กับข้าวจะ เปิดบ้านเป็นร้านขายข้าวออนไลน์ รับออเดอร์แค่เสาร์อาทิตย์ โดยนักบัญชีที่ทำเพราะ Passion ล้วนๆ
จากมนุษย์เงินเดือนสายบัญชีที่หลงใหลการทำอาหารตั้งแต่ป.4 สู่การเปิดบ้านเป็นครัวออนไลน์ที่อยากขายเพราะแพชชันล้วนๆ กับร้านอาหารสุดปังบนโลกออนไลน์ “กับข้าวจะ” เปิดให้ลิ้มลองได้แค่เสาร์อาทิตย์ แถมระหว่างวันยังเปิดๆ ปิดๆ เพราะออเดอร์ล้นมือ
“เมย์-ชลิตา เลิศนิมิตภิญโญ” ได้เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของการเปิดร้านว่าเธออยากให้คนได้กินอาหารอร่อยแบบที่เธอทำแล้วชอบ ประกอบกับวันนั้นที่ปิ๊งไอเดียคือช่วงที่ทำงาน Work from home เธอทำสปาเกตตีกินที่บ้าน แล้วก็คิดว่าทำไมถึงไม่ทำขายนะ พอคิดได้แล้วก็ลงมือทำทันที
“เราทำงานประจำอยู่ จันทร์ถึงศุกร์ เป็นผู้ช่วยผู้ตรวจสอบบัญชี จำได้ว่าวันนั้นเรานั่งทำงาน WFH แล้วทำสปาเกตตีกิน อยู่ๆ ก็คิดว่าทำไมเราไม่ทำขายวะ คิดเสร็จก็ขายเลย ตอนนั้นประมาณวันพุธ เสร็จก็สมัคร เปิดเพจเฟซบุ๊ก สร้างบัญชีในไลน์ แล้วมีน้องมาช่วยทำเรื่องกราฟฟิก พออาทิตย์ต่อไปก็เปิดรับออเดอร์เพื่อนเลย อารมณ์มันแบบ คิดปุ้บ ทำเลย ไม่รอนะ ถ้ารอก็จะไม่ได้ทำ”
โดยเมย์เล่าเสริมให้ฟังถึงแพชชันการทำอาหารของเธอว่าเกิดขึ้นมาตั้งแต่จำความได้ เพราะได้รับอิทธิพลความชอบการทำอาหารมาจากครอบครัว ภาพที่เห็นคือทุกคนอยู่ในครัวแล้วช่วยกันทำอาหารเมนูต่างๆ ทำให้เธอเริ่มเข้าครัวจริงจังตั้งแต่ตอนป.4 จากนั้นก็ทำอาหารมาเรื่อยๆ จนเริ่มศึกษาการทำอาหารจากในยูทูปและปรับสูตรเองจนได้รสชาติที่เธอชอบ
“เราชอบทำอาหารอยู่แล้ว เริ่มเข้าครัวเองคนเดียวตั้งแต่ป. 4 ที่บ้านก็ชอบทำอาหาร ห่อหมก ขนมครก เขาอยู่กันหลายคนแล้วก็ทำอาหารกัน พอโตขึ้นมา แม่ก็สอนมั้ง ยายสอนมั้ง เริ่มจริงคือโตขึ้น เราชอบดูยูทูป แล้วไม่ค่อยได้ดูของคนไทยเท่าไหร่ สมมติ อาหารอิตาเลียนเราก็จะดูคนอิตาเลียนทำ ไปดูสูตรเขา แกะสูตร แล้วมาปรับเป็นของเราอีกที หรือถ้าอาหารไทยจะดูอาจารย์ที่สอนอาหารไทยเลย เป็นสไตล์แบบนั้น กว่าจะทำกิมจิออกมาได้ อาจจะดูไปแล้ว 20 กว่าคลิป เพราะต้องมาปรับสูตร ต้องลองทำ อันนี้ไม่มี อันนี้ไม่ได้ อันไหนใช้แทนได้หรือรสชาตินี้เราไม่ชอบแน่ ก็จะเปลี่ยนให้เป็นรสชาติที่เราชอบ”
จุดเด่นของร้าน “กับข้าวจะ” คือการเป็นร้านอาหารโฮมเมด ทำสดใหม่ทุกร้าน มีความฟิวชั่นผสมผสานทั้งอาหารไทย ฝรั่งและเกาหลี ที่สำคัญยังเป็นโมเดลให้เลือกแบบตามใจลูกค้าคือสามารถเพิ่มโปรตีน Add on วัตถุดิบต่างๆ ที่ชอบได้แบบไม่จำกัด ในราคาน่ารัก
“เรานึกถึงตัวเองก่อน มันเป็น Pain point ของเราเวลาไปกินข้าวข้างนอก จะชอบข้าวเยอะ โปรตีนน้อยแล้วเราเป็นคนที่อยากกินโปรตีนเยอะ ข้าวน้อย มีกำลังทรัพย์จะจ่ายเพิ่มแต่มันไม่มีขาย เราเลยอยากทำแบบนี้ให้ลูกค้าได้กินโปรตีนเยอะๆ เพิ่มเงินซื้อ รสชาติอาหารของเราก็จะไม่ไทยจ๋าหรือฝรั่งจ๋า เพราะเราชอบกินแบบนี้ ที่เราทำขายมันต้องเป็นรสชาติที่เราชอบกิน ไปกินข้างนอกแล้วไม่ถูกใจ เอาความชอบเราเป็นโจทย์ตั้ง เมนูที่ขายคือเมนูที่เราทำกินเองจนแฮปปี้ ชอบถึงทำออกมาขาย ถ้านับประสบการณ์ทำอาหารตั้งแต่ในอดีต เราทำมาไม่รู้กี่ปี จำความได้ก็อยู่ในครัวแล้ว กว่าจะแบบ หยิบเกลือเท่านี้ พริกเท่านี้แล้วออกมารสชาติแบบนี้ เราไม่มีสูตรด้วย เป็นรสมือจริงๆ”
เกือบ 1 ปีเต็มที่ร้านกับข้าวจะเปิดขายบนโลกออนไลน์ ที่ผ่านมาก็มีทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าใหม่แวะเวียนเข้ามาลิ้มลองอยู่เสมอ โดยเฉพาะกระแสการรีวิวจากคุณทราย เจริญปุระ ที่รีวิวให้แบบออร์แกนิกเพราะมากินแล้วชอบ ทำให้ร้านของเมย์เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นและด้วยความที่ทุกออเดอร์ทำสดใหม่ทุกจานแบบโฮมเมด ร้านกับข้าวจะจึงมีการเปิดๆ ปิดๆ ระหว่างวันเพื่อเคลียออเดอร์ โดยเมย์เล่าให้ฟังว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาออเดอร์ล้นเพื่อไม่ให้ลูกค้าและไรเดอร์ต้องรอนาน
“พอเราทำใหม่ทุกจานแล้วบางทีเจอลูกค้าที่สั่งทั้งครอบครัว เราก็ต้องปิดรับออเดอร์ชั่วคราว ไม่งั้นลูกค้าที่ต่อหลังจะต้องรอนานมากๆ เราต้องบริหารจัดการออเดอร์ไปด้วย แต่ก็มีแม่กับน้องคอยช่วย ถ้าออเดอร์มาเยอะ เราจะปิดระบบก่อนเพื่อเคลีย พอเคลียเสร็จค่อยเปิดรับออเดอร์ใหม่ เพราะสมัยก่อนเคยเจอไรเดอร์ด่า ตอนนั้นเราเพิ่งทำ ยังไม่มั่นใจ มีออเดอร์เข้า เราก็รับ แล้วไม่รู้ว่าถ้ากดปิด ออเดอร์ที่มีอยู่จะเป็นยังไง จนไรเดอร์ด่า ประมาณว่าถ้าพี่ทำไม่ทัน พี่กดปิดร้านไปก่อนเลย เราก็โอเค ลองดู มันปิดได้ เราก็เรียนรู้ไปด้วยเพราะเราไม่ใช่มืออาชีพ เราคือมือสมัครเล่นที่อยากลองมาขายดู แบ่งให้คนอื่นได้ลองกินฝีมือของเรา แค่นั้นเอง ตอนโดนด่าก็เครียดนะ หลังๆ เราเลยเปิดๆ ปิดๆ ลูกค้ากับไรเดอร์ก็จะได้ไม่ต้องรอนาน”
อีกหนึ่งปัญหาที่เธออยากแชร์สำหรับการทำร้านอาหารที่เปิดขายแค่เสาร์อาทิตย์ นั่นคือการสต๊อกของ เพราะในช่วงแรกเธอจมทุนไปกับการซื้อของเยอะๆ มาสต๊อกเพราะอยากขายให้ทุกคนได้กิน
“เราเรียนบัญชีก็จริง แต่เราล้มเหลวในการบริหารจัดการมากๆ เช่น ช่วงแรกเราต้องซื้อของเท่าไหร่ถึงจะพอขาย แล้วขายหมด บางทีเราซื้อเยอะ จนเหลือ เหมือนเรายังดูเทรนด์ลูกค้าไม่ถูก เพราะเราขายแค่เสาร์อาทิตย์ แล้วของมันอยู่ไม่ได้ ต้องขายให้หมด ช่วงแรกจะเจอปัญหาแบบนี้ เราอยากให้ทุกคนได้กินเลยซื้อมาเยอะ แต่พอผ่านไปจะรู้แล้ว ถ้ายังใช้วิธีนี้ เจ๊งแน่นอน ทุกวันนี้เราเลยเปลี่ยนใหม่ คิดว่าจะขายเมนูนี้กี่จาน แล้วซื้อเท่านั้น จบ หมดคือหมด ขายแค่นั้น ไม่เจ๊ง อยู่รอดได้และไม่เข้าเนื้อ”
โดยเธอได้ปิดท้ายว่าการทำร้านอาหารของเธอนั้นคือการทำเพราะแพสชันล้วนๆ ไม่ได้มองกำไรเป็นที่ตั้ง แค่อยากทำเพราะอยากทำอาหารอร่อยๆ ให้คนอื่นได้กิน
“ตอนนี้เรายังทำร้านนี้เป็นอาชีพเสริม ทำเพราะแพสชันล้วนๆ สนุกเลยทำ เพราะมันโคตรเหนื่อย ไม่คุ้มหรอก กำไรก็น้อย เราไม่ได้ขายแพงมาก ต้นทุนสูง แพ็คเกจจิ้งก็แพง ของที่ใช้ วัตถุดิบเราหาที่ดีที่สุด น้ำมันขวดละร้อยกว่าบาท เนยก็เนยแท้ ไก่ปลอดสาร หมูปลอดสาร เราแค่ชอบกินแบบนี้เลยอยากให้ลูกค้าได้กินแบบที่เรากิน แค่นั้นเลย จุดประสงค์ที่ทำเพราะแพสชัน ตอบสนองความต้องการเราล้วนๆ การทำอาหารต้องใส่ใจกับมันทุกจาน ใจต้องรักแล้วมันจะออกมาดีเอง”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup