Text : Yuwadi.s

     ตอนที่คุณอายุ 8 ขวบ คุณกำลังทำอะไรอยู่? มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งใช้ช่วงเวลาว่างตอนอายุ 8 ขวบถักไหมพรมและเธอก็ได้หลงใหลในความสุขระหว่างทำ จนปัจจุบันเธออายุ 18 ปีและได้เริ่มต้นหารายได้เสริมจากสิ่งที่เธอถนัดนั่นคือการถักไหมพรมให้กลายเป็นงานศิลปะสุดเจ๋งแถมยังไม่เหมือนใคร นี่คือเรื่องราวธุรกิจเล็กๆ ระหว่างเรียนของ ธัญ ธนัญชนก เจษฎารมย์ กับร้าน Thanya.rn ที่กำลังมาแรงสุดๆ บนโลกออนไลน์ กับผลงานไหมพรมน่ารักๆ อย่างไหมพรมกุ้งเผา ไหมพรมเซ็ตขนมไทย ไหมพรมข้าวผัดอเมริกัน

ถักไหมพรมตั้งแต่ 8 ขวบสู่การสร้างรายได้เสริมในวัย 18 ปี

     สำหรับจุดเริ่มต้นร้านไหมพรมของธัญนั้น เธอเล่าว่าเธอถักไหมพรมมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบและก็ถักมาเรื่อยๆ จนมาถึงตอนที่เธออายุ 18 ปีและเรียนอยู่มัธยม 6 เธอจึงเริ่มต้นคิดที่จะขายเป็นครั้งแรกจากการที่ลองโพสต์ผลงานเล่นๆ ใน Instagram

     “ตอนนี้หนูเรียนอยู่ม.6 ค่ะ หนูเริ่มต้นทำเมื่อปลายปีที่แล้วเริ่มจากไอจีใช้ชื่อว่า Thanya.rn เป็นการรวมกันของชื่อหนูคือ Than (ธัญ) กับ Yarn ที่แปลว่าไหมพรม หนูเริ่มถักมาตั้งแต่ตอนอายุ 8 ขวบ ทำบ้าง หยุดบ้าง ตอนนั้นที่เริ่มถักเพราะเขามีกระแสฮิตๆ ที่คนชอบเล่นสไลม์ ถักหนังยางแล้วเราเห็นเพื่อนถักหนังยางก็อยากถักบ้าง เลยไปลองเสิร์ชแล้วมันมีขึ้นว่าถักไหมพรม หนูเลยลองกดเข้าไปดูแล้วก็ลองทำเลยค่ะ มันก็เลยติดลมบน เพราะว่าการถักไหมพรมมันไม่ได้จำกัดกรอบว่าต้องเป็นเสื้อผ้าเท่านั้นนะ เราถักเป็นของเล่นก็ได้ ทำได้หลายอย่าง ทำตุ๊กตาก็ได้ มันมีความหลากหลายมากค่ะ เราก็ลองฝึกด้วยตัวเอง 100% ฝึกจากยูทูปบ้าง ผ่านร้านหนังสือก็ลองซื้อมาอ่านบ้าง จนปลายปีที่แล้วช่วงเดือนสิงหาคม หนูกลับมาทำจริงจังอีกรอบเพราะเราอยากมีสมาธิ อยากอยู่กับตัวเอง เลยเริ่มกลับมาถักแล้วก็โพสต์ลงสตอรี่ เพื่อนก็เริ่มมาสั่ง พอเพื่อนมาสั่งก็มีเพื่อนมาสั่งตามกันอีกเยอะเลย”

     จุดเด่นของไหมพรมร้านของเธอนั่นคือความเก๋ไม่เหมือนใคร โดยจะเน้นดีเทลของสินค้าแบบสมจริง ถึงขั้นรีเสิร์ชกายวิภาคของกุ้งเผาก่อนที่จะลงมือถักไหมพรม ทำให้ไหมพรมที่ร้านมีความน่ารัก สามารถนำไปเล่นได้จริง อาทิ เซ็ตขนมไทย เซ็ตข้าวผัดอเมริกันหรือตัวที่ดังใน TikTok อย่างกุ้งเผา

     “จุดเด่นของร้านหนูจะเน้นไปที่คุณภาพของสินค้า เราเลยขายในราคาที่ค่อนข้างสูง เพราะดีเทลมันเยอะ เช่น กุ้งเผา จริงๆ การถักมันใช้เวลาไม่นาน แต่ที่นานคือเราต้องใช้เวลาในการรีเสิร์ชอนาโตมี่ของตัวกุ้งว่ามันมีขาไหม มีไส้ไหม มีกล้ามเนื้อแบบไหน เราลงดีเทลเยอะทุกอันเพราะอยากให้มันมีคุณภาพมากกว่าการทำไปให้มันจบๆ มันไม่ใช่ตุ๊กตาของเล่นทั่วไปแต่จะมีความสมจริงมากกว่า มีบางออเดอร์ที่ทำมา เขาสั่งและกำหนดงบมาให้ แต่รายละเอียดเยอะ งบไปไม่ถึง หนูก็ขอยกเลิกเลยแม้ว่าเราจะลงมือทำไปบ้างแล้ว เราไม่เก็บเงินเลยเพราะรู้สึกว่าถ้าเขาให้งบมาแค่นี้ แล้วงานขนาดนี้ หนูไม่สามารถทำให้มันถึงได้ หนูก็ไม่อยากทำ เราอยากทำให้ดีที่สุดไปเลย”

     สินค้าของร้านของมีทั้งแบบพร้อมและพรีออเดอร์ หรือหากใครที่มีแบบอยู่ในใจก็สามารถส่งมาให้ทำได้ โดยเธอจะคิดราคาตามชั่วโมงที่ถักไหมพรม เริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 60 บาท โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนทำงานที่มีกำลังซื้อ

     “สินค้าของหนู ลูกค้าบางคนก็เอาไปเป็นของขวัญ บางคนก็ใช้เอง บางคนก็ซื้อให้ลูกเล่น ส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าจะเป็นคนวัยทำงานที่มีกำลังซื้อเพราะราคาจะค่อนข้างสูง ราคาเริ่มต้นก็จะต้องดูงานแต่ละชิ้นว่าทำนานไหม หนูจะคิดชั่วโมงละ 60 บาท แล้วก็มีทั้ง 2 แบบคือพร้อมส่งกับ Made to order”

ใช้ TikTok เป็นพื้นที่โปรโมตจนมีคนดูหลักล้าน

     สำหรับการเข้าถึงลูกค้า ตอนแรกธัญใช้ Instagram ในการเริ่มต้น แต่จุดที่ทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างรวมถึงมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องนั่นคือการพาผลงานไหมพรมเข้าสู่โลก TikTok จนมีคนดูคลิปสูงสุดถึง 8 ล้านคนกับคลิปที่เธอเล่นไหมพรมกุ้งเผาให้คนดู

     “ตอนแรกที่ทำหนูเปิดแต่ Instagram ยังไม่ได้เข้า TikTok เพราะหนูอคติกับ TikTok มันดูดวิญญาณ หนูเลยเลิกเล่นไป กลัวเสียสมาธิ แต่มีช่วงหนึ่งที่หนูทำไหมพรมเซ็ตขนมไทย แล้วเอาไปเล่นกับเพื่อน ถ่ายคลิปเล่น แล้วหนูเอาไปให้พี่ชายดู พี่ก็บอกว่าคลิปแบบนี้คนน่าจะชอบ ลองไปลง TikTok สิ เขาก็พูดหลายรอบมาก หนูเลยเอาไปลง แล้วก็แมสเลย เปิดช่องได้ 5 นาทีแล้วลงเลย หนูว่า TikTok มันเป็นแพลตฟอร์มที่แมสง่าย เพราะค่อนข้างดันคลิปเรามากกว่าแพลตฟอร์มอื่น หนูเคยลองลงยูทูปก็ได้แค่ 2-3 พันวิวเป็นคลิปเดียวกับที่ลง TikTok แต่ได้ล้านวิว คนไทยเล่น TikTok กันเยอะมาก คลิปที่แมสของหนูจะเป็นคลิปกุ้งเผา น้ำพริกปลาทู ขนมไทย ข้าวผัดอเมริกัน เพราะรายละเอียดมันเยอะ มันสมจริง คนก็จะดูเยอะ มันมีดีเทล ดูทำยากคนเลยชอบ”

     โดยธัญได้เล่าให้ฟังต่อว่าเหตุผลที่เธอชอบถักไหมพรมนั่นเป็นเพราะเธอเสพติดความรู้สึกหลังจากที่ถักเสร็จและออกมาเป็นผลงาน ทำให้เธอรู้สึกภูมิใจ ที่สำคัญยังสร้างรายได้เสริมระหว่างเรียนให้เธอได้ด้วย

     “มันรู้สึกเหมือนคนติดยา บางคนแค่เห็นหนูถักก็คิดว่าทำไปได้ยังไงเป็น 10 ปี แต่หนูรู้สึกว่าเวลาที่เราทำไปเรื่อยๆ มันอาจจะไม่ได้สนุกตลอด แต่พอมันเสร็จแล้วมันจะมีความภูมิใจกับตัวเองมากๆ เราเสพติดความรู้สึกตอนมันทำเสร็จ เวลาที่คนได้รับไปแล้วฟีดแบคกลับมาว่าชอบมากเลย ก็ทำให้เรารู้สึกดีและมีกำลังใจอยากทำต่อ ตอนนี้รายได้ต่อเดือนประมาณ 3-5 พันบาท เป็นค่าขนม สำหรับหนูไม่ได้ขัดสนอะไร หนูอยู่ได้แล้วสำหรับเด็กมัธยมคนหนึ่ง ไม่ได้ต้องการเยอะไปกว่านี้ หนูมีความสุขแล้ว”

     ธัญได้ปิดท้ายถึงเส้นทางการถักไหมพรมหลังเรียนจบว่าเธอจะเต็มที่และไปให้สุดกว่าจุดที่ยืนอยู่ อีกทั้งเธอให้ความสำคัญกับเรื่องของคุณภาพงานมาก เป็นหัวใจสำคัญของเธอ

     “หลังเรียนจบ หนูอยากทำโครเชต์แบบจริงจัง หนูเป็นคนมีไอเดียเยอะมาก แต่ติดตรงที่ต้องเรียน ทำให้หนูโฟกัสไม่เต็มที่ แต่ถ้าหนูเต็มที่ มันจะสุดได้มากกว่านี้ ระหว่างทางที่ทำมาก็มีลอกแลกบ้าง ไปชอบอย่างอื่นบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเราได้ทบทวนตัวเองว่าชอบอะไร เลยได้รู้ว่าชีวิตที่ผ่านมาเรารักการถักไหมพรมมาตลอด เราเลยรู้ว่าเราชอบถักไหมพรมจริงๆ หัวใจสำคัญของหนูคือหนูจะเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ถ้าทำแล้วไม่ดีที่สุดก็ไม่ทำดีกว่า”

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup