Starting a Business

ไลฟ์ขายหมวกจุ่มสีใบเดียวในโลก บน TikTok ยังไง สร้างรายได้เกือบ 6 หลักต่อเดือน!

 

Text : Yuwadi.s

     แม้ว่าตอนเริ่มต้นจะไม่ง่าย แต่ถ้าคุณไม่ถอดใจทุกอย่างก็ไปถึงเป้าหมายได้ เหมือนอย่างผู้หญิงคนนี้ ที่เธอไลฟ์ใน TikTok จากแค่ช่วงแรกมีคนดูแค่คนเดียว คือโทรศัพท์อีกเครื่องของเธอเอง สู่วันนี้ที่มีคนดูต่อการไลฟ์ 1 ครั้งหลายพันคนเพื่อดูเธอทำหมวกสุดเก๋ที่มีเพียงใบเดียวในโลกพร้อมทั้งแย่งกันจับจองหมวกใบนั้น และนี่คือแบรนด์ “WALEE marbling art” ที่นำเทคนิคสวยๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานที่เรียกว่า Marbling art มาใช้ จนสามารถสร้างรายได้เกือบ 6 หลักต่อเดือน ผู้ก่อตั้งคือ วลี - วลีพร ผงบุญตา ที่ตอนนี้ได้ทำร่วมกับแฟนชื่อ วราวุธ นิมา หรือที่คนในไลฟ์จะรู้จักในนาม แอดมินลี่

 

จากความชอบดีไซน์สู่แบรนด์ WALEE marbling art

     วลีได้เล่าถึงตอนเริ่มต้นก่อตั้งแบรนด์ให้ฟังว่าเบื้องหลังของเธอคือการคลุกคลีอยู่กับการเย็บผ้า การทำมัดย้อมมาจากคุณยายและคุณแม่ของเธอ ทำให้เธอเริ่มต้นเรียนแฟชั่นดีไซน์ แต่ก็ใช้เวลาในการค้นหาตัวเองอยู่นานว่าจะไปทางไหน ประกอบกับเธอรู้ตัวดีว่าอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ในที่สุดเธอก็ค้นหาตัวเองเจอว่าชอบอะไรเมื่อได้พบกับสิ่งที่เรียกว่า Marbling art

     “คุณยาย คุณแม่เราจะชอบเย็บผ้า สมัยก่อนได้เสื้อผ้ามาจากพี่น้อง ใช้ต่อกัน บางทีมันขาดหรือเป็นรูเขาก็จะเย็บเอง พอแม่เห็นว่ายายชอบเย็บผ้า เขาก็คลุกคลีต่อมา แม่เราก็ทำมัดย้อมมาก่อน ส่วนวลีเรียนแฟชั่นดีไซน์ ทีนี้เราก็ไม่รู้ว่าตัวเองชอบตัดเย็บ ออกแบบหรืออะไรกันแน่ ค้นหาตัวเองอยู่สักพัก มีช่วงระหว่างปิดเทอม เราลองซื้อเสื้อมัดย้อมจากร้านค้าส่งต่างๆ มาทดลองขายเพื่ออยากมีรายได้เสริม มันขายดี เราเลยชอบความเป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่าการทำงานประจำ เลยสนใจการทำลายผ้า ก็หาว่าในไทยมันมีอะไรบ้าง ก็จะมีพวกมัดย้อม บาติก จนเจอกับ Marbling art เราลองศึกษาว่ามันมาจากประเทศตุรกี แล้วก็ศึกษาลึกไปอีกว่าจริงๆ ต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่น เขาจะเอาพู่กันเขียนที่ปกหนังสือแล้วมันบังเอิญเกิดจากการไปจุ่มน้ำ แล้วหมึกที่เขียนบนปกสมุดมันลอยบนน้ำ ทีนี้ทำให้เขานิยมไปทำปกสมุด หนังสือกัน”

     หลังจากเธอได้ไอเดียในการทำเทคนิค Marbling art เธอได้ใช้เวลาในการพัฒนา คิดค้นสูตรสีและลวดลายของตัวเองเป็นเวลา 1 ปีเต็ม ระหว่างนั้นเธอต้องพิสูจน์ตัวเองกับครอบครัวไปด้วย

     “เราลองศึกษาเทคนิคนี้ว่าถ้าเอามาทำบนผ้า จะทำยังไงให้ติดบนผ้า ทดลองบนเส้นใยทุกชนิด เราเป็นคนที่อยากรู้อะไรก็ต้องรู้ให้ได้ ให้ถึงที่สุด เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซักแล้วหลุดไหม ทำยังไงให้คงทน พัฒนาสูตรสี นำเข้าเองหมดเลย จนได้สูตรที่โอเคมาเป็นเราในทุกวันนี้ ใช้เวลา 1 ปีเต็ม ตอนแรกที่บ้านไม่มีใครยอมรับเลย ที่บ้านอยากทำให้เราทำงานประจำ เพราะเขาก็ไม่รู้เราทำอะไร หยดสีทุกวัน อยู่บ้านกดมือถือ ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองนานพอสมควร เขาก็เพิ่งเข้าใจว่าที่กำลังทำคือเราทดลองอยู่นะ”

ปัญหาเข้ามา กว่าที่จะปัง

     เมื่อสินค้าพร้อมขาย แบรนด์กำลังจะไปได้ดี แต่แล้วก็เจอกับวิกฤติก่อนที่ทุกอย่างกำลังจะไปได้สวย นั่นคือโควิดระบาด ทำให้ทุกสิ่งที่วางแผนไว้ต้องหยุดพัก ไปออกบูธไม่ได้

     “เราพัฒนาสูตรมาปีหนึ่งก็จดทะเบียนโอท็อปเลย แล้วก็เริ่มอบรมเข้าโครงการต่างๆ แต่ตอนนั้นพอเปิดราแค่ 1-2 ปีก็มีโควิดเข้ามาเลย กำลังจะเปิดตัวแล้ว โควิดมาเลย เราก็ไม่ได้ไปไหน จากที่เราไปอบรมโอท็อป จะออกบูธก็ไม่ได้ไป ตอนแรกเหมือนจะไปได้ดี จนโควิด เราไขว้เขวเลย ไม่รู้จะทำยังไงต่อหรือว่าจะกลับไปทำงานประจำ”

     ด้วยความที่เธอมีเวลาว่างในช่วงโควิด ทำให้เธอเริ่มต้นเอาแบรนด์เข้าไปใน TikTok จากที่เคยคิดไว้ว่าสินค้าของเธออาจจะไม่ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าในนั้น กลายเป็นช่องทางการขายหลักในทุกวันนี้

     “ระหว่างอยู่บ้านว่างๆ เราก็เปิด TikTok ตอนแรกคิดว่าตลาดมันน่าจะไม่ตอบโจทย์เรา เพราะเราไปอบรมมา เขาก็บอกว่างานเราควรออกสู่ตลาดข้างนอกมากกว่า ต่างประเทศน่าจะว้าวกว่า แต่ด้วยความที่ว่าง เลยลงคอนเทนต์ใน TikTok ดู ก็ลองทำ ยังไม่ปัง ไม่แมส เราก็คิดว่าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ มีความพยายามอีก เราลงไปเลยคิดว่าเป็นยาหลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น วันละ 3 คลิป ทำไปเรื่อยๆ จนคลิปเริ่มแมส ทีนี้อยากจะไลฟ์สด มันก็ต้องครบ 1,000 คน ตอนไลฟ์ครั้งแรก คนดูแค่คนเดียวคือเครื่องอีกเครื่องของเราเอง จากนั้นก็ 2 คนบ้าง 3 คนบ้าง”

ไลฟ์ขายของให้สนุก จนมีคนดูหลักพันต่อครั้ง

     หลังจากที่เธอลองไลฟ์สด แม้แรกๆ จะมีคนดูแค่ไม่กี่คน แต่เธอก็ไม่ย่อท้อทำมาเรื่อยๆ จนเริ่มจับทางได้ว่าต้องไลฟ์ขายของให้สนุก เอนเตอร์เทนคนดู ทำให้คนมีส่วนร่วมมากที่สุด จน ณ ตอนนี้มีคนเข้ามาดูไลฟ์ต่อครั้งหลักพันคน

     “เราพยายามจะไลฟ์ อดทนไลฟ์ไปก่อน คนดูน้อยก็ไลฟ์ ทีนี้ก็คิดว่าจะทำยังไงให้คนอยู่กับเรานานๆ เริ่มเอนเตอร์เทนคนดู ให้เพื่อนๆ มาช่วยกันเลือกสีนะคะ ชอบสีอะไร ขอคนละหนึ่งสีได้ไหม แล้วมาลองดีไซน์ไปพร้อมๆ กัน จนคนเริ่มคอมเมนต์เยอะขึ้น เริ่มดันขึ้นฟีด คนที่เข้ามาใน TikTok เขาอยากดูอะไรที่สนุก ไม่ใช่แค่ขายของ แต่เราก็ค่อยๆ แทรกไปด้วย ทำหมวกแล้วใบนี้ยังไม่มีเจ้าของนะคะ ออร์เดอร์ได้ ตอนนี้คนดูขั้นต่ำก็ 2-3 พันคนต่อไลฟ์ ต่อวัน อีกอย่างเราไม่อยากให้มองลูกค้าเป็นลูกค้า เขาอาจจะต้องการเพื่อน เหงาหรือเครียด เข้ามาเล่นกับเรา เราอยากให้บรรยากาศมันสนุก เป็นกันเองก็จะเรียกว่าลูกค้าเป็นเพื่อนๆ ให้เข้าถึงง่าย แล้วแทนตัวเองด้วยชื่อเรา จุดนี้สำคัญมาก ถ้าเราไม่บอกว่าเราชื่ออะไร คนจะจดจำเราในฐานะคนทำหรือแบรนด์ไม่ได้”

     โดยเธอได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญในการทำแบรนด์ว่าต้องมีความพยายาม ไม่ย่อท้อ ที่สำคัญคือทำให้ตัวเองมีความสุขก่อน รักตัวเองเพื่อที่จะมอบพลังงานดีๆ ให้แก่คนอื่นได้

     “เราต้องพยายาม ไม่ท้อไปก่อน มุ่งมั่นและไปต่อ คนที่เริ่มทำ ทุกคนก็มีไฟแหละ แต่จะทำยังไงให้ไฟมันคงอยู่กับเรา เราต้องไปหาแรงบันดาลใจ อย่างวลีจะไปหาแรงบันดาลใจข้างนอก เที่ยวทะเล น้ำตก ฮีลใจเราแล้วค่อยมาเอนเตอร์เทนลูกค้า สูดลมหายใจลึกๆ คนอื่นทำได้ เราก็ทำได้ รักตัวเองให้มากๆ ถึงจะรักคนรอบข้างได้และมีพลังงานไปทำงาน มีพลังไปให้คนรอบข้างได้”

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup