Main Idea
 

• จาก Pain Point คือ ที่จอดรถไม่พอกับจำนวนรถ ทำให้บางครั้งต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถอยู่นาน หรือโชคร้ายอาจไม่เจอที่จอดรถว่างเลยก็ได้

 

• อภิราม สีตกะลิน จึงพัฒนาแอป P2GO ขึ้นมา เพื่อเช็กให้ชัวร์ก่อนว่ามีที่จอดรถว่างอยู่หรือไม่  แถมมีระบบจองที่จอดรถอีกด้วย

 



     อย่างที่ทราบกันดีว่าปัญหาของคนมีรถในกรุงเทพฯ คือ ที่จอดรถไม่พอกับจำนวนรถ ทำให้บางครั้งต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถอยู่นาน หรือโชคร้ายอาจไม่เจอที่จอดรถว่างเลยก็ได้ ด้วย Pain Point นี้เลยทำให้ อภิราม สีตกะลิน กรรมการผู้จัดการ PARK2GO พัฒนาแอปพลิเคชัน P2GO ขึ้นมา เพื่อเช็กให้ชัวร์ก่อนว่า สถานที่ที่ไปนั้นยังพอมีที่จอดรถว่างอยู่หรือไม่ และมากไปกว่านั้นคือ การพัฒนาระบบจองที่จอดรถเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อไปแล้วได้ที่จอดรถแน่ๆ

     อภิรามเล่าแนวคิดของ P2GO ว่า มาจากการที่เขาเริ่มทำธุรกิจนำเข้าเครื่องจอดรถอัตโนมัติเพื่อแก้ปัญหาที่จอดรถไม่พอให้กับลูกค้า ซึ่งจากการทำธุรกิจนี้ทำให้มองเห็นปัญหาเรื่องที่จอดรถ จนนำมาสู่การพัฒนาแอปฯ P2GO จองก่อนจอด ซึ่งในระยะแรกจะเป็นการเปิดบริการให้เช็กพื้นที่จอดรถด้วยข้อมูลที่สามารถย่อยได้ง่ายคือ ในรูปแบบของสี เช่น ถ้าเป็นสีเขียวแสดงว่า ว่างมีพื้นที่จอดรถ สีเหลืองคือ เริ่มแน่น และสีแดงคือ ที่จอดรถเต็ม ซึ่งเป็นการช่วยแก้ปัญหาเรื่องการจราจรให้กับกรุงเทพฯ ในระดับหนึ่ง และมากไปกว่านั้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมาเขาพัฒนาขึ้นไปอีกสเตป ด้วยการเปิดบริการให้จองที่จอดรถผ่านแอปฯ P2GO

     "คือบางสถานที่ยากมากที่จะหาที่จอดรถ เราเลยพัฒนาให้มีการจองผ่านแอปฯ ก่อนที่จะไปสถานที่นั้น โดยพอจองเสร็จก็มี QR Code เพื่อเอาไปแสดงให้พนักงานของเราดู ซึ่งจะไม่ยุ่งยาก โดยเราจะร่วมมือกับพาร์ตเนอร์เจ้าของสถานที่ เรามีหน้าที่โอเปอเรชัน ส่วนผู้ประกอบการหรือเจ้าของสถานที่จะมีรายได้เพิ่มจากค่าจองล่วงหน้า ตอนนี้เริ่มทำกับอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยการคิดค่าจองส่วนใหญ่จะอิงจากค่าจอดรถ สมมติที่จอดรถปกติคิดค่าจอดชั่วโมงละ 50 บาท ถ้าตอนนี้ 10 โมงแต่จะไปตอนเที่ยง เท่ากับจองล่วงหน้า 2 ชั่วโมงเราคิดเรตต่ำสุดคือ 100 บาท หรือในช่วงที่ไพรม์ไทม์มีความต้องการที่จอดรถเยอะ สามารถขึ้นราคาได้เหมือนอูเบอร์ วันฝนตกหรือเย็นวันศุกร์ก็จะคูณขึ้นมาอีกหน่อย ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่เจ้าของสถานที่ ตอนนี้เรามีสถานที่จอดรถที่เป็นพาร์ตเนอร์ และที่เป็นที่จอดรถอัตโนมัติ รวมๆ แล้วน่าจะมีกว่า 100 ไซต์"

     หลังจากเปิดบริการ มียอดดาวน์โหลดแอปฯ P2GO กว่า 50,000 ดาวน์โหลด เติบโตราว 2 เท่าทุกเดือน ทั้งนี้ อภิรามเชื่อว่าตลาดที่จอดรถในเมืองไทยมีมูลค่าไม่ต่ำว่า 1,300 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากมีรถในกรุงเทพฯ ประมาณ 10 ล้านคัน ขณะที่มีที่จอดที่เป็นคอมเมอร์เชียลเพียงแค่ 3-5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ดังนั้น การที่ P2GO เข้าไปรองรับความต้องการในส่วนนี้จึงเป็นโอกาสดี และเชื่อว่าผู้ขับรถยินดีที่จะจ่ายเพื่อจองก่อนจอด สำหรับเป้าหมายในอนาคต เขาหวังว่าจะขยายพื้นที่การจองก่อนจอดในกรุงเทพฯ ให้มากขึ้น และแผนที่จะขยับออกไปทำตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup