สตูดิโอถ่ายภาพแบบเซลฟี่ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เป็นช่างภาพ ถ่ายภาพด้วยตัวเองในอริยาบทต่าง ๆ โดยทางสตูดิโอเพียงจัดเตรียมฉาก กล้องและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ให้ถือเป็นธุรกิจหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีใต้มาช้านาน แต่ช่วงเกิดวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 ธุรกิจนี้ได้ขยายไปยังสิงคโปร์ โดยเปิดบริการเป็นแห่งแรกภายใต้ชื่อ “Fotomat” และคนที่นำเข้ามาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเด็กหนุ่มชาวเกาหลีวัยเพียง 22 ปีนามว่าเควิน ชู

     เควินซึ่งจบการศึกษาจากสถาบันฮวาชองและเคยฝึกงานที่เทคโนโลยีกับการยกระดับการบริการของภาครัฐ หรือ GovTech ของสิงคโปร์ ก่อนที่จะเกณฑ์ทหารและรับใช้ชาติในกองทัพอากาศเกาหลีเมื่อปี 2018 โดยได้รับมอบหมายให้ทำงานในสำนักงานที่เกี่ยวข้องกับการเข้าและถอดรหัส หลังจากครบกำหนด เขาก็ออกมาทำงานอิสระ ทำโปรเจ็คต่าง ๆ ด้านซอฟต์แวร์ และรับงานพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับลูกค้าทั่วโลก 

     จนกระทั่งตัดสินใจไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย SMU (Singapore Management University) ในสิงคโปร์ ระหว่างรอเข้าเรียนในช่วงปลายปี เควินก็เกิดความคิดอยากทำธุรกิจขึ้นมา อาศัยประสบการณ์และความคุ้นเคยจากเกาหลี เขาตัดสินใจเปิดสตูดิโอถ่ายภาพเซลฟี่เมื่อเดือนเมย. ปีนี้ท่ามกลางสถานการณ์ของโควิดที่ยังระบาดอยู่ 

     เควินเล่าว่าตัวเขาชอบทำงานด้านซอฟต์แวร์ แต่เนื่องจากเขามีพี่สาวที่ชมชอบการถ่ายภาพฟิล์มจนเป็นงานอดิเรกที่เธอทำได้ดี เควินจึงเกิดความคิดในการนำความรู้ที่พี่สาวมีมารวมกับสิ่งที่เขาถนัด นั่นคือการเปิดประสบการณ์ในการถ่ายภาพแบบใหม่ให้กับชาวสิงคโปร์โดยการถ่ายภาพเซลฟี่เองด้วยสายลั่นชัตเตอร์ 

     ผู้ประกอบการหนุ่มจากเกาหลีมองว่านี่จะทำให้การถ่ายภาพบุคคลเป็นเรื่องสนุกยิ่งขึ้น การมอบพื้นที่ส่วนตัวให้ลูกค้าได้กดชัตเตอร์เองโดยไม่มีช่างภาพเข้ามาคอยจัดท่าทางหรือกำกับอะไรให้อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย เป็นตัวของตัวเองจนสามารถแสดงออกได้เต็มที่และรังสรรค์การโพสท่าในแบบที่ต้องการโดยไม่ต้องเกร็งเหมือนเมื่อมีบุคคลที่สามคอยจับจ้องอยู่ 

     สตูดิโอ Fotomat ของเควินให้บริการเฉพาะภาพถ่ายที่เป็นขาวดำเท่านั้นและสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม


     “สำหรับลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่หน่อย ภาพขาวดำจะทำให้พวกเขารำลึกถึงวันเก่า ๆ ที่ในโอกาสสำคัญ แต่ละบ้านจะมีโอกาสได้ถ่ายรูปครอบครัวโดยมีสมาชิกพร้อมหน้าร่วมกัน สำหรับคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับภาพสี การถ่ายภาพขาวดำจะเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับพวกเขา การถ่ายภาพขวดำจึงนำมาซึ่งความสนุกสนานให้กับคนทั้งสองกลุ่ม”  

     เนื่องจากตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์ศิลปะสแตมฟอร์ดซึ่งเป็นสถานบ่มเพาะโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ Fotomat จึงเป็นมากกว่าแค่สตูดิโอถ่ายภาพ “ต้องขอบคุณสภาศิลปะแห่งชาติของสิงคโปร์ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ ทำให้เราได้โฟกัสที่การพัฒนาแนวคิดด้านทัศนศิลป์และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง” เควินเล่าอีกว่าเขาได้ลองผิดลองถูกเพื่อปรับปรุงบริการให้ดีขึ้น ตอนที่คิดทำ Fotomat เขาตั้งเป้าอยากให้เป็นบริการที่ราคาไม่แพงและเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษา และคนหนุ่มสาววัยทำงาน 

     ก่อนหน้านั้น การถ่ายภาพในสตูดิโอถูกมองว่าเป็นกิจกรรมที่สงวนไว้สำหรับโอกาสสำคัญ เช่น การถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง หรือตอนจบการศึกษา แต่สำหรับ Fotomat เรียกได้ว่าเป็นสตูดิโอแรกในสิงคโปร์ที่บริการถ่ายภาพแบบไม่จำกัดคอนเซปต์ในราคาไม่แพง สนนราคาเริ่มต้นที่ 30 ดอลลาร์สิงคโปร์หรือราว 725 บาทต่อ 15 นาที โดยสามารถถ่ายได้แบบไม่จำกัดช้อตสำหรับ 2 คน และทางร้านจะปรินต์ภาพออกมาให้ 2 ภาพด้วยกัน ลูกค้าสามารถปรินต์ภาพเพิ่มได้หากต้องการ ลูกค้าที่เป็นนักเรียนนักศึกษา หรือทหาร ทางร้านมีส่วนลดให้ด้วย   

     ช่วงเปิดบริการแรก ได้รับการตอบรับดีมาก ลูกค้าชื่นชอบในแง่ของบริการที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร มีความเป็นส่วนตัวในการโพสท่าถ่ายรูปเอง และรู้สึกภูมิใจในผลงานของตัวเอง แม้จะเป็นเจ้าของกิจการในวัยเพียง 22 ปี แถมยังเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างแตกต่าง แต่สมาชิกครอบครัวและเพื่อน ๆ ก็ไม่มีใครสงสัยในตัวเควินเลย “คุณพ่อผมทำธุรกิจมาแต่แรกและสนับสนุนให้ผมดำเนินรอยตามอยู่แล้ว ตั้งแต่ยังเล็ก ผมมักจะเกิดไอเดียโน่นนั่นนี่เกี่ยวกับธุรกิจ ช่วงเรียนมัธยมก็เคยทำธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ มาบ้าง” เควินเล่าอีกว่าคนรอบตัวค่อนข้างจะสนับสนุนและให้กำลังใจไม่ว่าเขาจะทำอะไร   

     มุมมองในการทำธุรกิจของเควินอาจจะแตกต่างจากคนอื่น สำหรับเขา การเปิด Fotomat ในฐานะธุรกิจหนึ่งเป็นเพียงเป้าหมายรอง แต่เป้าหมายหลักจริง ๆ แล้วคือการใช้ Fotomat เป็นพื้นที่สำหรับคนอื่นในการสร้างความสนุกสนานและแสดงตัวตนอย่างเสรี “เราได้รับความร่วมมือจากนักศึกษาสถาบันต่าง ๆ เช่น NTU โพลีเทคนิค และลาแซลล์ที่ทำงานศิลปะและศึกษาด้านสื่อมาช่วยขับเคลื่อนสตูดิโอแห่งนี้ นอกจากเปิดโอกาสในการจ้างงานคนรุ่นใหม่ Fotomat ยังเป็นเหมือนคลาสเรียนที่สอนวิชาถ่ายภาพในสตูดิโอแก่ผู้สนใจในการเรียนรู้การใช้อุปกรณ์ที่มืออาชีพใช้กัน นอกจากนั้น ยังเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนความคิดหรือไอเดียเกี่ยวกับศิลปะอีกด้วย” 

     ในฐานะที่เป็นคนหนุ่มอายุน้อย เควินเชื่อว่า Fotomat ดำเนินมาถูกทิศทางแล้วในการแนะนำเทรนด์ใหม่ ๆ และปรับตัวได้ดีในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา วิกฤติโควิดได้สร้างความเสียหายแก่หลายธุรกิจ  Fotomat เองก็โดนหางเลขด้วยเช่นกัน มีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่จองคิวไว้โทรมายกเลิกใช้บริการ เพื่อเพิ่มมาตรการความปลอดภัยแก่ลูกค้า ทางร้านได้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการคราวละ 2 คน และมีการทำความสะอาด ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทุกอย่างก่อนรับลูกค้ากลุ่มใหม่ 

     หลังจากที่ปรับเปลี่ยนมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันโควิด ลูกค้าก็กลับมาใช้บริการดังเดิม คิวจองมักเต็มช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เควินกล่าวว่าในการทำธุรกิจ เขาให้ความสำคัญในเรื่องการบริการ เขาชอบที่จะพูดคุยกับลูกค้า และพูดได้เต็มปากว่าลูกค้าที่เดินออกจากร้านของเขา ล้วนแต่จากไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เควินมีแผนจะขยายสาขาเพื่อให้ลูกค้าได้ใช้บริการ Fotomat อย่างทั่วถึง โดยอาจหาพันธมิตรมาร่วมด้วยเพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจ    

 

ที่มา