WEALTHI แอปฯ สินเชื่อรายย่อย ปล่อยเงินกู้ สู้หนี้นอกระบบ ใช้ AI วิเคราะห์ Credit Scoring
หลังจากพบปัญหาคนไทยเป็นหนี้นอกระบบจำนวนมาก เพราะไม่สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้อันเนื่องมาจากไม่มี Statement หรือข้อมูลบันทึกรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร ธวัชชัย อิงบุญมีสกุล CEO และ Co-Founder บริษัท เวลธิเทคฟิน จำกัด จึงแก้ Pain Point ของประชาชนโดยทั่วไปที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุน ด้วยการพัฒนา WEALTHI แอปพลิเคชันให้สินเชื่อการเงินอเนกประสงค์ขึ้นมา
WEALTHI เป็นเทคโนโลยีด้านการเงินที่ให้บริการสินเชื่อกับผู้ไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์การเงินของธนาคาร ด้วยการพัฒนาระบบการให้คะแนนเครดิตเพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับการอนุญาตจากผู้ใช้งาน โดยวิเคราะห์ความสามารถและความเต็มใจในการชำระหนี้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงทางด้านเครดิตโดยรวม เป็นการสร้างความสะดวก และลดความยุ่งยากในการสมัครขอสินเชื่อ โดยธวัชชัยอธิบายเพิ่มเติมว่า ข้อมูลที่อยู่บนสมาร์ทโฟนกัน เช่น การบันทึกนัดหมาย การโทร.เข้าโทร.ออก รวมถึงการติดต่อกับเพื่อนหรือบุคคลอื่น ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้จะสามารถบ่งบอกตัวได้ในระดับหนึ่ง
“เราจะต้องทำตัวเป็นกลาง ไม่ตัดสินว่าข้อมูลไหนดีข้อมูลไหนไม่ดี โดยจะมีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ วิเคราะห์คะแนนเครดิต ด้วยความแม่นยำ โดยปัจจุบันบริษัทจะวิเคราะห์คะแนนเครดิตเพื่อแก้ปัญหาสินเชื่อรายย่อยกับพิโกไฟแนนซ์ ซึ่งให้สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด และนาโนไฟแนนซ์ ที่เน้นไปที่ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือคนที่มีรายได้ไม่แน่นอน”
อย่างไรก็ตาม แอปฯ WEALTHI ไม่เพียงแต่จะวิเคราะห์ข้อมูลให้คะแนนเครดิตเท่านั้น ยังช่วยเสริมสร้างวินัยและความรู้ทางการเงินอีกด้วย
“เราช่วยพัฒนาทักษะด้านการเงินด้วย เพราะแอปฯ WEALTHI จะมีระบบคะแนนอื่นเพื่อนำมาประกอบการให้คะแนนเครดิตด้วย เช่น การอ่านบทความเกี่ยวกับทางด้านการเงิน เรามีตัวระบบที่จะเข้าไปจับว่าคนคนนี้มีการอ่านบทความอย่างต่อเนื่องก็จะให้คะแนนตรงนี้เพิ่มด้วย แล้วจะต่อยอดไปถึงเรื่องการเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น เช่น ในวันนี้ที่เราเริ่มทำแล้วคือ การเพิ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยราคาถูก และต่อไปอาจจะทำงานร่วมกับกองทุนบริษัทที่สนใจที่จะเข้ามาช่วย ดังนั้น ลูกค้าก็จะมีทั้งความรู้ทางการเงินมากขึ้น และเข้าถึงประกันภัยและการลงทุนอีกด้วย”
ธวัชชัยบอกว่า ช่วง 3 ปีมานี้ได้มีการอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าผ่านทางแอปฯ WEALTHI กว่า 10,000 ราย คิดเป็นยอดปล่อยสินเชื่อไปแล้วมากกว่า 300 ล้านบาท
“จริงๆ เราเห็นปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทั้งบุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการรายย่อย แต่ในช่วงแรกเราพยายามทำในจุดที่สามารถทำได้ก่อน นั่นก็คือการทำระบบคะแนนเครดิตของคนทั่วไป ซึ่งปัญหาของทั้งบุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการรายย่อยจะมีความคล้ายกัน ถัดจากนี้ในอนาคตเชื่อว่าเราจะสามารถที่จะทำเพิ่มเติมในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อยต่อไปได้” ธวัชชัยกล่าวในตอนท้าย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup