Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์




Main Idea
 

• แม้จะเพิ่งเปิดตัวไปไม่กี่ปี แต่ซิลิงโก้แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่เน้นสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นเครื่องประดับและไลฟ์สไตล์ กลับมีมูลค่าในตลาด 970 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าใกล้การเป็น Startup ระดับยูนิคอร์น

 

• และรู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่กำลังมาแรงนี้  ได้แรงบันดาลใจจากตลาดนัดจตุจักรในกรุงเทพฯ นี่เอง

 



     ถ้าเป็นนักช้อปสายแฟชั่นคงพอคุ้นเคยกับ Zilingo-“ซิลิงโก้”แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่เน้นสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นเครื่องประดับและไลฟ์สไตล์ แม้จะเป็นอี-คอมเมิร์ซที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่กี่ปี แต่ก็ขึ้นแท่นเป็นตลาดนัดออนไลน์แฟชั่นที่มีมูลค่าในตลาด 970 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 30,000 ล้านบาท เรียกว่าเข้าใกล้การเป็น Startup ระดับยูนิคอร์นเลยทีเดียว

     ซิลิงโก้กำลังขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยปัจจุบันซิลิงโก้ให้บริการผู้ซื้อและผู้ขายทั้งทาง B2B และ B2C กว่า 15 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ไทย สหรัฐอเมริกา บราซิล อินเดีย บังกลาเทศ เกาหลีใต้ ฮ่องกง จีน กัมพูชา เวียดนาม อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ มีคู่ค้าทางธุรกิจรวมกันกว่า 27,000 หมื่นราย มีพนักงานกว่า 400 คน และมีโรงงานที่เข้าร่วมธุรกิจกว่า 1,200 แห่งทั่วโลก

     แต่เชื่อหรือไม่ว่าแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่กำลังมาแรงนี้ แท้จริงแล้ว แอนกิติ โบส ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งซิลิงโก้ได้แรงบันดาลใจจากตลาดนัดจตุจักรในกรุงเทพฯ นี่เอง หลังจากที่มีโอกาสได้มาเดินเที่ยวตลาดจตุจักรซึ่งเป็นตลาดนัดสุดสัปดาห์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งรวมร้านค้ากว่า 10,000 ร้าน มีสินค้าจำหน่ายแทบทุกอย่างตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า สินค้าตกแต่งบ้าน หนังสือ ต้นไม้ และกระทั่งสัตว์เลี้ยง แอนกิติจึงอดคิดไม่ได้ว่าหากจำลองตลาดในรูปแบบนี้ลงบนสมาร์ทโฟนจะเป็นอย่างไร

     แอนกิติมองว่าบรรดาผู้ค้าเหล่านี้มีสินค้านำเสนอมากมายและพร้อมที่จะเติบโตทางธุรกิจแต่แค่พวกเขายังขาดในเรื่องเทคโนโลยีและบริการที่จะเสริมศักยภาพในการแข่งขันกับผู้ค้ารายใหญ่กว่าระดับโลก ด้วยเหตุนี้ แอนกิติจึงฝันจะใช้เทคโนโลยีในการสร้างแพลทฟอร์มที่ยกระดับธุรกิจในอุตสาหกรรมแฟชั่นและความงาม และดูเหมือนซีอีโอหญิงแห่งซิลิงโก้วัยไม่ถึง 30 ปีจะผลักดันโปรเจ็คให้สำเร็จระดับที่น่าชื่นใจ

     แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องย้อนกลับไปที่เบงกาลูรูในอินเดีย ในวันหนึ่งของเดือนธันวาคมปี 2014 แอนติกาซึ่งทำงานเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ไปร่วมงานปาร์ตี้ที่บ้านเพื่อนและได้พบกับดรูฟ กาปูร์ วิศวกรซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นแขกรับเชิญอีกคนในงาน ทั้งคู่ได้พูดคุยกันและพบว่าต่างคนต่างฝันอยากเริ่มธุรกิจของตัวเอง พวกเขาคุยกันถึงแผนธุรกิจที่อยากทำ สี่เดือนต่อมา ทั้งคู่ซึ่งอายุเพียง 23 ปีและ 24 ปีตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และลงขันกันเป็นเงิน 30,000 ดอลลาร์ (ราว 9.5 แสนบาท) เพื่อสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ช่วยเหลือร้านค้าขนาดเล็กให้เข้าร่วมวงอี-คอมเมิร์ซ

     ปี 2015 ซิลิงโก้เปิดตัวในฐานะ Fashion Marketplace ที่เริ่มต้นการซื้อขายแบบ B2C ก่อนขยับขยายเป็น B2B อย่างรวดเร็ว แต่ในตลาด SEA-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซิลิงโก้ต้องเผชิญกับคู่แข่งหลายราย รวมถึง ซาโลรา, ลาซาด้า, ช้อปปี้, เลิฟโบนิโต้, โพเมโล และโตโกพีเดีย ซึ่งแอนกิติมองว่าการนำโมเดล B2C มาใช้อย่างเดียวหมายถึงจะอยู่รอดได้คือต้องลดราคาสินค้าและทำสงครามราคา ซึ่งแทนที่จะทำเช่นนั้น ทางซิลิงโก้ได้พยายามลดต้นทุนในส่วนของการดำเนินการให้กับผู้ค้า

     สิ่งที่ทำให้ซิลิงโก้แตกต่างจากอี-คอมเมิร์ซรายอื่นคือการเน้นผู้ค้าเป็นศูนย์กลาง ระบบของซิลิงโก้จะเชื่อมโยงธุรกิจทั้งหมดเข้ากับซัพพลายเชน และจัดสรรระบบต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับผู้ค้าในการดำเนินธุรกิจ นอกจากระบบการจัดการสินค้าคงคลัง และการติดตามยอดขายแล้ว ซิลิงโก้ยังเพิ่มบริการที่มากกว่านั้น เช่น บริการด้านการเงินผ่านบริษัทฟินเทค บริการจัดหาจัดซื้อ และการอัพเดตเทรนด์แฟชั่นให้ผู้ค้า เป็นต้น ที่สำคัญผู้ค้าบนซิลิงโก้สามารถอัพโหลดสินค้าลงบนซิลิงโก้ด้วยภาษาใดก็ได้ และเลือกรับชำระค่าสินค้าได้ไม่จำกัดสกุลเงิน

     อย่างไรก็ตาม ความสะดวกต่างๆ ที่ผู้ค้าได้รับจำต้องแลกมาด้วยการจ่ายค่าคอมมิสชั่นให้ซิลิงโก้ 10-20% ต่อออร์เดอร์ และซิลิงโก้ยังขยายแพลตฟอร์มค้าส่งในชื่อ AsiaMall ที่เอื้อให้ผู้ค้าจากทั่วโลกสามารถซื้อสินค้าส่งจากซัพพลายเออร์ในเอเชียได้ แม้จะขยายธุรกิจไปนอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่แอนกิติระบุยังให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพ อัตราการใช้สมาร์ทโฟนสูง ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงทำงานที่มีกำลังซื้อมากโดยเฉพาะอินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดของซิลิงโก้

     นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา ซิลิงโก้ระดมทุนได้หลายระลอก ล่าสุดมีทุนอัดฉีดเข้ามาอีก 308 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ซิลิงโก้ขึ้นแท่นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีทุนสนับสนุนสูงสุด และปัจจุบัน มูลค่าของบริษัทในตลาดหย่อน 1,000 ล้านไปเพียง 30 ล้านดอลลาร์เท่านั้น เม็ดเงินทุนสนับสนุนที่เข้ามา ผู้บริหารได้นำไปต่อยอดธุรกิจตลอด อย่างไรก็ตาม แม้รายได้สุทธิจะอยู่ที่หลัก “ร้อยล้านดอลลาร์” แต่บริษัทก็ยังไม่อยู่ในสภาวะทำกำไร แต่แอนกิติ ผู้ก่อตั้งซิลิงโก้เชื่อว่ามีโอกาสที่บริษัทจะทำกำไรในช่วงกลางปี 2019 นี้ 
 
ที่มา : https://vulcanpost.com/657807/zilingo-online-fashion-marketplace/
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup