Text : กองบรรณาธิการ
ตอนนี้เราเดินทางมาถึงยุคเทคโนโลยีที่เต็มไปด้วยอะไรใหม่ๆ ที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ ลองย้อนกลับไปในสมัยก่อน โทรศัพท์ธรรมดาเครื่องใหญ่ที่โทรเข้าโทรออกได้ถูกพัฒนามาจนกลายเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องจิ๋วที่ย่อทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิตให้สามารถทำทุกอย่างได้บนเจ้าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้เครื่องเดียว ในวันนี้เราเลยนำเทคโนโลยีที่จะมาแน่ในอีก 5 ปีข้างหน้าผ่านความคิดเห็นของคนในวงการเทคโนโลยี มาดูดีกว่าว่าพวกเขามองว่าอะไรที่จะมาเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกในอีก 5 ปีนี้
ตอนนี้เราเดินทางมาถึงยุคเทคโนโลยีที่เต็มไปด้วยอะไรใหม่ๆ ที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ ลองย้อนกลับไปในสมัยก่อน โทรศัพท์ธรรมดาเครื่องใหญ่ที่โทรเข้าโทรออกได้ถูกพัฒนามาจนกลายเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องจิ๋วที่ย่อทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิตให้สามารถทำทุกอย่างได้บนเจ้าสมาร์ทโฟนเครื่องนี้เครื่องเดียว ในวันนี้เราเลยนำเทคโนโลยีที่จะมาแน่ในอีก 5 ปีข้างหน้าผ่านความคิดเห็นของคนในวงการเทคโนโลยี มาดูดีกว่าว่าพวกเขามองว่าอะไรที่จะมาเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกในอีก 5 ปีนี้
1. Chat Bots และ Conversational Interfaces
สำหรับคนแรกที่คลุกคลีในวงการ It และ เทคโนโลยีอย่าง Chalmers Brown ผู้ก่อตั้ง Due ที่เป็น Startup ด้านการเงินที่จะช่วยให้เรื่องของการรับจ่ายเงินในยุคดิจิตอลเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น โดย Chalmers ได้พูดถึงเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงในตอนนี้และจะยังยาวไปอีกหลายปีข้างหน้าคือเทรนด์ของ Chat Bots และ Conversational Interfaces ที่เขาได้บอกว่าในตอนนี้ก็เริ่มเป็นเทรนด์และมีผู้ใช้งานมากขึ้นด้วยการให้คอมพิวเตอร์เป็นผู้สื่อสารและตอบโต้กับลูกค้าแทนเรา ซึ่งเจ้าเทคโนโลยีจะเข้ามามีผลต่อการทำงานในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้นและแม้ว่าจะเริ่มมีผู้ใช้แต่ก็ยังไม่แพร่หลายมากนัก คาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเทคโนโลยีจะมีความเสถียรและเข้ามาช่วยทำธุรกิจแบบเต็มรูปแบบ
2. Virtual Reality
สำหรับเทคโนโลยี Virtual Reality หรือสภาวะเสมือนจริงที่มนุษย์ได้เข้าสู่อีกหนึ่งสภาวะผ่านเทคนิคทางคอมพิวเตอร์ โดย Alexander Kharlamov ผู้ก่อตั้ง Mark43 แอปพลิเคชั่นด้านซอร์ฟแวร์ที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งเขาได้พูดถึงเทคโนโลยี VR นี่ว่าเทคโนโลยีจะเริ่มทำงานเมื่อธุรกิจต่างๆ คิดออกว่าจะสามารถหาเงินจากเทคโนโลยีต่างๆ นี้ได้อย่างไร ซึ่งความจริงดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วกับ VR เห็นได้ชัดจากอุตสาหกรรมของหนัง เพลง เกมต่างๆ ที่ใช้ VR เข้ามาพัฒนาธุรกิจ สินค้าและบริการ ให้คนมีส่วนร่วมกับตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น เพิ่มความตื่นตาตื่นใจในการใช้บริการด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง เทคโนโลยีจะมีการพัฒนาไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ และเชื่อว่าจะต้องพัฒนาได้อีกไกลและรวดเร็วมากแน่นอน
3. Driverless Cars
Arash Asli ผู้ก่อตั้ง Yocale เทคโนโลยีที่เอาไว้ให้ลูกค้าทำการจองบริการต่างๆ แบบออนไลน์ เขาได้พูดถึงอีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าจับตามองและมาแน่ในอีก 5 ปีข้างหน้าแถมยังส่งผลต่ออุตสาหกรรมรถยนต์มากที่สุดคือเทคโนโลยี Driverless Cars คือการที่รถยนต์สามารถเคลื่อนที่ได้โดยปราศจากคนขับ ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเทรนด์นี้บ้างในวงการธุรกิจ แต่ที่แน่ๆ เลยก็คือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้อิสระจะไม่ต้องการคนขับรถ เพื่อช่วยประหยัดเวลา นอกจากนี้จะมีรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อช่วยลดการใช้น้ำมันในอนาคต
4. Serverless Architectures
มาถึงอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มาแน่คือ Serverless Architectures ที่ต่อไปการทำแอปพลิเคชั่นจะไม่ต้องใช้เซิฟเวอร์ในการรันตลอดเวลา Andrey Neverov ผู้ก่อตั้ง Trucker Path ได้พูดถึงเทคโนโลยีนี้ที่จะช่วยให้คุณลดต้นทุนของการพัฒนาซอฟแวร์ลดลง ซึ่งตอนนี้เทคโนโลยีนี้ยังไม่ได้แพร่หลายมากนักแต่เชื่อว่าต่อไปข้างหน้าจะต้องได้รับความนิยมอย่างแน่นอน
5. Cyber Attacks On IoT Devices
ช่วงที่ผ่านมาบนโลกออนไลน์มีหนึ่งกระแสสำคัญสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนก็คือ Randomware ที่จับไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของคุณเป็นตัวประกัน Marcin Kleczynski ผู้ก่อตั้ง Malwarebytes ตัวช่วยในการกำจัดไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ ในพอคมพิวเตอร์ให้คุณได้ออกมาพูดถึงเทคโนโลยีที่จะช่วยป้องกันความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ว่าในอนาคตจะมีความเสถียรและป้องกันความเสียหายให้แก่ผู้ใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของภัยร้ายจะเน้นไปที่อุปกรณ์แบบรายบุคคลอย่าง Smart phone, Smart Car หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีที่คนใช้ในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทด้านเทคโนโลยีก็กำลังพัฒนาเพื่อป้องกันไวรัสตรงนี้ให้มากขึ้น
6. Voice Control
เมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุค Internet of things แบบเต็มรูปแบบ เทคโนโลยี Voice Control ก็เป็นสิ่งที่จะมาควบคู่กันไป Matthew Russell ผู้ก่อตั้ง Digital Reasoning Systems Inc ได้บอกว่าเสียงเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ถูกฝังอยู่ในอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ต่อไปด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจะทำให้เราสามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วยการสั่งงานด้วยเสียง อุปกรณ์ต่างๆ จะมีความฉลาดและความซับซ้อนในการทำงาน เรียกได้ว่าในอนาคตเราน่าจะได้เห็นความฉลาดของเจ้าอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้นในชีวิตประจำวันแน่นอน
และนี่ก็เป็นเทคโนโลยีที่มาแน่ในอนาคตอีก 5 ปี สำหรับธุรกิจและผู้ประกอบการต่างๆ ก็คงต้องเริ่มปรับตัวให้ทันกับยุคดิจิตอลที่ขยับตัวอย่างรวดเร็วอยู่ตอนนี้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี