See The Way I See แบรนด์แฟชั่นที่อยากให้คนสุขภาพจิตดี ทำยอดขายยังไงได้ 2.6 แสนดอลลาร์ใน 24 ชม.
Text : flymetothemoon
การสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์คือสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ แต่จะเริ่มต้นจากอะไรได้ล่ะ
สำหรับ Sophie Nistico เธอเริ่มต้นด้วยความคิดที่อยากจะแชร์มุมมองศิลปะของเธอให้กับคนอื่นได้เห็น จึงค่อยๆ พัฒนา จากการแบ่งปันศิลปะของเธอบน Instagram สู่การขายสติ๊กเกอร์และเติบโตไปถึงเสื้อสเวตเตอร์ เสื้อยืด เสื้อฮู้ด แบรนด์ See The Way I See ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยยอดขาย 260,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 24 ชั่วโมง และทำยอดขายรวมในปี 2022 ได้ถึง 790,000 ดอลลาร์สหรัฐ
See The Way I See แบรนด์ที่อยากให้ทุกคนไม่ลืมว่าสุขภาพจิตเป็นเรื่องสำคัญ
Sophie เริ่มต้นทำแบรนด์ See The Way I See ในปี 2020 โดยเธอได้แรงบันดาลใจในการทำแบรนด์จากการที่เธอเป็นโรคไมเกรนเรื้อรังตั้งแต่อายุ 15 ปี เธอมีอาการไมเกรน 15-20 ครั้งต่อเดือน การเป็นไมเกรนทำให้ Sophie รู้สึกกังวลและคิดมากในเรื่องทุกเรื่องอยู่บ่อยๆ
“ยอมรับว่าฉันเป็นคนหนึ่งที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่ายและเป็นคนที่พยายามทำทุกสิ่งให้ดีที่สุดเช่นกัน การออกแบบสินค้ามาจากความชอบของตัวเอง สินค้าที่คิดว่าอยากมี สินค้าที่จะเลือกซื้อให้กับตัวเอง เป้าหมายในการทำแบรนด์ก็คือการช่วยเหลือและให้กำลังใจคนที่กำลังต่อสู้กับสุขภาพจิต”
เริ่มต้นจากเงิน 500 ดอลลาร์
Sophie เริ่มต้นจากการเปิดบัญชี Instagram ด้วยความคิดที่อยากจะแบ่งปันงานศิลปะจากมุมมองของเธอบนโซเชียลมีเดียจึงเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ See The Way I See หลังจากโพสต์ศิลปะบนโซเชียลมีเดียและได้รับความสนใจจำนวนมาก Sophie ก็ได้มีไอเดียขายสติ๊กเกอร์ลายศิลปะ โดยเธอเริ่มต้นจากเงิน 500 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อเครื่องตัดสติ๊กเกอร์และใช้ห้องใต้ดินเป็นห้องทำงาน
สติ๊กเกอร์แบรนด์ See The Way I See ขายหมดภายใน 2 วัน Sophie ได้ขยายประเภทสินค้า เธอได้วางขายเสื้อสเวตเตอร์เสียงตอบรับออกมาดีเช่นกัน ภายใน 2-4 เดือนแรก เธอขายเสื้อสเวตเตอร์ได้ 100 ตัว นอกจากนี้เธอยังขายเสื้อคอกลมในราคา 60 ดอลลาร์สหรัฐ จากต้นทุน 21 ดอลลาร์สหรัฐ เสื้อฮู้ดราคา 75 ดอลลาร์สหรัฐ จากต้นทุน 25 ดอลลาร์สหรัฐ
หลัง 8 เดือนแรก Sophie มีคำสั่งซื้อกว่า 30,000 รายการ ภายในสิ้นปีแรกเธอมีคำสั่งซื้อถึง 50,000 รายการ สร้างรายได้กว่า 9 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ โดยที่ Sophie ไม่ได้เสียค่าโฆษณาเลยเพราะเธอมีคนรู้จักแบรนด์จากการลงงานศิลปะมาก่อนแล้ว ด้วยกำไรที่ได้ทำให้เธอมีเงินพัฒนาธุรกิจจากที่เธอใช้โรงจอดรถของพ่อแม่เป็นโกดัง Sophie ได้ขยายไปยังโกดังที่เก็บสินค้าโดยเฉพาะ โกดังที่มีขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังได้แบ่งรายได้ส่วนหนึ่งให้กับองค์กรการกุศลที่สนับสนุนการดูแลสุขภาพจิตอย่าง National Alliance on Mental Illness (NAMI), American Migraine Foundation และอื่นๆ อีกด้วย
ถูก Shark Tank ปฏิเสธด้วยเหตุผล “คุณทำได้ดีอยู่แล้ว ”
Sophie ไม่หยุดที่จะพัฒนา เธอได้ก้าวข้ามความกลัวในเรื่องการพูดในที่สาธารณะ โดยล่าสุด Sophie ได้เข้าร่วมรายการทีวี Shark Tank รายการทีวีที่สนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ประกอบการที่มีไอเดียที่น่าสนใจ โดยเธอได้ขอเงินทุนจำนวน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจแลกกับหุ้น 10% ของบริษัทเป็นการตอบแทน
นอกจากนี้ Sophie ยังได้บอกกับเหล่ากรรมการในรายการ Shark Tank อีกด้วยว่าเธอต้องการผู้เชี่ยวชาญมาเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ ด้วยเธอและครอบครัวไม่มีพื้นฐานในการทำธุรกิจมาก่อน แต่เหตุผลนี้ก็ไม่ทำให้กรรมการตัดสินใจร่วมทำธุรกิจกับเธอ ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอและครอบครัวทำได้ดีอยู่แล้ว แบรนด์ See The Way I See กำลังไปได้ดีและ Sophie กับครอบครัวจะสร้างรายได้ได้จำนวนมากจากแบรนด์ นอกจากนี้เหล่ากรรมการยังบอกอีกด้วยว่าพวกเขาจะรู้สึกผิดมาก ถ้าร่วมรับส่วนแบ่งจากบริษัทของเธอโดยที่ไม่สามารถสนับสนุนอะไรได้เพราะธุรกิจของเธอไปได้ดีอยู่แล้ว
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup