Tech Startup

ทางออกคนกลัวหมอ Ferne Health ชุดอุปกรณ์ตรวจ 5 โรคฮิตทางเพศสัมพันธ์ด้วยตัวเองที่บ้าน




Main Idea
 
  • เพื่อยุติการระบาดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือ STI มีกว่า 376 ล้านรายในแต่ละปี โดยเฉพาะในเอเชียที่หญิงสาวมักอับอายไปหาหมอ จึงได้มี Startup พัฒนาชุดตรวจโรค STI ด้วยตนเองที่บ้าน
 


     องค์การอนามัยโลกประเมินมีผู้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือ STI (sexually transmitted infections) เคสใหม่เกิดขึ้น 376 ล้านรายในแต่ละปี โดยผู้ติดเชื้อมีอายุระหว่าง 15-49 ปี และประมาณร้อยละ 20 ของจำนวนดังกล่าวอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การคัดกรองสุขภาพทางเพศ (Sexual health) จึงเป็นเรื่องสำคัญในการยุติการระบาดของ STI ทั้งนี้ สิ่งที่เกี่ยวโยงกับการเพิ่มขึ้นของ STI คือความนิยมในการใช้แอปพลิเคชันหาคู่ และการออกเดทออนไลน์ ผลการสำรวจความเห็นของนักศึกษาพบว่าการมีเพศสัมพันธ์คือแรงจูงใจอันดับ 3 ที่ทำให้ใช้แอปหาคู่





     ที่สิงคโปร์เองก็กำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับ STI ที่โดดเด่นขึ้นทุกขณะ แต่การพูดถึงสุขภาพทางเพศเหมือนจะเป็นสิ่งต้องห้าม ขณะที่ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทางเพศก็จำกัด ด้วยเหตุนี้ Startup รายหนึ่งใช้ชื่อว่า Ferne Health จึงก่อตั้งขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพทางเพศด้วยชุดอุปกรณ์ตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยตัวเอง


     Ferne Health เป็น Startup ที่ก่อตั้งโดย ซี หลิว และ วิเวก มโนหารัน โดยคนหลังเป็นหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของบริษัทด้วย ซี หลิวเปิดเผยเกี่ยวกับการเข้ามาจับธุรกิจนี้ของพวกเขาว่า


     “เป็นจุดเริ่มต้นในการปฏิวัติเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทางเพศด้วยชุดอุปกรณ์ตรวจโรคที่บ้าน และการเป็นศูนย์แบ่งปันความรู้และการดูแลตัวเอง เรามองว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรต้องเรียนรู้ให้มากขึ้นเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ ชุดอุปกรณ์ตรวจโรคของ Ferne Health ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะทำให้มั่นใจว่าทุกคนสามารถดูแลสุขภาพทางเพศของตัวเองได้ ภารกิจของ  Ferne Health คือการท้าทายขนบวัฒนธรรมเดิมทั่วภูมิภาคเอเชีย และเปลี่ยนมุมมองของผู้คนเกี่ยวกับเรื่องเพศ”   


     รายงานระบุ ชุดอุปกรณ์ตรวจ STI ของ Ferne Health เริ่มวางจำหน่ายเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาทางเว็บไซต์ของบริษัท อินสตาแกรม และเฟซบุ๊ก โดยมี 5 ชุดให้เลือก ได้แก่

     1) ชุดตรวจไวรัส HPV และมะเร็งปากมดลูก

     2) ชุดตรวจโกโนเรีย และชุดตรวจโรคหนองในแท้และหนองในเทียมสำหรับผู้หญิง

     3) ชุดตรวจโกโนเรีย และชุดตรวจโรคหนองในแท้และหนองในเทียมสำหรับผู้ชาย

     4) ชุดตรวจเชื้อรา แบคทีเรียในช่องคลอดและการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

     5) ชุดตรวจเอชไอวี เอชเอสวี-1&2 และซิฟิลิสสำหรับผู้ชาย
               




     ทั้งนี้ ชุดอุปกรณ์ตรวจโรค STI ของ Ferne Health ได้จดทะเบียน HSA (Health Sciences Authority) หน่วยงานที่ดูแลผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพของสิงคโปร์ และผ่านมาตรฐาน CE (Conformite Europeene) ที่บ่งบอกถึงความสอดคล้องกับมาตรฐานด้านสุขภาพความปลอดภัยและการปกป้องสิ่งแวดล้อมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายภายในสหภาพยุโรป ลูกค้าหาซื้อไปทดสอบหาโรค STI ด้วยตนเองได้ที่บ้านโดยไม่ต้องไปหาแพทย์ที่สถานพยาลแต่อย่างใด เป็นการยกระดับคุณาพชีวิตขึ้นมาอีกระดับ


     กรมควบคุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของสิงคโปร์เผยผลสำรวจปี 2018 พบ 5 โรค STI ที่ชาวสิงคโปร์เป็นมากสุดประกอบด้วยหนองในเทียม หนองในแท้ ซิฟิลิส หูดหงอนไก่ และเริม นอกจากผลิตชุดอุปกรณ์ตรวจโรคเหล่านี้ Ferne Health ยังพัฒนาชุดตรวจโรคจากไวรัส HPV โดยเฉพาะ HPV 16 และ HPV 18 ที่ผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกร้อยละ 70 มีสาเหตุจากไวรัสสองชนิดนี้ ในบรรดามะเร็งทั้งหมด มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบในประชาชนชาวสิงคโปร์มากเป็นอันดับ 10 และมากกว่า 90 เปอร์เซนต์สามารถรักษาให้หายได้หากพบรอยโรคแต่เนิ่น ๆ ดังนั้น การตรวจหามะเร็งปากลูกสม่ำเสมอเป็นประจำจึงช่วยได้


     ด้านวิเวก ผู้ร่วมก่อตั้ง Ferne Health และหัวหน้าแล็บวิทยาศาสตร์กล่าวว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่งผลกระทบตั้งแต่การก่อความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันไปจนถึงสร้างความเสียหายร้ายแรง เช่น ทำให้เป็นหมัน หรือก่อมะเร็งบางชนิด แต่ถ้าค้นพบเร็ว ก็จะช่วยป้องปรามไม่ได้เกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรงอันนำไปสู่ความเสียหายที่มากกว่านั้น วิเวกยังกล่าวอีกว่า STI ไม่เหมือนโรคหวัด หรืออาการแพ้ทั่วไป โรค STI บางโรคอาจไม่แสดงอาการ และแม้ในกูเกิ้ลจะมีข้อมูลมหาศาลแต่ก็ไม่อาจระบุได้ชัดเจนจนกว่าจะมีการตรวจหาโรค สำหรับคนที่ไม่สะดวกไปพบแพทย์ การเลือกใช้ชุดอุปกรณ์ตรวจโรคของ  Ferne Health จึงเป็นทางออกที่ดี


     นอกจากนั้น Ferne Health ยังได้ร่วมมือกับเครือข่ายแพทย์เพื่อให้บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพทางออนไลน์ นอกจากนั้น ยังจัดทำบล้อกเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวการดูแลสุขภาพทางเพศ สำหรับเป้าหมายในปี 2021 Ferne Health วางแผนจะขยายธุรกิจและบริการไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเล็งที่มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup