ลุยเดี่ยวคนเดียวสร้างเกม 100 ล้าน! คุยกับผู้สร้างเกม Kingdoms Reborn ที่ Success ไวใน 8 เดือน
ปัน-อิทธินพ ดำเนินชาญวนิชย์ เป็นคนไทยที่สร้างเกม Kingdoms Reborn แบบลุยเดี่ยวคนเดียวขึ้นมา เขาเรียนรู้และพัฒนาเกมด้วยตัวเอง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัวที่อยากให้เขาสานต่อธุรกิจ ดั๊บเบิ้ล เอ ของครอบครัวมากกว่าแต่ด้วย passion อันแรงกล้า เขาใช้เวลาพัฒนาเกมนี้อย่างเต็มตัว 1 ปี และไม่ได้ใช้เงินทำการตลาดสักบาทเดียว แต่ Kingdoms Reborn เกมสร้างเมือง มียอดขายทะลุ 100 ล้านบาท ในเวลาเพียง 8 เดือนเท่านั้น
ปันยอมรับว่าเขาเป็นคนชอบเล่นเกมมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาเติบโตขึ้นพร้อมกับการเลือกเส้นทางเรียนในสายนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ ซึ่งดูตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาฝันนั่นคือการพัฒนาเกม ที่สำคัญยังเป็นทางที่ครอบครัวไม่เห็นด้วย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายในการพิสูจน์ตัวเองให้เขายอมรับในตอนแรก
“ผมสนใจเกมมาตั้งแต่เด็ก เหมือนเด็กทั่วไปที่เล่นเกมมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่คิดว่าจะเป็นทางที่เป็นไปได้ในการทำธุรกิจ เพราะในเวลานั้นประเทศไทยยังไม่มีใครพัฒนาเกมขึ้นมาได้ ตลาดเกมเองก็ยังไม่มีความชัดเจนอะไร เลยไม่ได้คิดวางแผนเป้าหมายว่าจะทำงานด้านนี้ แต่ตั้งใจว่าอยากจะช่วยสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในประเทศไทย เพราะคิดว่าเป็นพลังงานอนาคตของประเทศ จึงตัดสินใจเลือกเรียนโท-เอก Nuclear Science & Engineering ที่ Massachusetts Institute of Technology (MIT) แต่ดีใจได้แป๊บเดียวแค่ 3 อาทิตย์เท่านั้น เพราะเกิดเหตุการณ์การรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ จากคลื่นยักษ์สึนามิ เลยทำให้แผนพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของไทยถูกระงับไป
"ช่วงแรกก็ไม่แน่ใจ งงๆ กับชีวิตว่าถ้าเราต้องใช้เวลาเรียนไปในทางนี้ แต่สุดท้ายไม่มีโรงงานนิวเคลียร์ให้ทำที่ประเทศไทยแล้วจะทำยังไง หรือว่าจะต้องไปทำงานที่ต่างประเทศแทน ระหว่างนั้นผมเลยได้ลองไปค้นหาความรู้ด้านอื่นๆ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง แต่สุดท้ายก็เลิกฟังเสียงต่างๆ มาคิดว่าอะไรคือความชอบของเรา อะไรที่เราอยากทำจริงๆ เลยมาลงที่เกม ซึ่งเราชอบอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก เพียงแต่คนส่วนใหญ่ยังคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้”
เมื่อเขารู้ว่าเกมยังคงเป็นสิ่งที่เขาอยากจะทำ แต่ด้วยความที่ครอบครัวไม่เห็นด้วย เขาจึงพิสูจน์ตัวเองด้วยการไปทำงานที่ Apple เก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้ประมาณ 2 ปี ก็ตัดสินใจลาออกเพื่อมาสานฝันอย่างจริงจัง แม้ว่าในช่วงแรกพ่อกับแม่จะยังไม่เห็นด้วยก็ตาม โดยเขาใช้เวลาอย่างหนักในการทำให้สิ่งที่คิดนั้นออกมาเป็นรูปเป็นร่าง
“หลังจากนั้นผมก็ทำงานตลอด 7 วัน 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่แต่ได้เจอหน้ากันแค่สัปดาห์ละครั้งตอนกินข้าว คือผมจะอยู่แต่ในห้องนั่งหน้าจอเขียนโปรแกรม และทำโมเดล 3D สำหรับเกม ทำคนเดียวไม่ได้มีทีมหรือใครมาช่วยเลย เรียกว่าหมกตัวอยู่แต่ในห้องก็ได้ ทำประมาณ 1 ปีจน Kingdoms Reborn เสร็จออกมา ซึ่งผมก็รู้สึกพอใจเหมือนที่ คิดเอาไว้”
โดยเกม Kingdoms Reborn เป็นเกมที่มีความแตกต่างจากเกมสร้างเมืองอื่นๆ เพราะเขาต้องการให้มีความเสมือนจริง สามารถเล่นคนเดียวหรือเล่นกับเพื่อนก็ได้
“Kingdoms Reborn ถือเป็นเกมแนวบริการจัดการสร้างเมือง ที่เป็นการเริ่มต้นใหม่ของมนุษยชาติ หลังจากล่มสลายจากยุคน้ำแข็งและโรคระบาดที่คร่าชีวิต มีผู้รอดชีวิตสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ เริ่มต้นจากหมู่บ้านเล็กๆ และพัฒนาขึ้นมาจนเป็นเมืองและอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ แต่สำหรับ Kingdoms Reborn จะมีความแตกต่างจากเกมสร้างเมืองอื่นๆ ตรงที่เป็นเกมสร้างเมืองบน Open world และเป็นเกม Multiplayer คือเกมสร้างเมืองที่มีอยู่ในตลาดส่วนใหญ่จะอยู่ในแผนที่สี่เหลี่ยมเล็กๆ ผมจึงอยากสร้างเกมสร้างเมืองในรูปแบบ Open world เหมือนบนโลกจริงๆ เข้าไปอยู่ในโลกที่กว้างใหญ่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรหลากหลาย โดยเราสามารถเล่นด้วยกันกับเพื่อนได้อีก เป็น Multiplayer หรือเจะล่นคนเดียวก็ได้ ซึ่งเกมประเภทนี้ที่เล่น Multiplayer นั้นน้อยมาก”
ด้วยความแตกต่างและความเชื่อมั่นในเกมของตัวเอง ทำให้ปันสามารถสร้างเกมนี้ให้ประสบความสำเร็จ สร้างรายได้ 100 ล้าน ใน 8 เดือนได้แบบไม่ต้องทำการตลาดแม้แต่บาทเดียว
“ผมสร้าง Kingdoms Reborn แล้วปล่อยขายโดยไม่ได้ใช้เงินเพื่อทำการตลาดเลย เพราะผมมีข้อมูลหนึ่งที่บอกว่าการขายเกมไม่ต้องใช้เงินเพื่อทำการตลาด อย่างแรกคือเกมประเภทสร้างเมืองที่ออกมา เกมที่ขายได้จะสอดคล้องกับจำนวนการรีวิว ถ้ารีวิวขึ้นไปสูงมากเกมนั้นก็ขายได้อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเกิดเกมของเราถูกรีวิวว่าทำเกมที่ดีมีคุณภาพนักเล่นเกมรีวิวเยอะๆ เกมมันก็จะขายได้ ผมคิดแบบนี้เลยไม่ได้ใช้งบทำการตลาดเลย แล้วผมก็มีความเชื่อว่าถ้าของมันดีจริงยังไงก็ต้องขายได้
"จริงๆ ก่อนที่ Kingdoms Reborn จะปล่อย ผมตื่นเต้นมากแล้วเหนื่อยมากๆ เพราะว่า 2 วันก่อนปล่อยแทบไม่ได้นอนเลย ยังทำงานนั่งแก้บั๊คอยู่ แล้วผมทำเองทุกอย่าง พอเขาบอกมีบั๊คๆ ก็ต้องรีบแก้บั๊คทันที แต่พอปล่อยขายเกม Kingdoms Reborn ใช้เวลาเพียง 8 เดือน มียอดขาย 100 ล้านบาท ซึ่งผมก็พอใจมาก แต่อันที่จริงผมวางเป้าหมายไว้สูงกว่านี้โหดกว่านี้มาก คืออยากที่จะขาย Kingdoms Reborn ได้ล้านชุดภายใน 3 ปี แต่ในตอนนี้ใช้เวลามาปีกว่าๆ แล้วมียอดขายอยู่ที่กว่า 2 แสนชุด ลูกค้า 87 เปอร์เซ็นต์มาจากประเทศในยุโรปตะวันตกและอเมริกา ซึ่งในยุโรปตะวันตกจะมาจากประเทศเยอรมนีมากที่สุด อาจเป็นเพราะคนเยอรมันนิยมเล่นเกมประเภทสร้างของ สำหรับในประเทศไทยขายได้แค่ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งคนไทยไม่ชอบเล่นเกมประเภทนี้”
สิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จนั่นเป็นเพราะวิชันของเขาที่ไม่กลัวความล้มเหลวและพุ่งเป้าไปในสิ่งที่ทำ จนในที่สุดก็ทำให้เกมของเขาประสบความสำเร็จ
“ผมเป็นคนทำงานแบบ Focus on Product คือพยายามสร้างของให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ วิธีคิดของผมจะไม่ได้คิดกลับไปมองย้อนหลังว่าพอใจไม่พอใจกับสิ่งที่ทำไป จะมองกลับไปก็เพียงเพื่อดูเราทำอะไรผิดหรือเปล่า หรือเปลี่ยนอะไรได้หรือเปล่า แต่ผมคิดไปข้างหน้าว่ามีอะไรที่ผมทำได้บ้างมากกว่า วิชชั่นของผมหรืองานที่ผมทำมีอะไร เพื่อปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม
"ผมรู้อยู่แล้วว่าการทำงานอย่างนี้มันมีโอกาสที่จะล้มเหลว แต่ผมคิดว่าถ้าจะล้มเหลวมันก็แค่นั้น ไม่ใช่ว่าจะโดนยิงตายซะเมื่อไหร่ ผมก็ยังต้องทำอะไรต่อไป หาอะไรทำต่อไป ไม่ได้คิดว่าล้มเหลวแล้วคือจบทุกอย่าง ถ้ามัวแต่คิดถึงความล้มเหลวก็จะทำให้เครียดเปล่าๆ แล้วจะไม่ได้ Productive ควรจะทำอะไรที่ทำได้ให้มากที่สุดดีกว่า ถ้ามันล้มเหลวจริงก็ค่อยคิดใหม่ว่าจะทำอะไรกับชีวิตต่อไป”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup