Laayhouse แบรนด์เสื้อพลังบวกของนักเรียนวัย 18 ปี ที่สร้างรายได้หลักแสน
Text : flymetothemoon
หลายคนอาจคิดกลัวในการเริ่มต้นทำแบรนด์ แต่ไม่ใช่กับ แตง-ลภัสรดา เตียตระกูล ที่พอได้ไอเดียแล้ว ก็ลงมือทำเลย แตงเริ่มต้นสร้างแบรนด์เสื้อของตัวเองในวัยเพียง 15 ปี โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า Laayhouse ภายใต้คอนเซปต์ “lay down your heart” ใช้เวลา 3 ปี จนในวันนี้สามารถสร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน
แบรนด์ที่ต้องการสร้าง Positive Vibes ให้กับลูกค้า
หากคิดถึงจุดเด่นของแบรนด์ หลายคนอาจนึกถึงสิ่งที่ไกลตัวเพื่อจะได้มีคอนเซปต์ที่ไม่เหมือนใครทำให้ต้องใช้เวลานาน แต่แตงได้ไอเดียจากคนใกล้ตัวและลงมือทำทันที
“แตงเป็นคนถ้าอยากทำอะไร จะทำเลย ไม่งั้นนอนไม่หลับ พอได้ไอเดียก็ลงมือทำเลย Laayhouse แตงได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนคนหนึ่งที่เขาพูดแต่สิ่งดีๆ คอยให้กำลังใจ เป็นพลังงานด้านบวก แตงรู้สึกดีมากที่ได้รับพลังงานบวกจากเขา ทำให้คิดอยากทำแบรนด์เสื้อที่เป็นเหมือนเพื่อนให้กับลูกค้า แบรนด์ที่ให้พลังบวกทำให้ลูกค้ารู้สึกดี อย่างคำ ประโยคหรือดีไซน์อื่นๆ ที่ให้กำลังใจและทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และเป็นแบรนด์เสื้อที่มีดีไซน์ใส่ง่าย ใส่ได้ทุกวัน ราคาไม่สูง ลูกค้าสามารถซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเองได้”
ทั้งนี้ แตงยังบอกอีกว่า ที่มาของชื่อ Laay มาจากคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่ต้องการสร้างพลังบวก สร้างความสบายใจให้กับลูกค้า มาจากคำว่า lay, lazy และ lay down your heart
เริ่มต้นจากพรีออร์เดอร์ หยิบเรื่องที่คนสนใจมาเป็นไอเดีย
การทำแบรนด์เสื้อผ้าหากสั่งทำเสื้อพร้อมส่งต้องใช้เงินจำนวนมาก สำหรับแตงที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ยังไม่มีเงินทุนพอ ทำให้ตอนเริ่มทำแบรนด์ Laayhouse แตงเปิดรับเป็นพรีออร์เดอร์ เน้นชูไอเดียของแบรนด์และจับประเด็นที่คนสนใจมาเป็นไอเดียในการทำสินค้าเพื่อดึงดูดความสนใจ
“แตงเริ่มลงขายในช่วงโควิด-19 เพราะเห็นว่าเป็นช่วงที่คนซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์มากขึ้น ตอนเริ่มทำแบรนด์แตงหาร้านตัดเย็บ สกรีนเสื้อที่รับผลิตแบบไม่มีขั้นต่ำ โดยจะออกแบบ สั่งทำหนึ่งตัวก่อนเพื่อมาใส่เป็นแบบถ่ายโพสต์สินค้าลงโซเชียลมีเดีย X (Twitter) และจ้างอินฟลูเอนเซอร์มาช่วยรีทวีต เพราะแตงไม่มีทุนจำนวนมาก คอลเลคชั่นที่เริ่มทำและทำให้ต่อยอดได้คือเสื้อ no animal testing โดยไอเดียมาจากที่แตงอยากร่วมรณรงค์ในเรื่องของการไม่นำสัตว์มาทดลอง คนสนใจสั่งพรีออร์เดอร์จำนวนมาก ด้วยเป็นประเด็นที่คนให้ความสนใจจำนวนมากอยู่แล้วในช่วงนั้นทำให้แตงมีเงินมาต่อยอดในคอลเลคชั่นต่อมา”
สำหรับเสื้อภายใต้แบรนด์ Laayhouse แตงจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ กลุ่มสินค้าตามเทรนด์เป็นดีไซน์กำลังมาแรงที่ออกแบบมาสำหรับแฟชั่นช่วงนั้น และกลุ่มสินค้าดีไซน์ที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์คือใส่สบาย น่ารัก สีพาสเทล เพื่อให้แบรนด์ตามทันแฟชั่นและไม่สูญเสียความเป็นตัวตนของแบรนด์
ต่อยอดจาก Laayhouse สู่ Laaygentle
แบรนด์ Laayhouse มีออร์เดอร์ 100 - 200 ออร์เดอร์ สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน ด้วยกระแสตอบรับที่ดีทำให้แตงตัดสินใจต่อยอดสู่ Laaygentle ซึ่งเป็นแบรนด์ที่แตงได้ร่วมงานกับนักแสดง ท็อปแท๊ป-จิรกิตติ์ คูอาริยะกุล เป็นแบรนด์เสื้อพลังบวกที่เน้นตอบโจทย์ผู้ชายมากขึ้น ปัจจุบันทั้งแบรนด์ Laayhouse และ Laaygentle มีวางขายที่ Matchbox สาขา Siam Square
“แตงกับท็อปไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ท็อปได้ติดตามผลงานของ Laayhouse และชอบในสไตล์ของแบรนด์ ทำให้แตงกับท็อปได้คุยและทำแบรนด์ Laaygentle ร่วมกัน แบรนด์ที่มีดีไซน์เท่ ใส่สบายและเน้นคุณภาพมากขึ้นทำให้ราคาสูงกว่า Laayhouse เพราะผู้ชายส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมใส่เสื้อซ้ำมากกว่าผู้หญิง”
นอกจากนี้แตงยังได้ปิดท้ายถึงสิ่งสำคัญที่แตงยึดทำเป็นประจำสำหรับการทำแบรนด์คือการตั้งเป้าหมายและจัดทำตารางเวลาอย่างชัดเจนตามกำลังที่ตัวเองไว้ ด้วยเธอเรียนและทำงานไปด้วย ทำให้ต้องแบ่งเวลาให้ดีกับทั้ง 2 ด้าน ไม่เพียงเท่านั้นแตงยังได้สร้างทีมสำหรับการทำแบรนด์ขึ้นอย่างทีมแอดมินตอบแชทลูกค้าและทีมแพ็คสินค้า เพราะตัวเธอมีเวลาน้อย จึงทำให้มีเวลาสำหรับทั้งการเรียนและการทำงานไปพร้อมๆ กันได้โดยไม่ต้องเลิกทำแบรนด์ ที่สำคัญยังสามารถพัฒนาแบรนด์ให้ดีขึ้นได้อีกด้วย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup