Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์
    
    Sharing economy หรือการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากกำลังการผลิตที่เหลือของทรัพยากรหรือสินทรัพย์ที่มีอยู่กลายเป็นโมเดลธุรกิจที่กำลังมาแรงในยุคดิจิตอล ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุดคือ Airbnb ผู้ให้บริการห้องพักแก่นักเดินทาง หรือ Uber ที่ให้บริการแท็กซี่ส่วนบุคคล จนกลายเป็นโมเดลที่ใคร ๆ ก็อยากเลียนแบบ อยู่ที่ว่าใครจะมองเห็นโอกาสอย่างไร อย่าง 3 หนุ่มเพื่อนซี้ มหาบัณฑิตด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ดในอังกฤษ ได้แก่ แอนโทนี่ คอลเลียส เจค็อบ เวดเดอร์เบิร์น และแมท มายิวสกี้ ก็ริเริ่มธุรกิจรูปแบบเดียวกับ Airbnb 

    อพาร์ทเมนต์ของแอนโทนี่ มักจะเป็นที่ที่เพื่อน ๆ นำกระเป๋าเดินทางมาฝากเก็บ คนนั้น คนนี้เวียนเอามาฝากจนแอนโทนี่รู้สึกรับไม่ไหวเพราะมันมากเกินไป ในความรำคาญนั้นเขามองเห็นโอกาสทางธุรกิจ แอนโทนี่จึงชักชวนเพื่อนอีก 2 คนคือเจค็อบกับแมทมาลงขันกันทำธุรกิจรับฝากกระเป๋าเดินทาง โดยทำตามแบบโมเดลของ Airbnb หลังจากที่หาพันธมิตรที่เป็นโฮสต์ผู้มีพื้นที่ว่างและพร้อมรับฝากกระเป๋าได้จำนวนหนึ่ง ทั้งสามได้ทำเว็บไซต์ขึ้นมาเมื่อปี 2015 ชื่อ CityStasher ให้บริการรับฝากกระเป๋าเดินทางตามจุดต่าง ๆ ในลอนดอน และนอกลอนดอน



      โฮสต์ที่คัดเลือกส่วนใหญ่เป็นโรงแรม และร้านค้าที่อยู่ใกล้สนามบิน สถานีรถไฟ หรือสถานีขนส่งเนื่องจากกลุ่มเป้าหมายคือนักท่องเที่ยว และนักเดินทาง จุดเด่นของ CityStasher คือค่าบริการไม่แพง อย่างบริการฝากกระเป๋าตามสนามบินหรือที่อื่นจะคิดค่าฝาก 12.50 ปอนด์ต่อชิ้น/วัน แต่ของ CityStasher ถูกกว่าเกินครึ่ง คือเริ่มต้นที่ 6 ปอนด์/ชิ้น/วันในเขตลอนดอน ถ้านอกลอนดอนจะถูกลงคือ 5 ปอนด์ และวันถัดไปค่าบริการลดลงจากเดิมวันละ 1 ปอนด์นอกจากราคาดึงดูดใจแล้ว ยังมีโลเคชั่นให้เลือกมากมาย ซึ่งบางพื้นที่ไม่มีบริการรับฝากกระเป๋าด้วยซ้ำ แต่ CityStasher ก็มีโฮสต์ที่นั่นคอยให้บริการ

    หลังจากที่ดำเนินธุรกิจมาระยะหนึ่ง ปี 2016 หุ้นส่วนทั้ง 3 ได้ชักชวน ธาโน่  ซาชาลิส มาร่วมวงด้วย โดยธาโน่เป็นคนพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่ออำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่มีแต่เว็บไซต์และเฟสบุ๊กหรือทวิตเตอร์ ในการใช้บริการ ลูกค้าสามารถดำเนินการผ่านแอพฯ โดยเลือกโลเคชั่นที่ต้องการฝากกระเป๋า คลิกจอง ชำระเงินทางออนไลน์ แล้วนำกระเป๋าไปฝากได้เลย บริษัทมีบริการรับประกันความเสียหายและสูญหาย 250 ปอนด์ และเตรียมให้บริการแพคเกจประกันภัยที่รับผิดชอบสูงสุด 1,500 ปอนด์  

    รายได้หลักของ CityStasher มาจากการหักเปอร์เซนต์จากโฮสต์ บริษัทมีแผนขยายบริการไปยังเมืองอื่นในอังกฤษ  ในยุโรป และเมืองใหญ่ในประเทศอื่นเช่น นิวยอร์ก ซิดนีย์ และโตเกียว นับเป็นไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ๆ เป็นการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่มีเวลาน้อยไม่ต้องลากกระเป๋าไปทัศนาตามที่ต่าง ๆ ให้ทุลักทุเล สมดังสโลแกนของ CityStasher ที่ว่า

     “Drop your bags, enjoy the city”
     ฝากสัมภาระไว้แล้วออกไปเริงร่าชมเมือง