Tech Startup
Sellsuki ผู้ช่วยร้านค้าเชื่อมออนไลน์สู่ออฟไลน์
ความท้าทายของธุรกิจออนไลน์ในวันนี้ คือทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงลูกค้าได้มากที่สุดในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ รวมถึงช่องทางออฟไลน์ เพราะหากเลือกเพียงช่องทางใดช่องทางหนึ่งในการเข้าถึงลูกค้าก็จะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันแม้จะขายดิบขายดีจริง แต่ถ้าไม่มีระบบที่ดีมารองรับ เมื่อธุรกิจโตถึงระดับหนึ่งก็จะเติบโตต่อได้ยาก ผู้ประกอบการจึงควรมีระบบการบริหารจัดการร้านค้าเข้ามาเป็นผู้ช่วยข้างกาย
หลายคนอาจจะเคยได้ยิน Sellsuki โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดการขายอยู่บนโซเชียลมีเดีย ด้วยเพราะ Sellsuki เป็นโซลูชันแรกๆ ที่เข้ามาช่วยร้านค้าบนโซเชียลมีเดียให้สามารถบริหารงานหลังบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนมาวันนี้ Sellsuki ได้ขยายโซลูชันมาสู่ทุกช่องทางของการค้าขาย ซึ่ง เลอทัด ศุภดิลก Co-Founder ของ Sellsuki บอกว่าจุดมุ่งหมายของ Sellsuki คือต้องการให้ร้านค้าเติบโต ฉะนั้นแกนหลักของธุรกิจคือระบบการค้าขาย
“เรามองว่า SME ไม่ควรมาวุ่นกับเรื่องหลังบ้าน จุดขายของแต่ละร้านควรเป็นเรื่องของแบรนดิ้ง การพัฒนาโปรดักต์ ทำการตลาด การรักษาลูกค้าให้ดี ฉะนั้นความยุ่งยากซับซ้อนของหลังบ้านเราจัดการให้ Sellsuki จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน ออร์เดอร์ไม่ตกหล่น บางคนขายจนไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับธุรกิจสต็อกหาย โดนพนักงานโกง อย่างแค่การแชตวันหนึ่งคนขาย 1 คนเต็มที่จะทำได้ 20 ออร์เดอร์ แต่พอมี Sellsuki เขาสามารถขายได้วันละ 100 ออร์เดอร์ เราเชื่อว่าคนที่ขายดีและคนที่ต้องการจะเติบโต ไม่ว่าจะเป็น SME หรือบริษัทล้วนต้องการระบบมาช่วยจัดการ แล้วเรามองอีกเรื่องหนึ่งว่า ทุกอย่างต้องลิงก์เข้าหากัน การขายเดี๋ยวนี้มีหลายช่องทาง เราอยากเข้าสู่ตลาดขายปลีกที่ไม่ใช่แค่ขายผ่านโซเชียลมีเดีย เมื่อก่อน 100 เปอร์เซ็นต์เป็นโซเชียลมีเดีย เดียวนี้เราเอาแค่ 70 เปอร์เซ็นต์ อีก 30 เปอร์เซ็นต์เป็นช่องทางใหม่ๆ เช่น เว็บไซต์ ออฟไลน์ หรือขายผ่านตัวแทน ฉะนั้นจุดเด่นของ Sellsuki คือไม่ว่าจะซื้อผ่านช่องทางไหนเราเชื่อมกันหมด”
ปัจจุบัน Sellsuki แพลตฟอร์มที่ผสานช่องทางค้าปลีกและโซลูชันทั้งหมดไว้ด้วยกัน มีพันธมิตรซึ่งเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ที่ใช้ระบบของบริษัทมากถึง 1,000 ร้านค้า โดยมีโซลูชันและบริการที่หลากหลายกว่า 10 ประเภท เพื่อรองรับทุกความต้องการของลูกค้า เช่น ระบบจัดการออร์เดอร์ การชำระเงิน และการขนส่ง ระบบการบริหารบทสนทนาจากเฟซบุ๊ก เป็นต้น โดยเลอทัดตั้งใจอยากให้การสตาร์ตธุรกิจที่แม้จะมีคนแค่ 1-2 คน ก็สามารถทำธุรกิจและเติบโตไปต่อได้ และขยายไปต่างประเทศ
“ตอนนี้มีร้านค้าต่างประเทศที่อยู่ในระบบ เช่น ลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย แต่เรายังไม่ได้ทำการตลาดตรงนี้จริงจัง เรามีความใฝ่ฝันว่าอยากสร้างผลิตภัณฑ์ที่มันสเกล ซึ่งต้องเตรียมความพร้อม ภาษา กฎหมาย การหาพาร์ตเนอร์ต่างๆ คิดว่าเร็วๆ นี้เราต้องไปต่างประเทศ”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup