Tech Startup
8 ข้อคิดดีๆ จาก “อีวาน สปีเกล” มหาเศรษฐีอายุน้อยสุดในโลก
Main Idea
- อีวาน สปีเกล เปิดตัวต้นแบบ Snapchat เมื่อตอนที่เขาอายุยังไม่ถึ 21 ปีดี และใช้เวลาเพียงปีเดียว Snapchat ก็ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย
- ความสำเร็จดังกล่าวทำให้เขาขึ้นแท่นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยสุดในโลกในวัย 25 ปี ณ ตอนนั้น มาดูกันว่ามี ข้อคิดอะไรที่เราสามารถเรียนรู้จากสปีเกลบ้าง
หนุ่มอเมริกันวัย 29 ปี หนึ่งในพ่อมดวงการซิลิคอนแวลลีย์ที่ตกเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้งเห็นจะได้แก่อีวาน สปีเกล ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Snapchat แอปพลิเคชั่นส่งภาพและคลิปที่มีผู้ใช้งานวันละเกือบ 200 ล้านคนทั่วโลก และเป็นแอปที่มีคลิปผ่านตาผู้ชมราว 6,000 ล้านวิวต่อวัน สปีเกลพัฒนาแอปดังกล่าวช่วงที่ยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ก่อนลาออกมาลุยธุรกิจเต็มตัว ทำให้เขาขึ้นแท่นมหาเศรษฐีพันล้านที่อายุน้อยสุดในโลกตอนอายุ 25 ปี
มาดูกันว่า 8 ข้อคิดที่เราสามารถเรียนรู้จากสปีเกลมีอะไรบ้าง
1. ประสบการณ์สำคัญกว่าปริญญา
สปีเกลก็เป็นหนึ่งใน Tech Startup ที่เจริญรอยตามรุ่นพี่ดังๆ หลายคน อาทิ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก และสตีฟ จอบส์ในการเดินออกจากรั้วมหาวิทยาลัยโดยไม่จบการศึกษา เหลืออีก 3 วิชาก็จะคว้าใบปริญญาสาขาการออกแบบผลิตภัฑ์จากมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด แต่สปีเกลกลับละทิ้งทางนั้นและเลือกมุ่งมั่นปลุกปั้นธุรกิจที่กำลังเติบโตของเขาแทน แม้จะเรียนไม่จบ แต่สปีเกลก็ไม่ได้ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ยังคงใฝ่หาความรู้และพัฒนาตัวเองด้วยการเข้าคอร์สต่างๆ หลากหลายคอร์สเพื่อเพิ่มพูนทักษะอยู่เสมอ
2. ยอมรับความผิดพลาดและไม่ลังเลที่จะขอโทษ
การสร้างตัวจนมั่งคั่งและมีชื่อเสียงในวัยที่ยังน้อยย่อมทำให้สปีเกลเป็นที่สนใจของสังคม และสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือการขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีต จากหลักฐานที่เป็นอีเมลส่งถึงเพื่อนสมัยเป็นนักศึกษาแสดงให้เห็นถึงทัศนคติของเขาในเรื่องการกีดกันเพศ การเหยียดเชื้อชาติ การต่อต้านรักร่วมเพศ รวมถึงด้านมืดต่างๆ สิ่งที่สปีเกลทำคือออกมายอมรับว่าเป็นอีเมลของเขาเอง และยืนยันว่าเขาในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่คนเดิม สปีเกลชี้แนะคนรุ่นใหม่ว่าใครๆ ก็ทำพลาดได้ แม้เราไม่อาจกลับไปแก้ไขอดีต ทำได้คือขอโทษ รอรับการอภัย และเฝ้าหวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายด้วยดี
3. ในความผิดพลาดหรือปัญหามีโอกาสซ่อนอยู่
Snapchat เกิดขึ้นมาได้เพราะเพื่อนของสปีเกลที่ชื่อเรกกี้ บราวน์เข้ามาหาถึงห้องพักแล้วบ่นว่าทำไงดี เขาเผลอส่งรูปที่ไม่น่าส่งไปให้ใครคนหนึ่ง ทั้งคู่จึงนั่งคุยกันและมีการเปรยขึ้นว่า “คงจะดีหากมีแอปที่สามารถส่งภาพแล้วภาพนั้นถูกลบไปเอง” สปีเกลมองเห็นโอกาสในปัญหานี้ จึงชักชวนเพื่อนที่กลายมาเป็นหุ้นส่วนพัฒนาแอป Picaboo ที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Snapchat อันเป็นแอปที่ส่งและลบภาพเองอัตโนมัติในไม่กี่วินาทีหลังผู้รับเปิดดู
4. หากครั้งแรกไม่ประสบความสำเร็จ ให้ลองแล้วลองอีก
การเป็นผู้ประกอบการ ความคิดที่ไม่ควรมีหัวคือ “ล้มเหลว” ธุรกิจแรกที่สปีเกลทำก่อนการแจ้งเกิดของ Snapchat คือการทำเว็บไซต์ Future Freshman เพื่อให้คำปรึกษานักเรียนมัธยมที่กำลังเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยในการรับมือเรื่องต่างๆ ปรากฏมีลูกค้าใช้บริการเพียง 5 คน จนกระทั่งมาทำ Snapchat ซึ่งช่วงแรกๆ ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จในทันที มีการปรับเปลี่ยนโดยฟังจากเสียงผู้ใช้งานจนกว่าจะลงตัวและได้รับการยอมรับในที่สุด
5. เงินสำคัญก็จริงแต่ปฏิเสธบ้างก็ได้
เมื่อคุณปั้นแอปขึ้นมาจนสะสมฐานผู้ใช้งานได้จำนวนหนึ่ง และแอปของคุณมีแนวโน้มเป็นแอปศักยภาพ ย่อมจะมีนักลงทุนสนใจซื้อ เหมือนที่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กเคยขอซื้อ Snapchat ในราคาสูงถึง 3,000 ล้านเหรียญ แต่สปีเกลปฏิเสธเงินก้อนโตเนื่องจากยึดมั่นกับหลักการที่ว่าหากคิดว่าธุรกิจที่ก่อตั้งมาเป็นธุรกิจมีค่า ก็จงอยู่และพัฒนามันต่อไป และสปีเกลก็มาถูกทางเพราะการระดมทุนครั้งล่าสุด ส่งผลให้มูลค่าของ Snapchat ในตลาดทะยานพุ่งไปอยู่ที่ 16,000 ล้านเหรียญ
6. อายุไม่ใช่สิ่งสำคัญ
นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตก่อนที่สปีเกลจะประสบความสำเร็จในวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นฝีมือของคนที่เกิดปี 1990 สปีเกลเปิดตัวต้นแบบ Snapchat เมื่อตอนที่เขาอายุยังไม่ถึ 21 ปีดี ใช้เวลาเพียงปีเดียว แอปพลิเคชั่นที่เขาร่วมพัฒนากับหุ้นส่วนก็ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย กระทั่งได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวยอันดับ 327 ของโลกจาก 400 อันดับ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยสุดในโลกในวัย 25 ปี ณ ตอนนั้น วัยที่หลายๆ คนยังคงตั้งคำถามตัวเองว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตดี
7. อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นจาก “เด็กเนิร์ด”
สปีเกลก็ถือเป็นเนิร์ดคนหนึ่ง เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขามีเพื่อนสนิทเป็นเนิร์ดที่เคยเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์ เพื่อนคนนี้ต่อคอมพิวเตอร์เองตั้งแต่เรียนป.6 แต่อย่าเชื่อว่าเนิร์ดเป็นเด็กแก่เรียน เชยๆ สนใจแต่วิชาการ และไม่ถนัดในการเข้าสังคม ส่วนเรื่องจีบหญิงนั้นไม่ต้องพูดถึง ภาพจำเหล่านี้ลืมไปได้เลยเพราะเนิร์ดในยุคเทคโนโลยีนั้นเป็นอีกแบบ ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ เป็นซีอีโอบริษัท Startup ชอบปาร์ตี้ และจีบสาวเก่ง อย่างสปีเกลเองก็ได้ชื่อว่าเป็นซีอีโอที่มีสไตล์เป็นของตัวเองที่สุด
8. โลกที่ไม่ยุติธรรมชดเชยได้ด้วยการทำงาน
แม้ความสำเร็จของสปีเกล ส่วนหนึ่งมาจากการเกิดในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย พ่อแม่เป็นทนายไฮโซ สปีเกลคุ้นชินกับการใช้ชีวิตหรูหรา และผลาญเงินเป็นว่าเล่น สปีเกลยอมรับว่าในฐานะคนหนุ่ม ผิวขาว มีการศึกษา เขาโชคดีที่มาถึงจุดที่อาชีพการงานไปได้สวย แต่นั่นแหละ เขาเชื่อว่าคนที่ไม่อยู่ในสถานะนั้น สามารถสร้างขึ้นมาได้ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าต้องทำงานหนัก แต่ขอให้เข้าใจระบบ และคิดหาหนทางที่จะแสวงประโยชน์จากระบบนั้นให้ได้
ที่มา : https://vulcanpost.com/466771/evan-spiegel-snapchat-billionaire-youngest/
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup