Girlgograb แบรนด์เครื่องประดับ เปลี่ยนอาชีพเสริมเป็นธุรกิจหลัก ที่สร้างรายได้ 5 แสนต่อเดือน
Text : flymetothemoon
Girlgograb เป็นแบรนด์เครื่องประดับเงินแท้ที่เกิดจากความรักในเครื่องประดับของ อาย-มนัสวี แบล ซึ่งเริ่มต้นจากการใช้เวลาว่างทำเป็นอาชีพเสริม แต่ครั้นเมื่องานหลักในธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อาชีพเสริมนี้ก็กลายมาเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเธอถึงเดือนละ 400,000-500,000 บาท จากยอดสั่งซื้อ 900 ออร์เดอร์ต่อเดือน
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Girlgograb มาจากการที่อายชอบใส่เครื่องประดับ และสะสมเครื่องประดับไว้จำนวนมากจนหยิบมาใส่แทบไม่ทัน จึงเกิดความคิดที่อยากจะทำแบรนด์เครื่องประดับให้กับคนที่ชอบเหมือนกันกับเธอ
“ตอนจะเริ่มขายเครื่องประดับผ่านอินสตาแกรมจะมีให้ใส่ชื่อร้าน อายไม่อยากใช้คำว่า Accessorie หรือ Shop เพราะมีคนใช้เยอะ อายอยากใช้คำที่ลูกค้าสามารถจำได้ง่าย จึงเป็นที่มาของชื่อ Girlgograb แต่จริงๆ แล้วอายมาทำแบรนด์ Girlgograb อย่างจริงจังในช่วงโควิด ด้วยอาชีพหลักที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวทำให้ได้รับผลกระทบหนักมาก จึงมีเวลามาทุ่มเทกับแบรนด์มากขึ้น แล้วอายหันมาเล่น TikTok เพื่อเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า ซึ่งผลตอบรับออกมาดี เลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำแล้วมาโฟกัสที่การทำแบรนด์ Girlgograb อย่างเดียว”
อายบอกว่าทุกวันนี้เครื่องประดับไม่ได้เป็นแค่สิ่งของเท่านั้น แต่เป็นของขวัญเป็นความทรงจำและของชิ้นเดียวที่ไม่มีใครเหมือน เพราะเครื่องประดับ Girlgograb นี้ลูกค้าสามารถออกแบบเองได้ ด้วยบริการแกะสลักตัวอักษร, โค้ด Spotify, สมการตัวเลข หรือรหัสที่รู้กันแค่ 2 เรียกว่าเป็นการ Customization แตกต่างจากเครื่องประดับที่วางขายทั่วๆ ไปในตลาด ซึ่งการที่ลูกค้าออกแบบสินค้าได้เองนี้ย่อมทำให้รู้สึกสนุกสนานและเกิดความประทับใจ
“วิดีโอที่ประทับใจมากที่สุดคือ วิดีโอที่ลูกค้าอัดรีแอ็กชันของคนที่ได้รับสินค้าของเรา มีวิดีโอที่ลูกค้าสั่งสลักโค้ดเพลงบนเครื่องประดับให้แฟน พอแฟนเขาได้รับก็ดีใจเป็นความทรงจำที่น่ารักมาก ทำให้รู้สึกว่าสินค้าของเราสามารถทำให้ลูกค้ามีความทรงจำที่ดีได้”
นอกจากนี้ การทำการตลาดยังใช้วิธีดึงดูดความสนใจของลูกค้าด้วยการทำคอนเทนต์ที่เน้นความรู้ ชี้ให้เห็นความสำคัญของเครื่องประดับ ยกตัวอย่างช่วงที่แบรนด์มีสินค้าคอลเลกชันใหม่ก็จะโพสต์รูปและอัดวิดีโอเล่าที่มาของแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับ โดย Instagram จะเน้นโพสต์รูปสวยๆ เพื่อเพิ่มการมองเห็น ส่วนใน TikTok จะพยายามโพสต์วิดีโออย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการทำโปรโมชันใน Line Shopping และ Shopee เพื่อกระตุ้นยอดขายอีกทางหนึ่งด้วย
“วิดีโอไวรัลของแบรนด์และทำให้ยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นคือ วิดีโอที่คนดูแล้วเกิดความรู้สึก อย่างวิดีโอที่เล่าที่มาของการสั่งสลักเพลย์ลิสต์โค้ด Spotify บนเครื่องประดับของลูกค้า เป็นเพลย์ลิสต์เพลงที่ลูกค้าสร้างให้แฟนเพื่อฉลองวันครบรอบ วิดีโอประเภทนี้จะทำให้คนดูเกิดความรู้สึกและอยากทำเหมือนลูกค้าในวิดีโอ เป็นวิดีโอที่คนดูเยอะมาก คอมเมนต์เยอะก็จะทำให้วิดีโอไวรัล รองลงมาจะเป็นวิดีโอแพ็กของเพราะคนดูอยากรู้ว่าขายอะไร”
ในตอนท้ายอายได้ให้คำแนะนำสำหรับคนที่เริ่มทำธุรกิจว่านอกจากเงินทุนที่ต้องมีพร้อมแล้วความรู้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าและต่อยอดธุรกิจได้
“ตลาดเครื่องประดับเงินมีคู่แข่งจำนวนมาก ถ้าไม่ผลิตเองรูปแบบเครื่องประดับก็จะคล้ายกัน อายแก้ปัญหาด้วยการสื่อสารกับลูกค้าให้มากที่สุด บอกเหตุผลว่าทำไมถึงต้องซื้อของแบรนด์เรา เครื่องประดับมีคุณภาพยังไง มีเงินกี่เปอร์เซ็นต์ โลหะที่เอามาผสมมีอะไรที่ลูกค้าจะแพ้ไหม บอกรายละเอียดกับลูกค้าไว้หมดทำให้ลูกค้ารู้ว่าสินค้าทางแบรนด์มีคุณภาพจริง รวมถึงการสร้างจุดเด่นที่สามารถแกะสลักได้ เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ทำให้ลูกค้าตัดสินใจไม่ยากที่จะซื้อของเรา”
Girlgograb จะไม่หยุดพัฒนา โดยอายวางแผนสร้างการเติบโต ด้วยการร่วมกับแพลตฟอร์มการขายอื่นให้มากขึ้น รวมถึงการทำสินค้าราคาส่ง การทำเครื่องประดับในแบบที่ไม่เคยทำมากขึ้น จากจุดเริ่มต้นที่ทำเป็นอาชีพเสริมสู่อาชีพหลักด้วยการสื่อสารที่ตรงใจลูกค้าทำให้ได้ใจลูกค้าและประสบความสำเร็จ ซึ่งถ้าอายทำได้เชื่อว่าผู้อ่านก็จะต้องทำได้เช่นกัน
TikTok : girlgograb_
IG/TB : girlgograb
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup