Text : Vim Viva

     การหาคู่ทางออนไลน์ นอกจากได้คนรักยังอาจทำให้สร้างงานสร้างรายได้อีกด้วย เมื่อตอนที่อีแวน วู และแองเจลีน โกะห์ หนุ่มสาวชาวสิงคโปร์เจอกันบนแอปพลิเคชั่นหาคู่แห่งหนึ่งแล้วตัดสินใจออกเดทกันนั้น พวกเขาไม่คาดคิดว่าการคบหากันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่ถือว่าดีมาก

     อีแวนอายุ 30 เป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ รู้จักแองเจลีน ครูอนุบาลวัย 27 ปีผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่แอปหนึ่ง หลังจากทำความรู้จักกันก็พบว่าทั้งคู่มี 2 สิ่งที่เหมือนกันคือรักต้นไม้ และฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ทั้งสองจึงลงขันกันเปิด Soilboy ร้านค้าออนไลน์จำหน่ายต้นไม้โดยเน้นต้นไม้ปลูกในที่ร่ม ภายใต้แนวคิด “ทำชีวิตให้เป็นสีเขียว” อีแวนและแองเจลีนจึงพยายามทำให้การปลูกต้นไม้เป็นเรื่องไม่ยาก สวยงาม และมีความทันสมัย

     เนื่องจากทั้งคู่มีงานประจำทำอยู่แล้ว การทำธุรกิจออนไลน์จึงเป็นเรื่องขลุกขลักในช่วงแรก “ในยามว่างนอกเวลางาน เราจะใช้เวลาดูแลต้นไม้ให้เติบโตและสวยงามเพื่อพร้อมจำหน่าย เราศึกษาข้อมูลเยอะมาก และลองผิดลองถูกเกี่ยวกับต้นไม้ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะเทคนิคการนำต้นไม้ที่ปลูกกลางแจ้งมาปลูกในอาคาร” อีแวนกล่าวและอธิบายเพิ่มว่า

     “เราพบว่าอยู่ที่การผสมดิน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปลูกต้นไม้ จึงเกิดการตั้งคำถามว่าคงจะดีหากมีร้านต้นไม้ร้านไหนสามารถให้คำตอบได้ว่าต้นไม้แต่ละชนิดเหมาะกับดินแบบไหน รวมไปถึงคำแนะนำในการดูแลต้นไม้ให้อยู่รอด” ด้วยเหตุนี้ อีแวนและแองเจลีนจึงทำ Soilboy ให้เป็นมากกว่าร้านต้นไม้ โดยสร้างแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่เน้นเชิญชวนผู้คนให้ใช้ชีวิตแช่มช้าและรื่นรมย์กับการปลูกต้นไม้ 

     Soilboy นำเสนอคอลเลคชั่นต้นไม้ล็อตแรกเมื่อเดือนธค. 2020 และได้รับการตอบรับดีมากโดยจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะต้นไม้ที่นำมาจำหน่ายนั้นค่อนข้างสำเร็จรูป กล่าวคือมีการเลือกชนิดของต้นไม้ ดินที่ปลูก และกระถางที่เหมาะสมเข้ากัน ทำให้ลูกค้าเลือกซื้อง่าย แค่จ่ายเงินก็นำไปวางประดับสถานที่ได้เลย

     สิ่งที่อีแวนและแองเจลีนเน้นคือต้นไม้และกระถางที่สวยงาม เพื่อให้มั่นใจว่าต้นไม้ชนิดไหนเหมาะกับกระถางแบบใด พวกเขาจะลองจับคู่ กว่าจะลงตัวก็ใช้เวลา 3-9 เดือนเลยทีเดียว ด้วยความสวยงามแบบมินิมอล หรือ “น้อยแต่มาก” ใช้ตกแต่งบ้านหรือสำนักงานได้ ราคาต้นไม้ (รวมกระถาง) ภายใต้แบรนด์ Soilboy จึงค่อนข้างสูง เฉลี่ยกระถางละ 60 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 1,500 บาท) และบางกระถางมีราคาสูงถึง 1,000 ดอลลาร์หรือเกือบ 26,000 บาทก็มีซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในตระกูลบอนไซ   

     ด้านแองเจลีนเล่าว่าทางร้านจำหน่ายต้นไม้พร้อมกระถาง โดยกระถางเป็นงานแฮนด์เมดทั้งหมด สั่งทำจากเกาหลี ส่วนต้นไม้จะคัดสรรจากทั่วโลก ตั้งแต่ญี่ปุ่นไปจนถึงแอฟริกา เป็นต้นไม้ที่ไม่ได้พบเจอหรือมีขายทั่วไป “เนื่องจากเป็นต้นไม้นำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นเราต้องใช้ความพยายามประคบประหงมเพื่อทำให้ต้นไม้คุ้นชินกับสภาพอากาศใหม่ ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่ 2 สัปดาห์ไปจนถึง 2 เดือน ถือเป็นความท้าทายอย่างมากในการปลุกชีพต้นไม้ให้สดใสอีกครั้ง” 

     สำหรับต้นไม้ที่ขายดีสุด ได้แก่ มะยมเงินมะยมทอง (Phyllanthus Mirabailis) บัวบกโขด (Stephania Erecta) บอระเพ็ดพุงช้าง (Stephania Suberosa) และบัวหิน (Stephania Kaweesakii) ต้นไม้เหล่านี้ใช้เวลา 3 เดือนในการปลูก และแม้บางต้นจะเป็นสายพันธุ์เดียวกัน แต่ลักษณะใบและสีจะแตกต่างกัน

     นอกจากจำหน่ายต้นไม้และกระถาง Soilboy ยังทำผลิตภัณฑ์อื่นออกจำหน่ายด้วย เช่น เสื้อยืด หมวก กระเป๋า โปสเตอร์ และโปสการ์ด สินค้าที่ระลึกเหล่านี้ออกแบบโดย Oak And Bindi ศิลปินท้องถิ่นผู้รักต้นไม้

     แองเจลีนเผยว่าตอนเริ่มต้นธุรกิจ เธอและอีแวนลงขันกันเป็นเงิน 50,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 130,000 บาท) ใช้เวลาเพียงปีเดียวก็คืนทุน หลังจากนั้น ในเดือนพย. 2021 หรือไม่ถึง 2 ปีของการดำเนินธุรกิจ เธอและหุ้นส่วนก็เปิดหน้าร้านสาขาแรก เป็นการขยายธุรกิจเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทุกช่องทาง โดยผนวกช่องทางจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ลูกค้าหลายคนสั่งต้นไม้ทางออนไลน์แต่มารับเองที่หน้าร้าน และมีไม่น้อยที่ต้องการมาเลือกด้วยตัวเองที่ร้านก็มี 

     ข้อดีของการเปิดหน้าร้านคือทำให้ได้เจอกับลูกค้า ได้พูดคุยและอธิบายแบบตัวต่อตัว นอกจากร้านประจำถาวร Soilboy ยังเปิดเป็นร้านป็อป-อัพตามงานอีเวนต์ต่างๆ ด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า โชคดีอย่างหนึ่งของอีแวนและแองเจลีนคือการเริ่มธุรกิจในช่วงเกิดโควิดระบาด ในขณะที่ธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบ แต่การระบาดของโรคกลับส่งผลดีต่อ Soilboy เพราะการกักตัวอยู่ที่บ้านทำให้ผู้คนเกิดความเบื่อหน่ายและมีความรู้สึกห่างหายจากธรรมชาติ จึงนิยมซื้อต้นไม้เพื่อสร้างความสดชื่น ลดความจำเจ ส่งผลให้ยอดขายและรายได้ Soilboy งดงาม

     แม้โควิดจะซาลงแล้ว และผู้คนออกมาใช้ชีวิตตามปกติ คนที่เคยซื้อต้นไม้ไปเลี้ยงช่วงกักตัวที่บ้านกลับติดอกติดใจ สั่งซื้อต้นไม้เพิ่มขึ้นและเลี้ยงเป็นงานอดิเรก จึงส่งผลดีต่อธุรกิจต้นไม้ คู่รักออนไลน์เจ้าของธุรกิจ Soilboy กล่าวว่าพวกเขาจะยังคงคอนเซปต์การเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือวางแผนขยายร้านมากขึ้น และอาจขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศด้วย    

ที่มา :

https://vulcanpost.com/796688/soilboy-founders-minimalist-plants-singapore/

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup