หลังจากเจ้าพ่อ Facebook อย่าง มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงการเปลี่ยนชื่อบริษัทแม่เป็น Meta พร้อมกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้เพื่อทำให้สิ่งที่เรียกว่า “Metaverse” นั้นเกิดขึ้นได้แบบเป็นรูปธรรมมากขึ้น วันนี้เราเลยจะพาคุณไปเจาะลึกกับโลกที่เรียกว่า Metaverse ว่าสิ่งนี้คืออะไรกันแน่ ในฐานะธุรกิจเราต้องปรับตัวแบบไหน ทำตัวอย่างไรดีเมื่อโลกนี้มาถึง 





Metaverse คืออะไร?

     คำว่า Metaverse นั้นถูกพูดถึงตั้งแต่ปีค.ศ.1992 จากหนังสือเรื่อง Snow Crash ที่ได้พูดถึงโลกอนาคตล้ำสุดยอด ชนิดที่ว่ามนุษย์ยุค 90’s คงคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้จนกระทั่งมันเกิดขึ้นแล้วในปี 2021! ไม่ว่าจะเป็นการโต้ตอบกันบนโลกดิจิทัล การเห็นหน้ากันผ่านวิดีโอคอล การยกโรงหนังมาไว้บนมือถือ การสั่งงานด้วยเสียง การจ่ายเงินผ่านออนไลน์ โดยจุดเริ่มต้นจากปี 1992 คือแรงบันดาลใจสู่ Metaverse ในปัจจุบัน โดย Metaverse ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นั่นคือการสร้างโลกจำลองบนออนไลน์ที่ทุกคนสามารถมาเจอะเจอกันได้ พบปะ ทำธุรกิจ ออกกำลังกาย ทำงาน เรียนหนังสือ ดูหนัง คอนเสิร์ตและอื่นๆ อีกมากมายบนโลกดิจิทัล ซึ่งจะต้องทำผ่านตัวเราเสมือนจริงหรือที่เรียกว่า “Avatar” ที่จะไปทำสิ่งต่างๆ ได้หมดแทนตัวเรา โดยมันจะมีความ Seamless มากขึ้นระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือนจริง ซึ่งจะต้องกระทำสิ่งต่างๆ ผ่านเทคโนโลยีอย่าง VR, AR เพื่อให้เราเข้าไปอยู่ในนั้นได้ 
 




ข้อดีของ Metaverse 

     แม้ว่ามันจะดูใหม่มากในตอนนี้ หลายคนอาจจะยังคิดว่ามันสามารถเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ แต่ก่อนอื่นนั้นเราลองมาดูข้อดีของ Metavesre กันก่อนดีกว่าว่ามันจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราได้อย่างไรบ้าง

     สำหรับข้อดีของ Metaverse เลยคือการทำลายกำแพงของโลกจริงกับโลกดิจิทัล ทำให้เราสามารถแว้บไปดูคอนเสิร์ตที่ต่างประเทศได้หรือนั่งคุยกับเพื่อนที่อยู่อีกฟากโลกได้แบบเรียลไทม์ สามารถจำลองการผ่าตัดเสมือนจริง ได้ลองสินค้าโดยไม่ต้องไปที่ร้าน  รวมไปถึงการเที่ยวที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้แบบเสมือนจริงสุดๆ 





ธุรกิจอะไรบ้างที่ปรับตัวให้เข้ากับโลก Metaverse               

     หนึ่งในธุรกิจที่ปรับตัวให้เข้ากับโลกเสมือนจริงที่เห็นได้ชัดเจนคือ Facebook ซึ่งล่าสุดได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta ไปเรียบร้อยพร้อมกับวางกลยุทธ์ที่จะพลิกโฉมองค์กรให้ไปในทิศทางนี้มากยิ่งขึ้น เช่น การสร้าง Horizon Workroom สำหรับคนที่ใช้แว่น VR ที่เรียกว่า Oculus ให้เข้ามาทำงานหรือว่าประชุมได้ประหนึ่งว่าเจอกันตัวเป็นๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการให้ความสำคัญกับ Metaverse เป็นอย่างมาก ถึงขนาดว่าเปลี่ยนจากแนวคิด Facebook-first เป็น Metaverse-first 

     นอกจาก Facebook ก็เริ่มมีวิดีโอเกมที่เชื่อมโลกจริงกับโลกเสมือนจริงเอาไว้ด้วยกัน อาทิ Roblox แพลตฟอร์มเกมที่ให้เราสามารถสร้างจินตนาการของเราให้เป็นจริงได้ สร้าง Avatar ของตัวเราขึ้นมาเอง กำหนด ควบคุมสิ่งต่างๆ ได้ ผ่าน Code ง่ายๆ แม้ไม่ต้องมีความรู้เรื่องการเขียน Code ก็เล่นได้อย่างสนุกสนาน แถมยังประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา กล่าวง่ายๆ คือผู้ใช้งานสามารถสร้างเกมในจินตนาการของตัวเองได้ โดยเกมที่ผ่านมาก็เช่น MeepCity เป็นเกมชื่อดังของ Roblox ให้คุณได้จำลองการใช้ชีวิตในเมือง ดังไม่ดังก็มีผู้เล่นถึง 4,500 ล้านคนเลยล่ะ ที่สำคัญคือวิสัยทัศน์ของ Roblox ยังก้าวไกล มีการพัฒนา Roblox VR ที่ทำงานร่วมกับแว่น Oculus ของ Facebook เพื่อใช้เล่มเกมเสมือนจริงได้ตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งทำให้บริษัทนั้นมีมูลค่าสูงหลักหมื่นล้าน
 
     เพราะโลก Metaverse นั้นใกล้เข้ามาเต็มที หลายธุรกิจต้องจับตามองเทรนด์นี้ให้ดี เพื่อหยิบเอามาปรับใช้กับธุรกิจและตามโลกที่เปลี่ยนไปให้ทัน! ถ้าคุณสามารถจับโอกาสที่เข้ามาได้ก่อนใครก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีในการสร้างธุรกิจให้เติบโตได้อย่างแน่นอน 
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup