Tech Startup

แจ็กพอตธุรกิจ! 5 ธุรกิจที่นักลงทุน Shark Tank ทุกคนพร้อมใจทำดีลร่วมกันจนประสบความสำเร็จสูง

 

Text : flymetothemoon 

     Shark Tank รายการโทรทัศน์ชื่อดังที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยนำเสนอแผนธุรกิจเพื่อรับเงินลงทุนและได้ร่วมงานกับนักลงทุนมากประสบการณ์ ดังนั้น การได้รับดีลลงทุนจากนักลงทุนในรายการดังไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะผู้ประกอบการที่ต้องการได้รับโอกาสในรายการมีจำนวนมาก แต่ถ้าธุรกิจไหนที่ได้รับดีลในรายการก็จะได้รับความสนใจจากผู้คน ยิ่งหากนักลงทุน Shark Tank ทุกคนพร้อมใจทำดีลด้วยแล้ว ก็เหมือนถูกแจ็กพอตธุรกิจกันเลยทีเดียว เราเลยจะพาไปดูธุรกิจที่มีความโดดเด่นจนทำให้นักลงทุนในรายการทุกคนตัดสินใจร่วมลงทุนด้วยกัน

1. EyeWris แว่นอ่านหนังสือที่พันรอบข้อมือได้

     ผู้ก่อตั้ง : Mark Singer และ Kenzo Singer

     จุดเริ่มต้น : เกิดจาก Mark ชอบทำแว่นตาหายทำให้อยากออกแบบแว่นที่พกติดตัวได้ง่าย  Mark และลูก Kenzo ได้ระดมทุนจาก Kickstarter และใช้เงินเก็บของ Mark สำหรับต้นทุนในการผลิต ซึ่งมียอดสั่งซื้อมาอย่างต่อเนื่องและสร้างกำไรได้ แต่เหตุผลหลักที่ทำให้ Mark และลูก Kenzo ได้ตัดสินใจร่วมรายการ Shark Tank เป็นเพราะ Mark มีอายุมากและอยากเกษียณ จึงต้องการหาที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้ให้ลูก เหตุผลนี้ของ Mark ทำให้นักลงทุนทุกคนประทับใจมากและร่วมลงทุน ปี 2024 มูลค่าสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

     ข้อเสนอ : เงินลงทุน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หุ้น 5%

     ข้อตกลงที่ได้ : เงินลงทุน 125,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หุ้น 20%

2. Buggy Beds อุปกรณ์ดักจับแมลงบนเตียงที่ราคาถูกและปลอดภัย

     ผู้ก่อตั้ง : Veronica Perlongo และ Maria Curcio

     จุดเริ่มต้น :  Buggy Beds อุปกรณ์ตรวจ ดักจับแมลงบนเตียงที่มียอดขาย 150,000 ดอลลาร์สหรัฐได้กำไร 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ  ในเวลาเพียง 6 เดือนหลังจากเปิดขายครั้งแรก โดยจุดเริ่มต้นเกิดจาก Veronica และ Maria รู้สึกว่าแมลงบนเตียงเป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญและทำให้คนเกิดอาการแพ้ได้ การตรวจเช็คและกำจัดก็เป็นเรื่องที่ยากเพราะแมลงมีขนาดเล็กและเพิ่มจำนวนได้เร็ว ทำให้ทั้ง 2 ได้ไอเดียสร้างอุปกรณ์ที่ช่วยตรวจและดักจับแมลงบนเตียงที่มีราคาถูกและปลอดภัยขึ้น  

     Veronica และ Maria เข้าร่วมรายการ Shark Tank ผ่านคำเชิญของโปรดิวเซอร์โดยในครั้งแรก Veronica และ Maria ได้ปฏิเสธ แต่เมื่อโปรดิวเซอร์ชวนเป็นครั้งที่ 2 Veronica และ Maria ก็ตกลงร่วมรายการ หลังจากนักลงทุนได้ฟังการนำเสนอและรู้ถึงจำนวนยอดขาย นักลงทุนทุกคนสนใจและเจรจาหาข้อตกลงจนทุกคนได้ร่วมลงทุนกับ Buggy Beds สำเร็จ ปี 2024 มูลค่าสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

     ข้อเสนอ : เงินลงทุน 125,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หุ้น 7%

     ข้อตกลงที่ได้ : เงินลงทุน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หุ้นฯ 25%

3. Cup Board Pro เขียงที่มีถ้วยใส่ขอ มีช่องระบายน้ำ ทำให้กำจัดขยะได้ง่าย

     ผู้ก่อตั้ง : Keith Young

     จุดเริ่มต้น : Cup Board Pro บริษัทผลิตเขียงที่มีถ้วยสำหรับใส่ของสามารถถอดออกได้ มีช่องสำหรับระบายน้ำลงในถาด ทำให้หยิบผักผลไม้ที่หั่นแล้วและกำจัดขยะได้ง่ายขึ้น Keith เคยเป็นนักดับเพลิงและเชฟจากนิวยอร์กซิตี้และได้รับแรงบันดาลใจจากความตั้งใจที่อยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้นและใช้เวลาน้อยลงในการทำความสะอาด

     Keith เสียชีวิตลงในปี 2018 ด้วยโรคมะเร็งจากการทำงานที่ Ground Zero ในเหตุการณ์ 9/11 Christian, Keira และ Kaley ลูกทั้ง 3 คน ตั้งใจสานต่อธุรกิจของพ่อตัดสินใจเข้าร่วมรายการ Shark Tank และเปิดวิดีโอที่พ่อส่งออดิชั่นเพื่อเข้าร่วมรายการให้กับนักลงทุนดูทำให้นักลงทุนประทับใจและร่วมลงทุน โดยนักลงทุนทุกคนมีความตั้งใจเอากำไรที่ได้จากการลงทุน Cup Board Pro ให้กับองค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากการทำงานที่ Ground Zero ในเหตุการณ์ 9/11 หลังออกอากาศเพียง 18 ชั่วโมง Cup Board Pro ขายได้ถึง 26,000 ชิ้น ในปี 2023 มูลค่าสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

     ข้อเสนอ : เงินลงทุน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หุ้น 10%

     ข้อตกลงที่ได้ : เงินลงทุน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หุ้น 20%

4. Skippi Ice Pops ไอศกรีมแท่งออแกร์นิคที่มีรสชาติและสีทำจากผลไม้

     ผู้ก่อตั้ง : Ravi และ Anuja Kabra

     จุดเริ่มต้น : Skippi Ice Pops คือบริษัทผลิตและจำหน่ายไอศกรีมแท่งออแกร์นิคที่รสชาติและสีทำจากผลไม้และสมุนไพร ไม่มีสารกันบูด สารเติมแต่งเทียมและน้ำเชื่อมข้าวโพด โดย Ravi และ Anuja ได้แรงบันดาลใจจากไอศกรีมโฮมเมดของยาย ทั้ง 2 ต้องการทุนเพื่อขยายกิจการทำให้ตัดสินใจเข้าร่วมรายการ Shark Tank และด้วยสินค้าที่ดึงดูดผู้บริโภคได้หลากหลายกลุ่มทั้งกลุ่มวีแกน กลุ่มคนรักสุขภาพและกลุ่มแพ้อาหาร ทำให้ฉลามทั้ง 5 สนใจและร่วมลงทุนด้วยกัน หลังจากออกรายการ Shark Tank ยอดขายอยู่ที่ 238,260 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีคำสั่งซื้อออนไลน์มากกว่า 20,000 รายการ ในปี 2023 มูลค่าสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 185,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบัน Skippi Ice Pops ยังขยายเพิ่มบริการ Skippi Freezer Bikes ที่ส่งไอศกรีมตรงถึงบ้านด้วยจักรยานไฟฟ้าที่ติดตั้งช่องแช่แข็งไว้

      ข้อเสนอ : เงินลงทุน 119,160 ดอลลาร์สหรัฐฯ หุ้น 10%

      ข้อตกลงที่ได้ : เงินลงทุน 143,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หุ้น 15%

5. Sunfox Technologies แพลตฟอร์มและเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกพาขนาดเล็ก

     ผู้ก่อตั้ง : Rajat Jain, Nitin Chandola, Sabit Rawat และ Saurabh Badola

     จุดเริ่มต้น : Sunfox Technologies คือบริษัทผู้ผลิตแพลตฟอร์มและเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกพาขนาดเล็ก โดยจุดเริ่มต้นมาจากเพื่อนของ Raja หนึ่งในผู้ก่อตั้งเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นทำให้เขาอยากผลิตเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ราคาไม่แพงและใช้งานได้ง่ายขึ้น โดย Spandan มีความแม่นยำ 99.7% ตรวจจับรูปแบบการเต้นผิดปกติของหัวใจได้มากกว่า 20รูปแบบ ใช้เวลา 10 วินาทีในการแสดงผลลัพธ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามสุขภาพของผู้ป่วยทำให้การดูแลสุขภาพและป้องกันภาวะหัวใจวายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ผู้ใช้งานบันทึกข้อมูลโดยการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทันทีไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ต ทำให้ประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขั้นพื้นฐานและเริ่มการรักษาได้เร็วขึ้น

     ทั้ง 4 เข้าร่วมรายการ Shark Tank ด้วยต้องการทุนในการผลิตอุปกรณ์ และจากสถิติในปัจจุบันที่มีคนตายด้วยโรคหัวใจจำนวนมากทำให้นักลงทุนทุกคนสนใจร่วมทุนด้วย หลังออกรายการ Shark Tank ยอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิม 40 เท่า  ปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 100,000 คน และมีแผนที่ขยายการขายเพิ่มไปยัง 15 ประเทศทั่วโลก

     ข้อเสนอ : เงินลงทุน 119,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หุ้น 2%

     ข้อตกลงที่ได้ : เงินลงทุน 119,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หุ้น 6%

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup