ในยุคที่ใครๆ ก็พูดถึงบล็อกเชนว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่มาเปลี่ยนโลก เจนโชติ ศรีพรประเสริฐ ผู้พัฒนานวัตกรรมขององค์กร จึงเชิญ อลัน ลี ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรม Fintech และ Proptech  จากประเทศสิงคโปร์ หนึ่งในประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยีของโลกบล็อกเชนมาร่วมพูดคุยด้วยในงาน Getting to Know Blockchain ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

     อลันบอกว่า ความสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชนคือการกระจายออกจากศูนย์กลาง จากเทคโนโลยีปัจจุบันที่จะมีเซิร์ฟเวอร์ของตนเอง แต่ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนเซิร์ฟเวอร์จะกระจายอยู่กับทุกคน จะไม่มีศูนย์กลางต่อไปแล้ว จึงทำให้ปลอดภัยจากการโจมตีจากตรงกลาง ดังนั้น การมาของเทคโนโลยีบล็อกเชนจึงทำให้การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ง่ายขึ้น ขณะที่ธุรกิจเดิมต้องปรับตัว

     “อย่างเช่น ธนาคารที่ต้องมีโครงสร้างใหญ่ลงทุนเซิร์ฟเวอร์ของตนเอง แต่เมื่อเป็นเทคโนโลยีบล็อกเชนใครๆ ก็สามารถมาตั้งธนาคารได้ แล้วเราไม่ต้องเขียนโปรแกรมเหมือน ซาโตชิ นากาโมโตะ ผู้สร้างบิทคอยน์สกุลเงินแรกของโลก  ตั้งแต่ต้น เพราะมีเครื่องมือสำหรับทำเหรียญของตนเองอยู่แล้วก็เอาเครื่องมือนั้นมาทำ ทำให้เราสามารถเริ่มต้นเกี่ยวกับเรื่องการเงินขึ้นมาได้ ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่ทำให้โลกเปลี่ยนไปคือเริ่มต้นธุรกิจเกี่ยวกับการเงินได้ง่ายขึ้น”

     นอกจากอุตสาหกรรมการเงินที่กล่าวถึงกันกว้างขวางแล้ว ในมุมมองของอลัน เทคโนโลยีบล็อกเชนยังสามารถนำมาใช้ได้กับแทบทุกธุรกิจ โดยเขาให้ความเห็นว่าธุรกิจหรืองานที่จะได้รับประโยชน์ที่สุด คือ 1. โลจิสติกส์ ที่จะทำให้รู้ว่าสินค้าอะไรเป็นมายังไง ส่งไปถึงไหนแล้ว  2. งาน HR  ซึ่งจะต้องพึ่งพาข้อมูลส่วนบุคคลในการยื่นใบสมัครงาน ถ้ามีเทคโนโลยีบล็อกเชน ข้อมูลนี้จะถูกบันทึกไว้ตั้งแต่แรกว่าไปทำอะไรที่ไหนมา และ 3.งานการกุศล ที่จะได้รู้ว่าเงินไหลมาจากไหนไปที่ไหน มีความโปร่งใสมากขึ้น

     สำหรับประเทศสิงคโปร์นั้น เนื่องจากทางรัฐบาลสิงคโปร์มีนโยบายส่งเสริมสนับสนุน Startup อยู่แล้ว ฉะนั้นถ้ามีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา กฎระเบียบอะไรที่จะเป็นอุปสรรคก็จะเปิดให้เท่าที่จะเปิดได้ เพื่อดูว่าเทคโนโลยีจะโตไปในทิศทางใด จากนั้นค่อยกำหนดกฎระเบียบใหม่ตามมา การมาของเทคโนโลยีบล็อกเชนก็เช่นเดียวกัน

     “คือรัฐบาลช่วยผลักดัน Startup เต็มที่ เหมือนตอนโมไบล์แอพฯ เข้าใหม่ๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าจะไปทางไหนดี เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ สำหรับบล็อกเชนที่สิงคโปร์มีจัดอีเวนต์สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เกี่ยวกับบล็อกเชน และ Crypto Currency โดยมีคนมาร่วม 50-60 คน คนไปในอีเวนต์ส่วนใหญ่ก็เพื่อจะทำการเสนอขายเหรียญในระยะเริ่มต้น หรือ ICO (Initial Coin Offering)”

     อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศเล็ก ดังนั้น ถ้ามีอะไรใหม่ๆ ข่าวจะแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว และทุกคนอยากจะลอง แต่กระนั้นคนสิงคโปร์ก็ใช่ว่าพฤติกรรมจะเปลี่ยนง่ายๆ ซึ่งอลันเชื่อว่า คนในหลายประเทศก็เช่นกันเขาจึงบอกว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจจะเหมือนเช่นเทคโนโลยีใหม่อื่นๆ ที่กว่าจะได้รับความนิยมต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี