เด็กปี 3 สร้างเงิน 5 หลักในหอพัก! ปั้นธุรกิจเคสยาดมสุดน่ารักที่คว้าเงินสูงแตะแสนบาท
Text : Yuwadi.s
เริ่มเร็วกว่าก็ได้เปรียบก่อน! เพราะการทำธุรกิจในยุคนี้ไม่มีกำแพงเรื่องของอายุอีกต่อไป แค่มีไอเดียเจ๋งๆ เริ่มต้นไว ก็สามารถสร้างแบรนด์จับเงินแสนได้ตั้งแต่วัยเรียนอย่างเรื่องราวของ ไข่มุก - มุกมณี ศรีทะ เด็กมหาวิทยาปี 3 เจ้าของแบรนด์ดินปั้น Holyblueboo ที่กำลังเป็นกระแสกับสินค้าน่ารักอย่างเคสยาดมที่มีชิ้นเดียวในโลก โดยเธอเล่าว่าไอเดียการทำแบรนด์ดินปั้นนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนเรียนปี 2 เมื่อคิดแล้วก็ลงมือทำทันทีจนตอนนี้สามารถสร้างธุรกิจได้ 5 หลักต่อเดือนและเคยขายดี ยอดขายแตะหลักแสนมาแล้ว
เธอเล่าย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้น เกิดจากที่เธอเริ่มมีความรู้สึกหมดไฟตอนเรียนออนไลน์ ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากโควิดที่ทำให้ทุกคนต้องหยุดเรียนชั่วคราว เธอจึงเริ่มมองหาอะไรทำเพื่อปลุกไฟในตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง
“ตอนนั้นเราอยู่ปี 2 แล้วเป็นช่วงโควิดที่ต้องเรียนออนไลน์ มันว่างๆ รู้สึกหมดไฟ เบื่อๆ เลยต้องหาอะไรทำแก้เบื่อ เราออกไปไหนไม่ได้ด้วย ก็คิดว่าอยากทำอะไรมาขายดีเพราะเรามีแพลนที่จะหาทำแบรนด์ หารายได้ เวลาเราอยู่หอจะได้ไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ แล้วก็มีโอกาสเห็นผลงานปั้นของชาวต่างชาติใน Instagram เลยสงสัยว่ามันคือดินอะไร เขาจะเอามาปั้นพวกของจิ๋ว เราก็เลยศึกษาว่าเป็นดินอะไร สุดท้ายมันคือดินโพลีเมอร์ เราลงทุนไปหลักร้อย ซื้อมาก้อนละ 20 กว่าบาทตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป”
จากความเบื่อสู่ธุรกิจ ในตอนแรกเธอแค่ปั้นดินเป็นแหวนเพื่อแก้เบื่อ แต่พอทำไปเรื่อยๆ ก็มองเห็นลู่ทางต่อยอดให้กลายเป็นธุรกิจได้ เธอจึงเริ่มเอาแหวนที่ปั้นไปโพสต์ขายใน Instagram แม้ว่าช่วงแรกจะยังไม่มีลูกค้า เธอจึงมองหาแพลตฟอร์มอื่นๆ จนในที่สุดก็มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
“เริ่มจากปั้นแหวน เอามาใส่เอง แล้วเราก็ปั้นออกมาเยอะมาก เลยลองเอาไปโพสต์ขายใน Instagram ตอนแรกก็ยังขายไม่ออกเพราะเราเป็นร้านใหม่ ผู้ติดตามน้อย ยังไม่มีเครดิต แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร ปั้นเล่นทุกวัน ทำเป็นงานอดิเรก ทำบ่อยๆ ตอนนั้นเราก็เริ่มมองหาแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ลองไปขายใน Shopee แค่ 2 วันก็มีลูกค้ากดสั่งซื้อ จากนั้นเขาก็มารีวิวให้ โพสต์ลง Instagram ให้ แล้วก็มีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ เราก็เพิ่มสินค้าเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ กิ๊ฟ พวงกุญแจจนตอนนี้ที่กำลังเป็นกระแสคือเคสยาดม”
หลังจากที่ไข่มุกทำแบรนด์มากว่า 1 ปีก็เริ่มได้ไอเดียการทำโพรดักส์ล่าสุดนั่นคือเคสยาดมมาจากน้องสาวที่ชอบใช้ยาดมเป็นทุนเดิม โดยน้องสาวมาจุดประกายให้เธอลองปั้นดินเผาเป็นเคสยาดมดู จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการทำสินค้าที่กำลังเป็นไวรัลใน TikTok
“ไอเดียมาจากที่น้องสาวเราชอบใช้ยาดมอยู่แล้ว เขาแนะนำว่าให้เราลองทำเคสยาดมดูไหม เพราะว่ามีคนทำนะแต่เป็นเคสใส่ไฟแช็ก เราก็เลยลองปั้นดู ตอนแรกเริ่มจากเคสโป๊ยเซียน เสร็จแล้วก็ลองทำลงไปใน TikTok ปรากฏว่ากลายเป็นไวรัล มันดูมีกระแสขึ้นมา ตอนนั้นมีคนดูคลิป 1.3 ล้าน เราก็เลยปรับมาเรื่อยๆ ตอนนี้ก็มีเคสหงส์ไทยเพิ่มขึ้นมา คนก็สั่งเข้ามาเรื่อยๆ”
โดยไข่มุกได้เล่าถึงจุดเด่นของเคสยาดมในไสตล์ของแบรนด์ Holyblueboo ว่าจะเป็นเคสยาดมดินปั้นที่มีความน่ารักไม่เหมือนใครและมีแค่ชิ้นละ 1 อันเท่านั้นบนโลกใบนี้เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าที่ไม่ซ้ำกัน อีกทั้งยังเพิ่มความสนุกด้วยว่าเคสที่สั่งจะหน้าตาแบบไหน
“ตัวเคสยาดม เราจะทำแค่แบบละ 1 ชิ้น ไม่ซ้ำกัน ลูกค้าก็จะได้ไม่ซ้ำกันเลย เพราะเราอยากให้มีแค่ 1 ชิ้น ลูกค้าก็จะพรีออเดอร์เข้ามา เราก็จะทำแบบ Random มากๆ ลูกค้าจะไม่รู้เลยว่าจะได้แบบไหน เขาก็จะได้ลุ้นด้วย ตัวราคา ถ้าเป็นโป๊ยเซียนเราขาย 249 บาท ส่วนหงส์ไทย 279 บาท”
ไข่มุกได้เสริมเพิ่มเติมว่า ตอนนี้เคสยาดมกำลังเป็นกระแสที่มาแรง วัยรุ่นหลายคนยุคนี้ชื่นชอบการใช้ยาดมในชีวิตประจำวัน แต่ด้วยยาดมธรรมดา หลายคนมักจะชอบทำหาย พอมีเคสยาดมขึ้นมาก็ช่วยเพิ่มมูลค่าให้ยาดม ทำให้หลายคนไม่กล้าทำหายอีกต่อไป
“คนเขาน่าจะเหมือนมุก คือชอบของกุ๊กกิ๊ก น่ารัก สามารถพกใส่เป็นเครื่องประดับได้ เราแถมสายคล้องคอให้ด้วยมันก็สามารถคล้องคอได้ มีความเป็นแฟชั่นจากยาดมธรรมดา หลายคนชอบทำหาย กระปุกมันเล็กๆ ทำหายง่ายแต่พอมาเป็นแพ็คเกจแบบนี้ ไม่หายแน่นอน”
นอกจากสินค้าดี มีสไตล์ไม่เหมือนใคร การทำการตลาดของแบรนด์ก็เป็นตัวช่วยสำคัญในการดึงดูดลูกค้า โดยไข่มุกได้แชร์เทคนิคการทำตลาดในแบบของแบรนด์ให้ฟัง
“เราพยายามที่จะทำคอนเทนต์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เราจะเห็บข้อมูลจากรูปถ่ายของลูกค้าที่เขารีวิวเข้ามาว่าควรจะทำการตลาดประมาณไหน ช่วงนี้เขาอินอะไร มีเทศกาลพิเศษอะไรไหม เราจะได้ออกคอลเลกชันให้เข้ากับช่วงเทศกาลนั้นเพื่อดึงดูดลูกค้าได้ อย่างล่าสุดฮาโลวีน เราก็ปั้นแหวนเป็นธีมฮาโลวีน ส่วน TikTok เราก็เน้นทำคลิปวิดีโอรีวิวสินค้าของเขา จะเลือกเพลงฮิตๆ คนเล่นกันเยอะๆ คลิปก็จะดูมีกระแสมากขึ้น คอนเทนต์ต้องหลากหลายด้วย”
โดยไข่มุกได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจสำหรับเด็กวัยเรียนที่อยากหารายได้ หากมีไอเดียเมื่อไหร่ ต้องรีบลงมือทำ และพยายามพัฒนาตัวเองเสมอ นี่จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เธอสามารถหาเงินให้ตัวเองได้โดยไม่ต้องขอพ่อแม่อีกต่อไป
“ถ้าเราว่างๆ หรือมีไอเดียอะไร ถ้าคิดออกต้องรีบทำเลย ถ้าทำช้า ก็ก้าวช้ากว่าคนอื่น มุกเป็นคนที่ไม่ลืมการพัฒนาตัวเองเสมอ เราเรียนรู้ความผิดพลาด รับฟีดแบคมา และต้องมาพัฒนาให้ดีขึ้น ต้องไม่เป็นคนที่น้ำเต็มแก้ว”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup