คิดต่างแต่กลับคลิกคู่สามีภรรยาเบื่องานประจำเปิดคาเฟ่คีย์บอร์ดแมคคานิคอลสุดปังดึงดูดเกมเมอร์
ปัจจุบัน การเปิดร้านคาเฟ่เพื่อขายเครื่องดื่มหรืออาหารเพียงอย่างเดียวอาจไม่ดึงดูดใจพอ คาเฟ่หลายแห่งจึงต้องงัดกลยุทธ์ สร้างจุดขายด้วยการนำกิจกรรมหรือสิ่งต่าง ๆ มาแซมเพื่อเป็นแม่เหล็กดึงลูกค้าเข้าร้าน ยกตัวอย่างคาเฟ่แมว คาเฟ่สัตว์เลี้ยง คาเฟ่เวิร์กช้อปงานฝีมือ คาเฟ่ร้านหนังสือ คาเฟ่บอร์ดเกม คาเฟ่ร้านเฟอร์นิเจอร์ หรือคาเฟ่ร้านต้นไม้ ก็แล้วแต่ว่าเจ้าของร้านจะรังสรรค์ออกมา โดยส่วนใหญ่แล้ว กิจกรรมหรือสิ่งที่นำมาผนวกกับคาเฟ่มักเป็นสิ่งที่เจ้าของร้านสนใจอยู่แล้ว
ดังเช่น Click & Brew Cafe คาเฟ่แห่งใหม่ล่าสุดในย่านจอร์จทาวน์ เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซียซึ่งเพิ่งเปิดบริการหมาด ๆ เมื่อกลางเดือนพค.ที่ผ่านมานี่เอง เจ้าของร้านเป็นสามีภรรยาคู่หนึ่งชื่อโจอี้ ตัน กับเอริก้า เตียว ทั้งคู่อยู่ร่วมกันโดยอาศัยและทำงานที่สิงคโปร์มานา 15 ปี กระทั่งรู้สึกอิ่มตัวและอยากกลับมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายที่ปีนังบ้านเกิด ก่อนกลับมาตั้งรกรากที่ภูมิลำเนาเดิม ทั้งสองก็มานั่งคิดว่าจะทำงานอะไรเพื่อหาเลี้ยงชีพตัวเอง
เอริก้าเป็นผู้หลงรักกาแฟหลังจากที่ได้ครอบครองแอสคาโซ่ เครื่องชงกาแฟสัญชาติสเปนซึ่งเป็นเครื่องชงกาแฟในฝันของใครหลายคนเป็นครั้งแรกเมื่อ 10 ปีก่อน ขณะที่ฝ่ายโจอี้ผู้เป็นสามีนั้นมีความสนใจในการประกอบคีย์บอร์ดประเภทกลไกปุ่มกดหรือ mechanical keyboard คีย์บอร์ดประเภทนี้จะแตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไปที่ด้านล่างเป็นปุ่มยาง แต่ mechanical keyboard โครงสร้างใต้ปุ่มจะเป็นกลไกสวิตช์แบบสปริง ให้ความรู้สึกในการกดและพิมพ์ที่ดีกว่า มีความทนทานสูง รวมทั้งมีความแม่นยำในการตอบสนองสูง จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มเกมเมอร์
ช่วงทำงานประจำ ทั้งคู่ก็แชร์ความชอบของกันและกัน โจอี้เพลิดเพลินกับการจิบลาเต้ฝีมือภรรยา ส่วนเอริก้าก็เปลี่ยนมาใช้คีย์บอร์ดแมคคานิคอลในการทำงาน แม้จะไม่มีประสบการณ์ในการเป็นบาริสต้ามืออาชีพ หรือเป็นผู้ประกอบการ แต่เมื่อตัดสินใจจะลาออกจากงานเพื่อกลับมาอยู่ปีนัง พวกเขาจึงคิดว่าจะทำในสิ่งที่สามารถหล่อหลอมความชอบของทั้งคู่เข้าด้วยกัน
หลังจากที่วางแผนและเตรียมการระยะหนึ่ง Click & Brew Café ก็ได้ฤกษ์เปิดบริการเมื่อวันที่ 20 พค.ที่ผ่านมา แม้จะเปิดได้ไม่นาน แต่ก็เริ่มมีลูกค้ารู้จักการจากที่มีคนไปรีวิวและแนะนำตามกลุ่มในสื่อโซเชี่ยล เช่น กลุ่มผู้ใช้คีย์บอร์ดแมคคานิคอล หรือกลุ่มผู้ชื่นชอบอี-สปอร์ตในเฟสบุ๊ก ทำให้มีผู้สนใจและมาใช้บริการ “เป้าหมายหลักของเราคือการทำร้านกาแฟให้เป็นที่ที่ผู้คนสามารถมาลองใช้ ลองประกอบ หรือมาทำความรู้จักกับคีย์บอร์ดแมคคานิคอลแบบต่าง ๆ โดยทางร้านได้จัดมุมสำหรับลูกค้าได้ทดลองใช้ไว้ ทำให้คนที่คิดจะซื้อคีย์บอร์ดแบบนี้ได้มาลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อจริง” เป็นคำอธิบายของเจ้าของร้าน
นอกจากนั้น ทางร้านยังจัดอุปกรณ์ต่าง ๆ เตรียมไว้เพื่อให้ลูกค้ายังสามารถนำคีย์บอร์ดที่มีอยู่มาดัดแปลงหรือปรับเปลี่ยนเองหรือจะให้ทางร้านช่วยปรับให้ก็ได้ “ในอนาคต เราจะสร้างสเตชั่นที่ล้ำกว่านั้น พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือครบครันเพื่อให้ลูกค้าสามารถออกแบบและประกอบคีย์บอร์ดตามสเปคที่ต้องการได้” โจอี้เปรียบว่าคีย์บอร์ดก็เหมือนกาแฟ บางคนชอบกาแฟดำ บางคนชอบกาแฟใส่นม คีย์บอร์ดก็เช่นกัน บ้างก็ชอบเสียงนุ่ม เสียงเบา หรือเสียงดังเวลากด เป็นความชอบส่วนบุคคลจึงไม่มีผิดหรือถูก
นอกเหนือจากคีย์บอร์ดแมคคานิคอลที่ถือเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้าน Click & Brew ยังบริการชา กาแฟและเครื่องดื่มต่าง ๆ รวมถึงอาหารว่างประเภทเค้กและพายที่ไม่เพียงบริการลูกค้าทั่วไป แต่ยังทำให้ลูกค้าโดยเฉพาะสายเกมเมอร์ที่มาทดลองคีย์บอร์ดได้อร่อยกับอาหารและเครื่องดื่ม ทำให้ใช้เวลาอยู่ในร้านได้เพลิดเพลินและนานขึ้น ที่สำคัญทำให้เกิดเป็นสังคมเล็ก ๆ ที่ลูกค้าได้แบ่งปันประสบการณ์ ความคิดเห็นหรือคำแนะนำเกี่ยวกับคีย์บอร์ดแมคคานิคอล
ลูกค้าที่มาใช้บริการ Click & Brew นอกจากได้ทดลองใช้คีย์บอร์ดแล้ว ทางร้านยังจัดกิจกรรมเวิร์กช้อปสอนประกอบคีย์บอร์ดตามแบบที่ต้องการสำหรับมือใหม่หัดประกอบอีกด้วย สนนราคาในการร่วมเวิร์กช้อปนั้นอยู่ที่ 500 ริงกิตหรือราว 4,000 บาทโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้ครบวงจรยิ่งขึ้น
Click & Brew ยังมีคีย์บอร์ดสำเร็จรูปพร้อมประกอบจำหน่ายด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 250-850 ริงกิต (ประมาณ 2,000-6,700 บาท) แล้วแต่รุ่น โดยทางร้านสั่งตรงจากโรงงานผลิต ซึ่งในอนาคตเอริก้าและโจอี้ก็หวังจะได้ร่วมมือกับแบรนด์คีย์บอร์ดดัง ๆ หรืออาจผลิตคีย์บอร์ดภายใต้แบรนด์ตัวเองออกจำหน่าย
แม้จะไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจ แต่การปลุกปั้น Click & Brew Cafe นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของโจอี้และเอริก้า พวกเขาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่การทำเฟอร์นิเจอร์บางอย่าง เช่น เก้าอี้ในร้านด้วยตัวเอง ไปถึงการชงการเสิร์ฟกาแฟ การทำบัญชี การทำการตลาด และอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่สิ่งที่ทำให้สามีภรรยาเจ้าของคาเฟ่มือใหม่มีความสุขยิ่งกว่าคือการได้ให้ความรู้และคำแนะนำลูกค้าเกี่ยวกับคีย์บอร์ดแมคคานิคอล ลูกค้าหลายคนถึงกับเอ่ยปากไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีคาเฟ่คีย์บอร์ดแบบนี้ในปีนัง โจอี้และเอริก้าสามารถพูดได้ว่านี่อาจเป็นคาเฟ่คีย์บอร์ดแมคคานิคอลแห่งเดียวในมาเลเซีย หรืออาจจะแห่งเดียวของโลกด้วยซ้ำ
ที่มา
https://vulcanpost.com/790987/click-and-brew-cafe-mechanical-keyboard-customisation-malaysia-penang/
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup