Text : Yosita T. 

     “ถ้าได้เริ่มทำธุรกิจของตัวเองแล้ว ชีวิตในทุกวันจะเปลี่ยนไป มันจะสนุกขึ้นเรื่อยๆ ไปกับสิ่งที่ต้องเจอ” คือคำพูดของ เจมีน-จรัสรวี อินทรศรี ที่ธุรกิจของเธอเกิดจากการดัดแปลงเนยให้ตรงกับรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ตัวเองชอบ จนกลายมาเป็นแบรนด์ Chubby Cheeks เนยทาปังชีสกรอบเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย ที่เติบโตอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 2 ปี

     “เดิมทีแล้วจะเป็นคนที่เลือกกินมากๆ จะมีรสชาติในแบบที่ตัวเองชอบแล้วก็พยายามหาทำให้ทุกอย่างเป็นแบบที่ตัวเองชอบกินให้ได้ อย่างเนยตัวนี้เกิดจากที่เราเองก็มีมาตรฐานความชอบเนยในแบบของเราอยู่แล้ว จึงพยายามคิดสูตรดัดแปลงจนได้สูตรนี้มา เลยลองขายจะได้แบ่งความอร่อยไปให้คนอื่นๆ ได้กินด้วย และความตั้งใจของเราคือ ทำให้เนยตัวนี้กลายเป็นวัตถุดิบที่ทุกคนต้องมีติดบ้าน เนยชับบี้เป็นวัตถุดิบที่นำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย ส่วนประกอบของเนยชับบี้จะปลอดภัยกินได้ทุกวัน ไม่มีไขมันตกค้างในร่างกายเพราะไม่มีไขมันทรานส์ เป็นเนยแท้ ใช้แทนน้ำมันได้ ไม่ใช่แค่เอาไว้ทาขนมปังอย่างเดียว”

    Chubby Cheeks นอกจากจะมีความโดดเด่นที่รสชาติกลมกล่อมจนแตกต่างจากเนยทั่วไปแล้ว ในส่วนของการสร้างแบรนด์ ก็เป็นอีกสิ่งที่เจมีนให้ความสำคัญมาก โดยเธอตั้งใจให้ Chubby Cheeks เป็นแบรนด์ที่มีความน่ารักสดใส มีสีสันสะดุดตา ดึงดูดความสนใจของลูกค้าจนตัดสินใจซื้อทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารสชาติเป็นยังไง 

     “ด้วยความที่เรียนจบสถาปัตย์มาเราก็รับงานออกแบบ Branding เป็นฟรีแลนซ์มาโดยตลอดตั้งแต่เรียนจบมาใหม่ๆ พอเริ่มทำแบรนด์ Chubby Cheeks จึงนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานมาใช้กับการสร้างแบรนด์ ลงทุนกับการทำ Branding ไปเยอะมาก เพราะคิดว่าการที่จะขาย Chubby Cheeks มันก็ต้องแตกต่างและโดดเด่นจริงๆ ถ้าไม่ถ่ายรูปให้น่ากินพอ ไม่ทำแพ็กเกจจิ้งให้ดึงดูด สุดท้ายแล้วก็จะไม่ได้อะไรกลับมาเลย เราเลยลงทุนลงแรงกับการทำ Branding มากที่สุด”

     เจมีนยอมรับว่าเธอไม่มีความรู้ในเรื่องการทำธุรกิจมาก่อน ดังนั้น ณ วันแรกของการทำแบรนด์ Chubby Cheeks จึงไม่มีช่วงไหนที่ง่ายเลย ทั้งในช่วงแรกที่ต้องเรียนรู้กระบวนการค้าขายเองทั้งหมด แต่กระนั้นเธอก็สามารถก้าวผ่านมาได้ เพราะเธอรู้สึกสนุกและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำงาน 

     “มันยากมาโดยตลอดไม่มีอะไรง่ายเลย แต่ก็เป็นความยากที่ต่างกันออกไป อย่างช่วงแรกยากมากเพราะต้องสร้างทั้งระบบการผลิตแล้วก็ระบบการคุยตอบกับลูกค้าให้ดี เพราะเรายังเป็นมือใหม่ด้วย ความยากต่อมาก็คือจะทำยังไงให้เนยชับบี้เป็นที่รู้จักให้มากที่สุดเพราะเราไม่ยิงแอดโฆษณาเลย เราตั้งใจที่จะใช้เงินให้น้อยที่สุด แต่ขณะเดียวกัน Chubby Cheeks ต้องเข้าไปอยู่ในสายตาของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด แล้วความยากในตอนนี้ที่เราสร้างแบรนด์อย่างเต็มตัวแล้วก็คือจะทำยังไงให้ Chubby Cheeks กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคน ทุกอย่างมันคือความยากหมดเลย แต่มันคือความยากที่สนุกมาก”

     เจมีนเล่าต่อไปว่าในเรื่องของการตลาดเธอไม่ได้ลงทุนเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะเธอใช้โอกาสจากช่วงที่กระแสการค้าขายใน Facebook Marketplace กำลังมาแรง ทำให้แบรนด์ Chubby Cheeks เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคตั้งแต่ตอนนั้น

     “บอกเลยว่าเรื่องการตลาดโปรโมตแบรนด์เราลงทุนแบบศูนย์บาทเลย เพราะตอนนั้นเป็นช่วงที่กระแส Facebook Marketplace กำลังมา เราก็คิดอย่างเดียวเลยว่าจะทำยังไงให้สินค้าของเราเข้าไปถึงผู้บริโภคในแพลตฟอร์มนั้นให้ได้ เพราะมันลงขายฟรีด้วยก็พยายามเข้าไปโพสต์ขายบ่อยๆ ให้ผ่านตาคนให้มากที่สุด สุดท้ายสินค้าเราก็ติดตลาด มีคนตามมาซื้อเยอะมากถือว่าเป็นประตูด่านแรกของ Chubby Cheeks ยอดขายก็เยอะมาก ซึ่งเราก็รู้สึกว่าประสบความสำเร็จอยู่นะ”

     สิ่งสำคัญที่เจมีนสามารถทำให้ Chubby Cheeks ซึ่งเป็นแบรนด์น้องใหม่ มียอดขาย 6-7 หลักต่อเดือน และเติบโตอย่างรวดเร็วภายในเวลา 2 ปี ก็คือความพยายามที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยรู้และสนุกกับทุกปัญหาที่เจอ

     “พอทำธุรกิจของตัวเองชีวิตเราก็จะเปลี่ยนไป ชีวิตจะสนุกขึ้นมากๆ เพราะมันจะมีสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้ทุกวัน แล้วยิ่งถ้าเริ่มทำเร็ว ก็จะยิ่งสนุกกับมันได้เร็วขึ้น อยากให้ทุกคนที่อยากทำอะไรก็รีบทำเลย แต่ความตั้งใจสำคัญที่สุดทำอะไรก็ทำให้สุดเลย” เจมีนกล่าวในตอนท้าย

     IG : chubbycheeks.menu
     FB : Chubby Cheek
     Line : @chubbycheeks


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup