Starting a Business

จากความรักน้องหมาสู่เจ้าของ Dokker แบรนด์ผงโรยอาหารที่อยากให้น้องหมาได้กินอร่อยและมีคุณภาพ

 

Text : Yosita T. 

     ผลิตภัณฑ์หรืออาหารสำหรับสุนัข ถือเป็นอีกประเภทที่ได้รับความนิยมมาตลอดเพราะกลุ่มคนรักสุนัขมักจะทุ่มเทและใส่ใจเหล่าน้องหมาเป็นพิเศษเหมือนเป็นมนุษย์คนหนึ่ง แถมยังมีแบรนด์ใหม่ๆ ที่พยายามพัฒนาสินค้าประเภทอาหารสุนัขให้ดีขึ้นมีประโยชน์มีคุณค่ามากขึ้นด้วย หนึ่งในนั้นก็คือแบรนด์น้องใหม่ Dokker ที่เปิดตัวผงโรยอาหารสำหรับสุนัขมาได้เกือบ 1 ปีแต่ได้รับฟีดแบ็คที่ดีจากลูกค้ามากมาย ซึ่งในมุมของการเป็นแบรนด์น้องใหม่ในตลาดนี้ ถือว่าเป็นความท้าทายอย่างมากที่จะเอาชนะใจผู้บริโภคและทำให้ร้านค้าต่างๆ เชื่อมั่นในแบรนด์มากพอที่จะนำสินค้าของ Dokker ไปวางขายในร้านได้       

     และแน่นอนว่าเมื่อมาทำแบรนด์อาหารสำหรับสุนัขแล้วหลายคนอาจจะคิดว่าเจ้าของแบรนด์ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่ Dokker เกิดขึ้นได้จากความรักน้องหมาของ มินนี่- ภัททิยา วัชรอำนวย และ ซีซี- พลอยชนก ฮุย 2 สาวผู้ที่มี passion อยากให้น้องหมาได้กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ถึงแม้ทั้งคู่จะไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ แต่ความรักที่มีต่อน้องหมาก็จุดประกายให้มุ่งมั่นศึกษาหาข้อมูลและสอบถามผู้เชี่ยวชาญจนเกิดเป็น Dokker ขึ้นมาได้

 

 

อยากให้น้องหมาได้กินอาหารที่มีคุณภาพ

     เพราะปัญหาของน้องหมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกินหรือสุขภาพ มักจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนรักน้องหมาเสมอ ถ้ามีอาหารดีๆ ที่สามารถช่วยดึงดูดให้น้องหมาอยากอาหารมากขึ้นแถมมีประโยชน์ สร้างภูมิต้านทานให้อีกด้วยคงจะดีไม่น้อย สิ่งเหล่านี้จุดประกายให้มินนี่และซีซีทำผงโรยอาหารออกมา

     “เราคุยกันว่าความจริงแล้วเราเป็นคนรักสัตว์ทั้งคู่ คือไม่ได้หมายถึงหมาอย่างเดียวเราเลี้ยงทั้งหมา ปลา หนูแฮมสเตอร์ เลยอยากทำอะไรด้วยกัน แล้วก็เริ่มจากการทำผงโรยข้าวเพราะหมาเราทั้งคู่มีปัญหากินยากเหมือนกัน ซึ่งปกติเวลาซื้ออาหารหมาเราก็จะดูส่วนผสมอยู่แล้วว่ามีอะไรบ้าง ทำให้รู้ว่าขนมหรืออาหารหมาในไทยส่วนผสมมันไม่ได้ดีขนาดนั้น เพราะหลายๆ แบรนด์จะใช้เป็นของเหลือจากโรงงานมาใช้เป็นอาหารน้องหมาน้องแมว พอเรารู้ตรงนี้ก็คิดว่า หมาแมวทำไมถึงกินอะไรดีๆ แบบคนไม่ได้ ทำไมเราไม่ทำแบบ human grade (เกรดเดียวกับคน) บ้าง เลยเริ่มศึกษามาจากตรงนี้เลย เพราะเราก็ไม่ได้มีความรู้มาก่อน” มินนี่เล่าในส่วนของจุดเริ่มต้นของไอเดียนี้

รสชาติของผงโรยข้าวได้ inspiration มาจากรสชาติของคน

     เพราะน้องหมาของทั้งคู่ประสบปัญหากินยาก และน้องหมาส่วนใหญ่ก็เจอปัญหานี้เหมือนกัน เลยทำให้มินนี่และซีซีใส่ใจเรื่องของรสชาติและกลิ่นเป็นพิเศษเหมือนกันเพื่อจะดึงดูดให้น้องหมาอยากอาหารได้ แต่ก็ยังคงคุณภาพที่ดีเพื่อประโยชน์สูงสุดด้วย ซีซีอธิบายในส่วนนี้ว่า

     “ในส่วนของสูตรอาหาร เราอยากคิดค้นให้มันน่าสนใจน่ากินมากขึ้นเพราะใช้วัตถุดิบแบบ human grade อยู่แล้ว คือเอาของคนเป็นในส่วนที่ดีที่ไม่ใช่ของเสียมาใช้เพื่อให้น้องหมาน้องแมวได้คุณประโยชน์แล้วก็ได้วิตามินที่เท่าเทียมกับของคน แล้วมันทำให้วัตถุดิบของเรามีกลิ่นที่ค่อนข้างหอมเพราะไม่ได้ใส่ส่วนผสมอะไรเพิ่มเติม วัตถุดิบทุกอย่างมาจากตัวธรรมชาติล้วน ตัวผงโรยข้าวจะมี 4 รสชาติ แต่ละรสชาติก็จะ inspire มาจากรสชาติอาหารของคน แต่เราก็ยังเน้นใส่พวก super food หรือตัววัตถุดิบที่มีคุณประโยชน์และวิตามินกับน้องหมาแมวที่เพียงพอ ซึ่งทุกสูตรที่เราคิดเราก็นำไปปรึกษาสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดว่ามันปลอดภัยและได้รับประโยชน์จริงๆ ใช่ไหม เราอยากให้น้องๆ กินของอร่อยแต่ก็มีประโยชน์ด้วย เพราะถ้าได้กินของดีๆ ลงทุนกับอาหารการกินก็จะไม่ต้องป่วยแล้วเสียเงินเยอะๆ รักษาเลย”

 

 

การออกบูธทำให้มีลูกค้าและคนรู้จักมากขึ้น

     ตอนนี้การโปรโมทสินค้าผ่านออนไลน์ก็เป็นสิ่งที่ได้ผลดีมากสำหรับหลายๆแบรนด์ แต่สำหรับ Dokker ที่เป็นแบรนด์น้องใหม่มากๆ ในตลาด การไปออกบูธตามงานต่างๆ ถือว่าได้รับฟีตแบคที่ดีกว่า เพราะการไปออกบูธทำให้ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเหล่าน้องหมาน้องแมวและเจ้าของ ได้อธิบายว่าสินค้าคืออะไร มีประโยชน์ยังไงด้วยตัวเองและการไปออกบูธตามงานสัตว์เลี้ยงแน่นอนว่ามีกลุ่มเป้าหมายที่ไปงานนี้ชัดเจนอยู่แล้ว และทั้งคู่ไม่ได้มองตัวกำไรเป็นหลักจากการทำธุรกิจนี้ในช่วงแรกแต่อยากทำให้ผู้คนหรือเหล่าคนรักสัตว์ได้รู้จักแบรนด์ Dokker มากขึ้นเพื่อที่จะอยู่ได้ในระยะยาวมากกว่า

     มินนี่เล่าในส่วนนี้ว่า “เวลาที่เราได้รายได้จากตรงนี้มาเราเอาไปออกบูธเอาไปเปิดหน้าร้านเพิ่ม เลยทำให้เหมือนว่าเราอาจจะไม่ได้มุ่งเน้นหากำไรมากในปีสองปีแรก เพราะเราอยาก build up ช่องทางการขายของเรา อยาก build up ฐานลูกค้าของเรา ก็เลยเอาไปลงกับสิ่งพวกนี้เยอะมาก ถ้าเรามองกำไรเป็นหลักก็จะได้แค่ระยะเวลาสั้นๆ แต่ถ้าเรามองว่าการที่เราเริ่มสร้างอะไร หรือว่าการที่เราสร้างแบรนด์อะไรแบบนี้เราต้องมองเป็น 5 ปี 10 เลย อยากให้คนรู้จักแบรนด์เราเยอะๆ ก่อน อยากให้ช่องทางการขายของเรามีทุกที่ อยากให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำเป็นลูกค้าประจำเยอะๆ นี่คือสิ่งที่เราอยากได้”

 

 

เพราะเป็นแบรนด์น้องใหม่ทำให้ร้านค้าไม่เชื่อมั่นแต่ก็ต้องใช้ความพยายาม

     เวลาเดินเข้าไปร้าน Pet shop เราจะเห็นอาหารสุนัขมีหลากหลายแบรนด์มาก และอาจจะเห็น Dokker ผ่านตากันมาบ้าง แต่เบื้องหลังของแบรนด์ Dokker กว่าจะได้ไปวางขายตามร้านเหล่านั้น ต้องใช้ความพยายามที่จะทำให้ร้านค้าเชื่อมั่นในตัวสินค้าของ Dokker ให้ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะทั้งคู่โดนปฏิเสธอยู่บ่อยครั้งเพราะเป็นแบรนด์ที่ใหม่มากๆ ไม่มีชื่อเสียงในแวดวงสินค้าสำหรับสุนัขมาก่อนและถูกมองว่าเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ดูไม่มีประสบการณ์

     “คือเราผ่านเรื่องราวมาเยอะ เวลไปที่ร้านค้าเพื่อไปเสนอสินค้าเราอยากเอาไปวางขายทุกคนก็จะมองว่าเราดูเด็กเกินไป อาจจะเพราะหน้าเด็กด้วยนะ เลยทำให้เขาไม่เชื่อถือแล้วเราไม่ได้มีชื่อเสียงในแวดวงสินค้าน้องหมาน้องแมว ที่แบบถ้ามีธุรกิจครอบครัวที่ทำแบรนด์อาหารหมาอยู่แล้ว มีชื่อเสียงเรื่องนี้ พอไปเสนอตามร้านเขาก็คงรับง่ายกว่า หรือไปถึงแล้วมีคนรู้จักเลยหรือมีแบรนด์ที่ดังๆ อยู่แล้วอะไรแบบนี้ แต่คือเราเริ่มมาจากศูนย์จริงๆ ไม่มีชื่อเสียงอะไรเลย แต่เรารู้ไงว่าจะขายอะไรกับเขา  ต้องพยายามทำให้ร้านค้าเชื่อถือเราให้ได้ ความยากมันอยู่ตรงนี้แหละ เราก็เริ่มง่ายๆ แบบเรากับซีซีขับรถกันไปตามร้านแล้วก็เข้าไปคุยเลยแบบซื่อๆ ว่าถ้าอยากขายที่นี่ต้องทำยังไง ก็จะมีทั้งฟีดแบคที่ดีและไม่ดี บางร้านเราก็ตื้อกันหลายรอบ ไปรอบแรกเขาไม่เอา ไม่เป็นไร อีกเดือนนึงไปใหม่อะไรแบบนี้ มีบางที่ใช้เลา 1 ปีเลยนะ คือพยายามมากจริงๆ”

     การทำแบรนด์อาหารสำหรับสัตว์ถือว่ามีคู่แข็งในตลาดอยู่เยอะมาก นี่ถือเป็นโจทย์ที่ท้ายทายมากสำหรับมินนี่และซีซีที่ใหม่มากในตลาดนี้ แต่ทั้งคู่ก็สามารถพา Dokker ให้เป็นที่รู้จักในแวดวงสัตว์เลี้ยงได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปีเลยด้วยซ้ำ สุดยอดจริงๆ

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup