Starting a Business

The Catch Up Bakeroom คาเฟ่ที่ใช้กลยุทธ์ไลฟ์สดใน TikTok จนสร้างรายได้เฉียดล้านต่อเดือน

 

Text : flymetothemoon

     หากรู้จักปรับตัว คอยพัฒนาตัวเองเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงก็จะสามารถเจอทางที่ใช่ได้เหมือนกับ ซัน-ทศพล วันอุดมเดชาชัย เจ้าของร้าน และ ยะ-วิริยะ สายทอง ผู้จัดการร้าน ที่ช่วยกันหาวิธีใหม่ๆ ในการพัฒนา The Catch Up Bakeroom คาเฟ่ที่อยู่ในซอยลาดกระบัง 7 ที่ซันและยะได้ลองผิดลองถูก ใช้วิธีการตลาดต่างๆ ทัั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ จนเจอทางที่ได้กระแสตอบรับดี นั่นคือการไลฟ์ขายขนมออนไลน์ผ่าน Tiktok ที่ทำให้มีออร์เดอร์และคนรู้จักคาเฟ่เยอะมากขึ้น จนสามารถสร้างรายได้เกือบล้านต่อเดือน

 

ศึกษาและสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภค ลองผิด ลองถูกจนเจอทางที่ใช่

     ทั้งซันและยะเรียนจบจากคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม ไม่ได้มีความรู้ในด้านการทำอาหารหรือการเปิดคาเฟ่มาก่อน แต่ด้วยความรักในการกินและสนุกกับการทำขนม ซันและยะจึงไม่หยุดที่จะศึกษาและพัฒนาร้านอย่างต่อเนื่อง 

     “ก่อนโควิดเรามีร้านที่เล็กกว่านี้และเน้นโทนดำ โทนลอฟท์ทำให้ลูกค้าไม่รู้ว่าเป็นคาเฟ่นึกว่าเป็นหอพัก พอเจอโควิดเราได้ปิดหน้าร้านและเปิดเดลิเวอรี่ได้สังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคที่ส่วนใหญ่เวลาหิวไม่ได้มองหาแต่ขนมกับเครื่องดื่ม แต่เป็นร้านที่มีครบทั้งอาหาร ขนมและเครื่องดื่มทำให้เราเพิ่มเมนูอาหารเข้ามาทำให้เราผ่านช่วงโควิดมาได้ พอเราเปิดคาเฟ่ใหม่หลังโควิดเลยเปลี่ยนสถานที่เป็นที่ที่กว้างขึ้นและตกแต่งโทนอบอุ่นคล้ายคาเฟ่ในเกาหลี ด้วยเทรนด์คาเฟ่ลอฟท์ไม่ค่อยไดัรับความนิยมแล้วและอยากให้คาเฟ่สะดุดตาขึ้นรวมถึงรับลูกค้าที่ต้องการที่นั่งได้มากขึ้นด้วย เพราะเราเห็นพฤติกรรมที่ลูกค้าจะชอบนั่งรอในร้าน รวมถึงการยิงแอดบนเฟซบุ๊ก ที่เราเน้นเลือกกลุ่มเป้าหมายให้ตรงจุด เลือกยิงโพสต์ที่เป็นอัลบั้มที่มีทั้งรูปคาเฟ่และอาหารเพื่อให้คนสนใจเลื่อนดูเพราะคาเฟ่เราอยู่ในซอย การโปรโมทคาเฟ่ผ่านทางออนไลน์จึงเป็นสิ่งสำคัญ”

 



สินค้าโฮมเมดที่มีสูตรหลากหลายและไม่เหมือนใคร  

     ภายในร้านจะมีอุปกรณ์ไว้ทำเครื่องดื่มและขนมทำเองตั้งแต่เครื่องบด เครื่องชงกาแฟ เครื่องทำน้ำโซดาและอุปกรณ์ทำขนมเพราะทางร้านเน้นผลิตสินค้าเองทำให้ทุกอย่างของทางร้านเป็นโฮมเมดแทบทั้งหมด รวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพไปจนถึงการผลิตที่ไม่ทำค้างสต็อก เน้นทำสดใหม่เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าที่มีคุณภาพ ไม่เสีย สำหรับเมนูเด่นของร้านที่ต้องพูดถึงเลยคือขนมปังโชกุปังที่เป็นเมนูยอดฮิตของทางร้านที่มีถึง 13 รสชาติไม่รวมรสชาติที่ออกมาเฉพาะฤดูกาล

     “เราเป็นคนชอบทาน เวลาไปต่างประเทศก็จะชอบลองขนมของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะเกาหลีและญี่ปุ่น เลยได้ไอเดียในการออกสูตรใหม่ๆ ไม่เหมือนใครเพราะเราจะนำรสชาติที่ได้ชิมจากต่างประเทศมาดัดแปลงให้เข้ากับคนไทยและเป็นสูตรที่ตัวเราเองรู้สึกชอบที่สุดด้วยเช่นขนมปังโชกุปังที่เราเคยชิมที่ต่างประเทศจะมีความหนักและแน่น เราได้ดัดแปลงให้ได้ขนมปังที่นุ่มและฟูเพื่อให้เหมาะกับความชอบของคนไทย”

 

ทุกคนที่ดูไลฟ์จะต้องมีแสงเป็นของตัวเอง

     นอกจากการสร้างเอกลักษณ์ให้กับตัวเองอย่างการใส่หมวกหมีเวลาไลฟ์แล้ว สิ่งสำคัญสำหรับซันและยะคือการใส่ใจทุกคนที่เข้ามาดูไลฟ์ พยายามจำทุกคนให้ได้ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่ยะเคยใช้เมื่อตอนที่ยะทำงานที่โรงแรม

     “เราเน้นเอนเตอร์เทนคนดู เข้ามาแล้วคนดูจะต้องรู้สึกอารมณ์ดี รวมถึงการจำลูกค้าให้ได้เพื่อให้ลูกค้าเห็นถึงความใส่ใจของเรา ใครซื้อบ่อยหรือเข้ามาบ่อยเราจำได้เราก็จะทักทาย อย่างสวัสดีวันนี้คุณเอมมาแล้วหรอหรือถ้าใครเคยซื้อก็จะทักว่ากินแล้วเป็นไงบ้างหรือทักว่าคนนี้เคยซื้อแล้วเราจำได้และเราก็จะพยายามคุยกับคนที่ดูไลฟ์จะพยายามไม่ตกแม้แต่คอมเมนต์เดียว”

 

     ในอนาคตซันและยะยังมีแผนที่จะพัฒนาร้าน The Catch Up Bakeroom อยู่เรื่อย ๆ เพื่อทำให้ร้านเป็นที่รู้จักและลูกค้ามาร้านมากขึ้นอย่างการเพิ่มเมนูอาหารคาว ซันและยะยังได้ฝากคำแนะนำถึงผู้ประกอบการที่อยากจะเปิดธุรกิจด้วยว่าสิ่งแรกที่ต้องมีคือใจต้องสู้เพราะการเปิดธุรกิจจะต้องเจออุปสรรคจำนวนมาก การคำนวณต้นทุนที่จะต้องมีความรอบคอบและควรมีช่องทางในการเพิ่มยอดขายที่หลากหลาย

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup