต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นฟูให้มันกลับมาเหมือนเดิมได้
ถ้าคุณไม่อยากมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดไปในภายหลัง ลองฟังคำแนะนำจาก Lindsay Broder โค้ชมืออาชีพแห่งบริษัท The Occupreneur™ Coach ในนิวยอร์ค โดยเธอมีความเชี่ยวชาญด้านการฝึกสอน กลยุทธ์และแผนรับมือวิกฤตสำหรับผู้บริหาร หลักสูตรผู้นำธุรกิจ รวมถึงหลักสูตรองค์กรที่มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและอาชีพ ซึ่งมันน่าจะมีประโยชน์ต่อธุรกิจคุณบ้างละน่ะ
1.ฉันเป็นหัวหน้า ทำตามที่ฉันสั่ง
พนักงานก็เป็นบุคคลที่โตและมีวุฒิภาวะคนหนึ่ง มีความคิดอ่าน ถ้าคุณไม่พร้อมฟังความเห็นของเขา นั่นแสดงว่าคุณกำลังตั้งค่ามาตรฐานที่แตกต่างกันระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง เมื่อคุณสร้างกำแพงขึ้นมาแบบนี้ ลูกน้องที่ไหนจะให้ความเคารพกับคุณ ?
2.คุณโชคดีนะที่มีงานทำ
ถือเป็นประโยคสุดเห็นแก่ตัวที่ไม่ควรพูดเลย มันเหมือนกับคุณจะบอกพนักงานว่า “เฮ้ คุณโชคดีแล้วนะที่ผมจ้างคุณ” จำไว้เลยว่าไม่มีใครทำงานได้ดีในสภาวะแวดล้อมที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณนายจ้างอยู่ตลอด ถ้าพนักงานของคุณทำงานไม่ถูกใจคุณ คุณควรลองลงมือทำงานร่วมกับเขาและแก้ปัญหาในทางที่ถูกต้องไปพร้อมๆ กัน
3.ถ้าคุณไม่ชอบ (ไม่ทำ) ฉันจะหาคนอื่นมาทำแทน
การเป็นหัวหน้า ไม่ได้หมายความว่าคุณมีสิทธิ์ทำตัวปัญญาอ่อนและไร้เหตุผลได้ โปรดรับทราบไว้เลยว่าหลายคนที่ขึ้นแท่นได้ตำแหน่งบอส มักใช้ทักษะความเป็นผู้นำแก้ปัญหาและกระตุ้นพนักงานให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ต้องไม่ใช่ด้วยวิธีการขู่ว่าจะไล่ออกหากไม่ยอมทำตามคำสั่ง ช่วงแรกมันอาจใช้ได้ผล แต่ท้ายที่สุดพนักงานของคุณจะหมดแรงกระตุ้นและไร้แรงบันดาลใจ
4.ทำไมคุณเป็นคนเดียวที่มีปัญหาเรื่องนี้
สำหรับประเด็นนี้ ถ้าเรากำลังพูดถึงพนักงานที่มีภาวะต่อต้านหรือพวกมีความมั่นใจสูง ให้จดชื่อพวกเขาเอาไว้แล้วหาทางพูดคุยด้วยวิธีที่ดีแทน แต่ถ้าคุณกำลังจะนำไปใช้พูดกับพนักงานที่ให้ความร่วมมือกับบริษัทด้วยดี คอยช่วยเหลือบริษัทเวลาเข้าตาจน ปัญหาอาจมาจากตัวคุณนั่นแหละ ที่ไม่ยอมรับฟังความกังวลหรือความคิดของพวกเขาเหล่านั้น หรือบางทีพนักงานของคุณอาจเจอวันแย่ๆ มาก็ได้
อย่างไรก็ตาม อย่าเปรียบเทียบพนักงานด้วยกัน เช่น ที A ยังไม่เห็นมีปัญหาเหมือนคุณเลย ...มันเหมือนกับเราเปรียบเทียบว่าเด็กคนนั้นดีกว่าเด็กคนนี้ยังไง นี่ไม่ใช่ไอเดียที่ดีเลย
5.ฉันไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนี้หรอกนะ
เอาจริงดิ ? คุณเป็นหัวหน้านะ มันเป็นงานของคุณเลยแหละที่ต้องให้เวลากับพนักงาน ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนที่มีงานยุ่งมากๆ แต่ลองให้เวลาพวกเขาซักนิด มันต้องมีปัญหาเขาถึงมาขอคำปรึกษาจากคุณ เวลาไม่กี่นาทีอาจเป็นสิ่งมีค่าสำหรับพวกเขามากๆ ก็ได้
6.คุณไม่เห็นหรือว่าผมเครียดอยู่
นึกถึงเจ้านายของพูดประโยคนี้ตอนโมโหดูสิ ...น่ากลัวจริงๆ แต่ถ้าเจ้านายใจเย็นแล้ว ลองคิดดูบ้างว่า ใครละจะไม่มีความเครียด ? คนทุกคนมีความเครียดเหมือนๆ กัน อย่าตัดสินว่าคุณเหนือกว่าเขาแล้วนั่นจะหมายความว่าความเครียดของคุณสำคัญกว่าความเครียดของพนักงาน คุณไม่มีสิทธิ์ไปลดคุณค่าของผู้อื่นหรอกนะ
7.คุณเห็นชื่อผมที่ประตูไหม
ก็ ...แล้วไงละ จริงอยู่คุณอาจสร้างธุรกิจขึ้นมา ลงทุนเงินและเวลาจนกลายเป็นองค์กรขนาดใหญ่และมั่งคั่งขึ้นมาได้จนถึงวันนี้ แต่คุณไม่ใช่พระเจ้านะ การข่มพนักงานด้วยคำพูดแบบนี้ไม่ใช่วิธีที่ดี ไม่สามารถสร้างความรู้สึกดีๆ กับพนักงานได้แน่นอน ลองกลับไปคิดดูว่าหากไม่มีพนักงาน ใครจะคอยบริการลูกค้าให้กับบริษัทถ้าไม่ใช่ตัวคุณเอง
ถ้าอ่านดูแล้วคิดว่าถูกต้อง ก็ลิสต์เอาไว้เลยว่า คำพูดเหล่านี้ (โดยเฉพาะตอนโกรธ) คุณไม่ควรนำเอาไปพูดกับพนักงาน
Create by smethailandclub.com