เปลี่ยนลายเส้นให้เป็นเงิน! ร้านขายมินิมอลเค้กลายเก๋ที่รับวาดตั้งแต่หมูกระทะยันหน้าคน
Text : Yuwadi.s
เพราะโควิดทำให้หลายชีวิตต้องหาทางรอด! หนึ่งในนั้นคือร้านขายบราวนี่ที่ชื่อว่ากิน หนม กัน • gin nhom gun กว่า 6 ปีแล้วที่ร้านเปิดขายบราวนี่เพียงเมนูเดียวและสามารถครองใจลูกค้าได้อย่างยาวนานด้วยรสชาติบราวนี่นุ่มหนึบ เข้มอร่อย จนถึงขนาดเปิดขายส่งให้ลูกค้าไปสร้างแบรนด์เองเลยทีเดียว จนมาถึงช่วงโควิดที่ทำให้ธุรกิจเงียบลง จากที่เคยไปฝากวางตามร้านกาแฟก็ออร์เดอร์ลดลง ร้านบราวนี่จึงเฟ้นหาทางรอดด้วยการเพิ่มไลน์ขนมใหม่นั่นคือมินิมอลเค้ก จนสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว!
โดย จิ๊บ-ปวีณา ดิลกพัฒนมงคล เจ้าของร้านกินหนมกัน ได้เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นว่าเธอเริ่มจากศูนย์ ไม่มีสกิลการทำขนมมาก่อน เพียงแค่ชอบกินเท่านั้น แต่ด้วยความชอบกิน ทำให้เธอตัดสินใจลองทำขนมกินดู เริ่มจากเมนูที่ชอบที่สุดนั่นคือบราวนี่ จนกระทั่งได้สูตรที่อร่อยลงตัวจึงทดลองขายจากคนใกล้ตัวและต่อยอดเป็นธุรกิจในที่สุด
“ตั้งแต่เราเรียนจบมาก็ไม่ได้ไปทำงานเลย เริ่มทำขนมขาย มันมาจากความชอบส่วนตัวเพราะเราชอบกิน พอซื้อกินบ่อยๆ ก็รู้สึกว่าทำไมเราไม่ลองทำเองดู จะได้ใส่ของที่เราชอบลงไป ก็เริ่มทำ คุณพ่อก็จะเอาไปให้คนที่ทำงานลองชิม เขาก็จะมีปรับนู่นนิด นี่หน่อย ให้หลายๆ คนลองชิม เรามาลองปรับจนโอเค ลงตัวก็ทำแจก คนเริ่มถามว่าซื้อจากไหน ปากต่อปาก เลยเริ่มขาย ที่เป็นบราวนี่เพราะเราชอบกินที่สุด ที่บ้านก็มีอุปกรณ์ทำขนมอยู่แล้ว เลยลองทำดู หาสูตรจากในอินเทอร์เน็ตมาทำ ลองหลายสูตร อันไหนไม่โอเคก็ทำทิ้ง จนเจอที่ใช่จริงๆ ถึงเริ่มขาย”
เป็นระยะเวลากว่า 6 ปีที่จิ๊บทำบราวนี่แค่เมนูเดียวขายภายใต้แบรนด์ กิน หนม กัน จากเริ่มต้นให้คนใกล้ตัวลองกิน สู่การเปิดร้านขายบนโลกออนไลน์ขยายสู่การฝากวางตามร้านและคาเฟ่ จนมีลูกค้ามากมายติดใจในรสชาติ แต่พอถึงช่วงโควิด ทำให้ยอดขายลดลง จึงทำให้เธอต้องปรับตัวด้วยการมองหาอะไรใหม่ๆ ในที่สุดก็แตกไลน์เป็นมินิมอลเค้ก
“แรกๆ ที่เราขายก็เปิดเพจแล้วก็มีแค่เบอร์ คนก็จะโทรมาสั่ง บางทีเราก็ฝากพ่อไปขายที่ทำงาน พ่อก็เลยบอกว่าทำไมไม่ลองไปฝากขายดู เราก็หาร้านไปวางขาย มันก็ขายได้ เราก็เริ่มไปวางขายที่อื่น ร้านกาแฟ จนมาเจอโควิดเหมือนคน WFH ไม่ค่อยเดินตลาด ไม่ค่อยเข้าร้าน มันเงียบมาก เลยคิดว่าต้องหาทำอะไรเพิ่ม บังเอิญตอนนั้นมีคลาสออนไลน์ ทำมินิมอลเค้ก เป็นกระแสพอดี จิ๊บก็เลยลองไปเรียนดู แต่ก็เป็นแค่มินิมอลเค้กทั่วไป ปาดเป็นสีๆ น่ารัก เห็นมันน่ารักดีแต่ทำไมมันเหมือนกันไปหมด จนเริ่มเปลี่ยนจริงๆ คือลูกค้าเขาหาแบบมาให้ใหม่ๆ ตลอด ถามเราว่าทำอันนั้นได้ไหม อันนี้ได้ไหม”
ด้วยความที่สกิลการวาดรูปเป็นศูนย์ แต่เมื่อลูกค้าขอมา ทางร้านก็จัดให้! ทำให้เธอต้องฝึกฝนการวาดรูปด้วยตัวเองจนกระทั่งสามารถวาดรูปบนหน้าเค้กได้อย่างสวยงาม น่ารักและไม่เหมือนใคร
“ตอนแรกเราทำทั่วๆ ไป แค่ปาดสีธรรมดา ขายแบบนั้นอยู่ 2 ปี แล้วมีลูกค้าคนหนึ่งที่เขาอยากได้รูปหมาแมว เราวาดรูปไม่เป็นเลย ต้องหาซื้อหนังสือในห้าง หนังสือฝึกวาดรูป เพราะเราวาดไม่ได้เลย เราก็ฝึกวาดคน วาดสัตว์ แล้วลองมาฝึกวาด บีบบนเค้ก ซึ่งมันเป็นครีมก็ยากพอสมควร เราก็ฝึกไปเรื่อยๆ จากหมาแมว เป็นคน จากคนหน้าธรรมดาก็เริ่มตีลายเส้นชัดขึ้น ค่อยๆ ฝึกมาเรื่อยๆ ตอนนั้นมีพี่คนหนึ่งทักมาว่าวาดรูปคนได้ไหม ตอนแรกเราก็ว่าทำไม่ได้ แต่เขาบอกว่าเลือกเราแล้ว เชื่อว่าเราทำได้ เขาไม่เคยซื้อร้านเรามาก่อน แค่เห็นจากรูป เขาก็บอกว่าพี่เชื่อว่าน้องทำได้ พี่เลือกร้านน้องแล้ว เขามาสร้างความมั่นใจให้เรา เขาให้เราเชื่อในตัวเอง ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้คิดว่ามันน่ารักขนาดนั้น ทำแล้วปาดทิ้ง ก้อนเดียวใช้เวลาหลายชั่วโมงมาก แค่ข้อความ ลบแล้วปาด ลบแล้วปาด แต่พอมาถึงตอนนี้ใช้เวลาลดลงเยอะ แต่ดีเทลมันก็เยอะขึ้นด้วย”
หลังจากเพิ่มการทำมินิคอลเค้ก ทำให้ธุรกิจมียอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากแค่บราวนี่เพียงอย่างเดียว จุดเด่นของเค้กที่ร้านนั่นคือลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ผสมผสานกับงานศิลปะลงไปบนหน้าเค้ก ซึ่งเป็นการคัสตอมตามใจลูกค้า
“เราเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก แรกๆ เริ่มจากที่เราอยากได้เค้กแล้วสั่งคนอื่นก็ไม่ได้แบบที่เราต้องการ ถ้าเราทำได้ก็น่าจะเวิร์ค มันไม่เหมือนใครดี ถ้าลูกค้าอยากได้ประมาณไหนก็มาคุยกันก่อน เราก็บอกลูกค้าว่าอาจจะไม่ได้ทำได้ทุกแบบ แต่ลูกค้าลองแจ้งรายละเอียดคร่าวๆ มาก่อน ทุกออเดอร์เราจะร่างแบบใส่ไอแพดส่งให้ลูกค้าดูก่อนว่าโอเคไหม เพราะถ้าไม่โอเค เราทำลงไปบนหน้าเค้กแล้วมันจะแก้ไขไม่ได้ พอเราทำเค้กเพิ่มจากบราวนี่ก็ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณเท่าตัว เราไม่ได้ขายแพงเกินไป ถ้าเทียบกับวัตถุดิบที่เราใช้ เรามองว่ามินิมอลเค้กทั่วไปราคาค่อนข้างสูง เราอยากให้ราคาเข้าถึงได้ทุกคน เลยไม่ได้ตั้งราคาสูงมาก เริ่มต้นที่ครึ่งปอนด์ 400 บาท หนึ่งปอนด์ 600 บาท ถ้าราคาวาดรูปก็จะเริ่มต้นบวกเพิ่ม 70 บาท ราคาจะอัพตามรายละเอียดที่ลูกค้าแจ้งมา”
โดยเธอได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญที่ทำให้ร้านขนมของเธอประสบความสำเร็จตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นเพราะความใส่ใจทุกรายละเอียด การเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพและเข้าใจลูกค้า
“เราว่ามันต้องเริ่มจากความจริงใจ ใส่ใจทุกรายละเอียด เริ่มตั้งแต่การหาวัตถุดิบ คิดว่าใช้ของให้ดีเหมือนทำให้คนในครอบครัวและที่สำคัญคือต้องเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไรแล้วใส่มันลงไปในขนมที่เราทำ”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup