เราอาจเคยได้ยินหลายๆ คำกล่าวที่ว่า “อย่าเอาเพื่อนมาทำธุรกิจ” แต่จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจของหลายคน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยที่มักไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน สิ่งหนึ่งที่เรามักต้องการก็คือ “เพื่อน” ดังนั้นหลายธุรกิจจึงเสี่ยงที่จะชวนเพื่อนมาเป็นหุ้นส่วนเริ่มต้นทำธุรกิจไปด้วยกัน แต่จะมีวิธีใดบ้างที่สามารถนำเพื่อนมาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจได้ ขณะเดียวกันก็ไม่เสียเพื่อน SME Startup มีคำตอบดังนี้

 

 

     1. ถามหาจุดมุ่งหมายการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจร่วมกัน

         แต่ละคนถึงแม้อยากทำธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่เท่ากันเสมอไป บางคนอาจอยากทำเพราะรายได้ บางคนอาจแค่อยากมีธุรกิจของตัวเองเฉยๆ ไม่สามารถลงแรงได้ แต่มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือด้านเงินทุน สิ่งเหล่านี้ต้องถามกันให้ชัดเจน แน่ชัด เพื่อจะได้ไม่มาขัดแย้งกันในภายหลัง

 

 

     2. แจกแจงหน้าที่ สิ่งที่ต้องทำทุกอย่าง

         หลังตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกัน และรู้ถึงเป้าหมายและข้อจำกัดของหุ้นส่วนแต่ละคนแล้ว ควรแจกแจงรายละเอียดของสิ่งที่จะต้องทำทั้งหมด เพื่อให้มองเห็นภาพรวมของธุรกิจ และรู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ใครรับผิดชอบอะไร หรือหากไม่สามารถหาคนรับผิดชอบได้ จะแก้ปัญหาด้วยวิธีใดได้บ้าง เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดี

 

 

     3. ลงลายลักษณ์อักษร

         หลายคนที่ทำธุรกิจร่วมกันกับเพื่อน แต่ไม่อยากทำสัญญา หรือลงลายลักษณ์อักษร เพราะเชื่อในความเป็นเพื่อน เกรงใจ แต่ความจริงแล้วการลงลายลักษณ์อักษร เพื่อบอกถึงหน้าที่ที่ต้องทำของแต่ละคน หรือผลประโยชน์ที่จะได้รับอย่างชัดเจน กลับทำให้เกิดความสบายใจ มั่นใจ เพราะเป็นกฎเกณฑ์ข้อตกลงที่แต่ละคนได้ยอมรับแล้ว ดีกว่าตกลงกันด้วยปากเปล่า เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาอาจทำให้ยากที่จะบอก หรือพูดคุย

 

 

     4. ชัดเจนในหน้าที่ทางธุรกิจและมั่นคงในความเป็นเพื่อน

         ขอเพียงตั้งใจไว้ว่า ไม่ว่าจะเกิดปัญหาความขัดแย้งอะไรขึ้นมาก็จะมั่นคงในความเป็นเพื่อน หน้าที่ทางธุรกิจก็ว่ากันไปตามถูกผิด มิตรภาพก็ยังคงอยู่ตลอดไป

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup