รู้จัก Automic Gold แบรนด์เครื่องประดับ UNISEX เจ้าดังในนิวยอร์ก ที่ทำรายได้กว่า 4.8 ล้านดอลลาร์ต่อปี
Text : Flymetothemoon
Al Sandimirova เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องประดับ Automic Gold ด้วยความคิดที่อยากทำเครื่องประดับไม่ระบุเพศไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง ควีน ทราน ก็สามารถใส่ได้ เพื่อหวังสนับสนุนกลุ่มคนที่มักจะถูกสังคมอคติ เช่นกลุ่มคนผิวดำ คนที่มีรูปร่างอ้วน โดยปัจจุบัน Automic Gold สามารถสร้างรายได้ปีละกว่า 4.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เวลาเข้าร้านเครื่องประดับเพชร พลอย ส่วนใหญ่เราจะเห็นการแบ่งเครื่องประดับอยู่ 2 โซนใหญ่ นั่นคือเครื่องประดับสำหรับผู้หญิงและเครื่องประดับสำหรับผู้ชาย แล้วสำหรับคนที่มีความหลากหลายทางเพศล่ะ Al Sandimirova ได้มองเห็นถึงความสำคัญในจุดนี้ จึงทำให้เธอเกิดแรงบันดาลใจสร้างแบรนด์ Automic Gold เครื่องประดับไม่ระบุเพศขึ้นมา
เดิมที Al Sandimirova และครอบครัวอาศัยอยู่ สาธารณรัฐตาตาร์สถานประเทศรัสเซีย ซึ่งที่นั่นมีทัศนคติไม่ยอมรับเพศที่สาม พ่อแม่ถึงกับส่งเธอไปสถาบันสุขภาพจิตหลังจากเห็นแฟนฟิคชั่นเลสเบี้ยนในคอมพิวเตอร์ของเธอ เมื่อบ้านเกิด ประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ Al Sandimirova จึงย้ายมาปักหลักที่นิวยอร์ก โดยเธอเริ่มหางานในหนังสือพิมพ์และทำงานที่โรงกลั่นทองคำ หลังจากทำงานมาได้ระยะหนึ่ง Sandimirova ได้มองเห็นช่องทางใหม่ในการทำเงิน เธอได้ซื้อเครื่องประดับที่ลูกค้าไม่เอาแล้วจากโรงงานนั้นเอามาทำความสะอาดและขายต่อบน eBay ถัดจากนั้นในปี 2016 Sandimirova ตัดสินใจทำอะไรที่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้นโดยเปิดตัวเครื่องประดับแบรนด์ดีไซน์เองภายใต้ชื่อ Automic Gold ซึ่งมาจาก AU ตัวย่อทางเคมีของทองคำและการออกเสียงเหมือน "atomic" ที่หมายถึงความเป็นอิสระและเสรีภาพ
มีเป้าหมายที่ชัดเจน
“ฉันมีเครื่องประดับถึง 30,000 ชิ้น อยู่ในร้านแต่ทุกชิ้นมีการแบ่งแยกดีไซน์ทางเพศที่ชัดเจน ทำให้ฉันรู้สึกไม่อยากใส่”
ด้วยความรู้สึกนี้ทำให้ในปี 2016 Sandimirova ตัดสินใจเปิดตัวแบรนด์ Automic Gold เครื่องประดับไร้เพศอย่างเป็นทางการ หลังจากเปิดตัวแบรนด์ Automic Gold สามารถทำรายได้สูงถึง 2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปีเดียว Automic Gold ได้รับกระแสตอบรับเพิ่มมากขึ้นจากการสนับสนุนกลุ่มคนผิวดำผ่านโครงการ Black Lives Matter รวมถึงการเลือกนางแบบผิวดำและนางแบบหุ่นพลัสไซส์ในการนำเสนอสินค้า
“สิ่งเหล่านี้แสดงถึงความจริงใจของแบรนด์เราไม่ได้สนับสนุนความหลากหลายเพียงเพื่อการตลาดแต่เราทำเพราะต้องการสนับสนุนจริงๆ” Sandimirova ได้บอกไว้
เรียนรู้อยู่เสมอ
ในปี 2011 ระหว่างขายเครื่องประดับที่ได้จากโรงกลั่นทองคำผ่านช่องทางออนไลน์ Sandimirova ตัดสินใจศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำเครื่องประดับเพื่อที่จะทำเครื่องประดับแบรนด์ของตัวเองโดยเข้าเรียนวิธีการทำเครื่องประดับอย่างถูกต้องที่ Gemological Institute of America
ปรับตัวอยู่เสมอ
ไม่ต่างจากหลายธุรกิจที่ต้องเจอปัญหาในช่วงโควิด 19 ในปี 2019 ก่อนโควิด 19 ระบาด Automic Gold มีรายได้ต่อปีอยู่ที่ 3.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ในปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดโควิด 19 รายได้ลดมาอยู่ที่ 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Sandimirova ได้ตัดสินใจตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นโดยนำ Automic Gold ออกจากช่องทางการขายออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Walmart และ eBay และเปิดเว็บไซต์ของตัวเอง ทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดียแทนเพื่อลดการจ่ายค่าคอมมิชชั่นที่ต้องจ่ายให้แต่ละแพลตฟอร์มซึ่งคิดประมาณ 30% ของยอดขาย รวมถึงการปิดหน้าร้านที่ตลาดศิลปินในแมนฮัตตัน โดย Sandimirova ได้นำเงินส่วนนี้จ่ายเป็นรายได้และโบนัสให้กับพนักงานแทน
ลงทุนในสิ่งที่จำเป็น
Sandimirova ลงทุนไปกว่า 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการซื้อทองคำเพื่อมาทำเครื่องประดับและเสียค่าโฆษณาใน Facebook และ Instagram ถึง 580,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อคุณภาพของสินค้าและเพิ่มการมองเห็นในโซเชียลมีเดีย
Automic Gold ในปี 2021 ทำกำไรได้ถึง 66,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นจำนวนหลังจากหักต้นทุนรวมถึงรายได้ของ Sandimirova จำนวน 128,450 ดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว ความสำเร็จของแบรนด์เครื่องประดับไร้เพศ Automic Gold แสดงให้เห็นว่าการเลือกที่จะเป็นตัวของตัวเองจะสร้างจุดเด่นให้กับธุรกิจและทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จได้
ที่มา :
- https://www.cnbc.com/2022/12/08/automic-gold-founder-al-sandimirova-why-i-left-amazon-walmart-ebay.html
- https://www.automicgold.com/
- https://www.facebook.com/automicgold
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup