ถึงแม้ว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำธุรกิจในยุคนี้จะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การนำเทคโนโลยีมาใช้ก็ควรจะมีการเลือกให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดคุ้มค่ากับการลงทุน ดังเช่นคำแนะนำต่อไปนี้
1. อย่ามองการใช้เงินด้านเทคโนโลยีเป็นค่าใช้จ่ายแต่ให้มองว่าเป็น “การลงทุน”
การทำธุรกิจหลายประเภท เรามักจะต้องจ่ายค่าโฆษณา ค่าจัดงานโปรโมทสินค้า ค่าจ้างนักบัญชี และอื่นๆ อีกมากมาย แต่พอเป็นเรื่องเทคโนโลยี หลายคนมักจะเลือกจ่ายเฉพาะค่าเทคโนโลยีที่“จำเป็น” ต้องใช้ และไม่มียอมจ่ายค่าเทคโนโลยีที่คิดว่าไม่ได้ใช้ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดอย่างยิ่ง ถ้าคุณต้องการให้ธุรกิจของคุณยืนยาวตลอดไป การลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณประหยัดทั้งเงินและเวลา ดังนั้นอย่ามองธุรกิจของคุณแค่ในวันนี้แต่ให้มองไปถึงอีก 5 ปี หรือ 10 ปีข้างหน้าแล้วเลือกลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ
2. ให้ความสำคัญกับการสื่อสารออนไลน์
ไม่ว่าจะเป็น Social Media ยี่ห้อไหนก็ตาม การได้แสดงความเห็นกับลูกค้า ตอบสนองในสิ่งที่พวกเขาเรียกร้อง อัพโหลดวีดีโอที่น่าสนใจฯลฯ การสื่อสารในรูปแบบนี้ไม่ใช่แค่การนำเสนอเนื้อหาดีๆ หรือการสื่อสารทางเดียวแบบที่ผ่านๆ มา แต่การใช้ Social Media ช่วยให้คุณได้พูดคุยกับลูกค้าตัวจริง ให้ลูกค้าของคุณได้พูดคุยกันเองเกี่ยวกับคุณและผลิตภัณฑ์ของคุณ
แต่การจะใช้ประโยชน์ของสิ่งเหล่านี้ให้คุ้มค่าคุณจะต้องมีหลายปัจจัยรวมกัน ไม่ใช่แค่ปัจจัยเดียว อาทิเวบไซต์ที่ใช้งานง่าย เนื้อหาที่ดี มีหน้าบล็อก เวบบอร์ดให้คนเข้าร่วม มีจดหมายอิเลคทรอนิกส์ที่อ่านง่าย เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านและส่งหาลูกค้าสม่ำเสมอ ตลอดจนการสื่อสารผ่านเวบเครือข่ายทางสังคมที่รวดเร็วทันใจครอบคลุมในหลายช่องทางที่ได้รับความนิยม
3. นำเทคโนโลยีเคลื่อนที่มาใช้ในธุรกิจ
ถ้างานของคุณจำเป็นต้องไปไหนมาไหนบ้าง เทคโนโลยีเคลื่อนที่เป็นตัวเลือกที่จำเป็นกับคุณมิใช่น้อย เพราะการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้คุณเข้าถึงอีเมล แฟกซ์ ไฟล์งานต่างๆ ในออฟฟิศได้เสมือนอยู่ในออฟฟิศ โดยที่ไม่ต้องคอยบอกลูกค้าว่ายังไม่ได้รับแฟกซ์หรือข้อความใดๆ เพียงเพราะคุณไม่ได้อยู่ในที่ทำงานซึ่งทำให้คุณปราศจากความคล่องตัวในการทำงานหรืออาจจะถึงขั้นสูญเสียลูกค้าก็เป็นได้
4. หาตัวช่วยด้านเทคโนโลยี
ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องจัดการและดูแลเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ด้วยตัวเอง คุณอาจจะมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจของคุณมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายเทคโนโลยี การสำรองข้อมูลในคอมพิวเตอร์ฯลฯ ทางเดียวที่จะช่วยให้คุณใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุดก็คือการว่างจ้างบริษัทหรือผู้เชี่ยวชาญให้มาดูแลงานส่วนนี้แทนคุณ