Tech Startup
ส่อง 5 นวัตกรรมสุดเจ๋งที่จะเข้ามาช่วยให้ Work From Home ได้งานดี๊ดี
Main Idea
- Work From Home นับว่าเป็นแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ถูกใจมนุษย์ออฟฟิศเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้ไม่ต้องไปผจญกับคนหมู่มากในที่สาธารณะแล้ว ยังทำให้การทำงานมีอิสระมากกว่าการที่ต้องนั่งอยู่ในออฟฟิศ
- แต่หนึ่งในปัญหาของบางออฟฟิศก็คือการขาดเครื่องไม้เครื่องมือและตัวช่วยที่จะทำให้งานลื่นไหลไปต่อได้ จึงขอแนะนำนวัตกรรม เพื่อให้การ Work From Home ของทุกคนไม่มีสะดุด และไปต่อได้แบบไม่ต้องกลัว
ในช่วงสถานการณ์เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 นี้ เชื่อได้เลยว่าหลายออฟฟิศได้เข้าสู่กระบวนการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นแนวทางป้องกันที่น่าจะถูกอกถูกใจบรรดามนุษย์ออฟฟิศเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้ไม่ต้องไปผจญกับคนหมู่มากในที่สาธารณะ เช่น การเดินทางที่เบียดเสียดบนรถไฟฟ้า สถานที่ค้าขาย การสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ระหว่างการเดินทางไปยังที่ทำงาน แถมยังทำให้การทำงานมีอิสระมากกว่าการที่ต้องนั่งอยู่ในออฟฟิศ อาจจะช่วยให้สามารถคิดงานได้อย่างลื่นไหล จึงถือเป็นหนึ่งในทางออกที่สบายทั้งกายและใจมากเลยทีเดียว
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ว่าการทำงานที่บ้านที่จะมีความปลอดภัย แต่หนึ่งในปัญหาของบางออฟฟิศก็คือการขาดเครื่องไม้เครื่องมือและตัวช่วยที่จะทำให้งานลื่นไหลไปต่อได้ วันนี้ “สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จึงมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีสุดเจ๋งมานำเสนอ เพื่อให้การ Work From Home ของทุกคนไม่มีสะดุด และไปต่อได้แบบไม่ต้องกลัว
1.หมดทุกปัญหาการตอกบัตรด้วย “วันดี : OneDee”
เวลาการเข้างานเป็นหนึ่งในเรื่องที่สำคัญของการทำงานในออฟฟิศ และเราก็มักจะเห็นอย่างชินตาทุกเช้ากับกิจวัตรการต่อแถวเพื่อรอตอกบัตร หรือสแกนนิ้วเพื่อบันทึกเวลาเข้าออกในบริษัท ปัญหาดังกล่าวเป็นผลให้หลายสถานประกอบการไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการ Work From Home ได้ ดังนั้น OneDee จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยบรรเทาให้ปัญหาเหล่านั้นหมดไป สำหรับนวัตกรรมดังกล่าวเป็นระบบลงเวลาทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือโดยใช้ Beacon, Wi-Fi, GPS ในการยืนยันตำแหน่งพนักงาน เมื่อพนักงานลงเวลาแล้วจะสามารถตรวจสอบออนไลน์ได้ทันที ซึ่งช่วยลดงบประมาณและเวลาในการติดตั้งและทดแทนเครื่องตอกบัตรแบบเดิม เมื่อข้อมูลพนักงานถูกบันทึกลงในระบบแล้ว ระบบ OneDee จะสามารถนำข้อมูลไปประมวลผลด้าน HR ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลเงินเดือนและค่าตอบแทน การจัดการโควตาวันลา การจัดการช่วงเวลากะทำงานได้อย่างรวดเร็ว ผลประโยชน์ การตรวจสอบความสามารถในการทำงาน เป็นต้น นอกจากนี้ ระบบ OneDee ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการให้กับ SMEs และช่วยให้เจ้าของกิจการสามารถเอาเวลาไปใช้ในการขยายธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
2.อยู่ที่ไหนก็จัดประชุมและสัมมนาได้แค่ใช้ “ไลฟ์ลูม”
ไลฟ์ลูม : LIVELOOM คือแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ที่เป็นพื้นที่สำหรับให้ผู้ผลิต หรือเจ้าของคอนเทนท์วิดีโอนำมาเผยแพร่เพื่อสร้างรายได้ในรูปแบบ Pay-Per-View (รายได้ตามจำนวนครั้งที่คนกดดู) หรือการกุศล โดยยังเป็นช่องทางทางเลือกใหม่ในการรับชมคอนเทนท์วิดีโอได้ทั้งแบบ LIVE Stream (รับชมแบบถ่ายทอดสด) หรือรับชมแบบย้อนหลังและใช้เทคโนโลยีทางด้าน Video Solution ที่มีมาตรฐานเทียบเท่าแพลตฟอร์มระดับโลกมาใช้ในการพัฒนาระบบทำให้สามารถรับชมวิดีโอได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งจากคุณสมบัติของนวัตกรรมดังกล่าวจึงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับออฟฟิศและองค์กร โดยเฉพาะในการนำมาใช้ในการประชุมกลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ การจัดสัมมนาให้ความรู้และการแถลงข่าว นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับองค์กรที่มีคนจำนวนมาก ซึ่งผู้บริหารสามารถใช้ช่องทางไลฟ์ลูมในการเผยแพร่นโยบายสำคัญที่พนักงานทุกคนต้องรู้ทั้งในรูปแบบรับชมทันที และรับชมย้อนหลังได้อีกด้วย ทั้งนี้ ไลฟ์ลูมยังมีคุณสมบัติพิเศษที่น่าสนใจอีกก็คือความคมชัดของภาพ และเสียงที่อยู่ในระดับ HD ดังนั้น ผู้ใช้จึงมั่นใจได้เลยว่าการประชุมแต่ละครั้งจะไม่สะดุด และเสมือนอยู่ในบรรยากาศจริงแน่นอน
3. Skootar เชื่อมโยงทุกงานเอกสารทั่วกรุงเทพฯ
ถ้าจะพูดถึงเทคโนโลยีของระบบแมสเซนเจอร์ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพที่สุด “สกู๊ตต้าร์ : Skootar” เป็นหนึ่งตัวเลือกที่หลายคน โดยเฉพาะกลุ่มออฟฟิศจะต้องนึกถึง ซึ่งนอกจากสกู๊ตต้าร์จะมีความโดดเด่นในเรื่องความว่องไวและปลอดภัยแล้ว ยังถือเป็นสตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่คนไทยควรให้โอกาสและส่งเสริม สำหรับใครก็ตามที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่บ้านแล้วจำเป็นต้องส่งเอกสารให้ลูกค้า หรือเพื่อนร่วมงาน เพียงแค่เปิดแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์เรียกแมสเซนเจอร์มารับของ ซึ่งไม่ต้องห่วงว่าจะมีเจ้าหน้าที่เพียงพอหรือไม่ เพราะปัจจุบันสกู๊ตต้าร์มีแมสเซนเจอร์กว่าครึ่งพันให้บริการอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ข้อดีของสกู๊ตต้าร์ที่น่าใช้อีกก็คือ ระบบสามารถตรวจสอบได้ว่าเอกสารส่งถึงมือผู้รับหรือไม่ สามารถออกใบเสร็จรับเงินเพื่อเบิกกับออฟฟิศได้ แมสเซนเจอร์มีการกลั่นกรองประวัติจากการให้คะแนนหลังการส่งของทุกครั้ง ส่วนค่าบริการก็เริ่มต้นเพียงแค่ 70 บาท คิดเพิ่มกิโลเมตรละ 10 บาท และยังสามารถสั่งงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง สั่งงานหนึ่งครั้งสามารถส่งได้หลายที่อีกด้วย
4. บัญชีไม่สะดุดแม้หยุดออฟฟิศ คลิก flowaccount.com
เจ้าของธุรกิจและนักบัญชีหลายคน คงเคยประสบกับปัญหาเรื่องการทำบัญชีที่ยุ่งยากซับซ้อน ยิ่งช่วง Work From Home ด้วยแล้วข้อมูลทุกอย่างคงอยู่ที่คอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิศ และหลายคนคงจะเป็นกังวลว่าบัญชีต่างๆ ของบริษัทต้องถูกสต็อปไปพร้อมกับช่วงโควิดนี้แน่ๆ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป แค่ลองคลิกไปที่ flowaccount.com หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น FlowAccount เพียงเท่านี้ทุกปัญหาก็จะง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย สำหรับแพลตฟอร์ม FlowAccount ออกแบบมาเพื่อให้เจ้าของธุรกิจ และพนักงานบัญชีทำงานได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา สามารถใช้งานบนแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน โดยระบบสามารถช่วยได้ทั้งการเปิดใบวางบิล เปิดใบเสนอราคา และทำบัญชีเบื้องต้น เช่น เปิดใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน ดูยอดขายของแต่ละเดือน บริหารลูกค้า บริหารสินค้าที่ใช้บ่อย และสามารถส่งหรือแชร์เอกสารได้ผ่านรูปภาพ Email, PDF, Link, และ LINE ได้ ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าทุกกิจกรรมทางการเงินจบได้ใน FlowAccount ที่เดียว
5. Daywork ตัวช่วยสร้างรายได้เสริมและงานพาร์ทไทม์
หลายออฟฟิศที่มีนโยบาย Work From Home นั้น มีการปรับลดเงินตามไปด้วย เว็บไซต์ Daywork จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการหารายได้เสริม รวมทั้งบริการจัดหาคนทำงาน/พนักงาน พาร์ทไทม์ให้กับบริษัท ห้างร้าน รวมถึงออแกไนซ์ต่างๆ ที่ต้องการกำลังคนเข้าไปช่วยงาน โดยเน้นไปที่รูปแบบการทำงานพาร์ทไทม์ สำหรับผู้ที่ต้องการฝาก หาพนักงานกับ Daywork เว็บไซต์จะให้บริการจัดหาคนแบบ One Stop Service ตั้งแต่จัดหาคน คัดกรองเบื้องต้น เทรนงาน ตรวจสอบการทำงาน ไปจนถึงขั้นตอนการชำระเงินให้กับพนักงานแทนลูกค้า นอกจากนี้ ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยหางานพาร์ทไทม์ให้กับน้องนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังปิดภาคเรียนหรือจำเป็นต้องเรียนผ่านออนไลน์ ไปจนถึงบุคคลทั่วไปที่กำลังมองหาช่องทางในการสร้างรายได้เสริมผ่านการทำงานพาร์ทไทม์ ซึ่งสามารถเลือกทำเฉพาะช่วงเวลาที่ว่าง โดยที่ไม่กระทบต่อการ เรียนหรืองานประจำ ใครที่สนใจก็สามารถทำรายการได้ง่ายผ่าน Daywork ได้เลย
ต้องบอกว่าไอเดีย Work From Home เป็นอะไรที่เวิร์คสุด ๆ และเหมาะกับสถานการณ์ในช่วงนี้ เชื่อว่าในอนาคตแม้ประเทศไทยจะปลอดภัยจากเชื้อโควิด – 19 แล้ว แต่นวัตกรรมเหล่านี้จะยิ่งทวีความสำคัญ เพราะ เทรนด์การทำงานที่บ้านเป็นเรื่องที่มาแรง และเป็นโอกาสของผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพให้ผลิตนวัตกรรมดี ๆ ออกมาได้อย่างไม่รู้จบ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup