จากไอเดียนศ.อับจนสู่การสร้างแบรนด์น้ำอัดลมอินดี้ชูจุดคาเฟอีนสูงปรี๊ดขึ้นแท่นขายดีในยุโรป
Text : Vim Viva
ไอเดียการทำธุรกิจนั้นบางทีก็เริ่มต้นแบบง่าย ๆ แบบไม่ได้คาดหวังสูงอะไรแต่ผลที่ได้กลับเกินจากที่คิดไว้ ดังเช่นน้ำอัดลม ยี่ห้อ”Fritz-kola“ ที่มีต้นกำเนิดจากนักศึกษาเยอรมัน 2 คนผู้ไม่มีความรู้ใด ๆ ในการผลิตเครื่องดื่ม แต่น้ำอัดลมที่พวกเขาคิดขึ้นมาเล่น ๆ และทดลองผลิตขายกลับตอบโจทย์ความต้องการของตลาดจนทำให้ขึ้นแท่นเครื่องดื่ม (ที่ไม่ใช่เบียร์) ที่ขายดีที่สุดในเยอรมนี เบียดน้ำอัดลมแบรนด์ข้ามชาติระดับโลกยี่ห้ออื่น ๆ อย่างลอยลำ แถมยังกลายเป็นสินค้าที่ส่งไปขายในหลายประเทศทั่วยุโรปอีกด้วย
เส้นทางการแจ้งเกิดของแบรนด์ท้องถิ่นอย่าง Fritz-kola เริ่มต้นเมื่อ 2 ทศวรรษก่อนที่เมืองฮัมบวร์ก เยอรมนี ขณะที่สองนักศึกษาหนุ่ม ลอเรนซ์ ฮัมเปิล และไมโคร วูล์ฟ วีเกิร์ทกำลังนั่งทานพิซซ่าในครัวด้วยกันโดยมีน้ำอัดลมยี่ห้อดังกลั้วคอ ทั้งคู่ก็คุยกันถึงเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมน้ำดำว่าน่าจะมีเครื่องดื่มทางเลือกเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเป็ปซี่ หรือโคค่าโคล่าซึ่งครองตลาดอยู่ในขณะนั้น และด้วยคำพูดที่ว่า “มันสามารถทำได้ดีกว่านี้” ก็ได้จุดประกายความระห่ำให้ฮัมเปิล และวีเกิร์ทคิดทำธุรกิจน้ำอัดลมโดยที่ไม่มีทุนรอน หรือปูมหลังในการธุรกิจแม้แต่น้อย เรียกว่าอาศัยความรู้สึกและสัญชาตญาณล้วน ๆ ในการทำทาง
พวกเขาเริ่มต้นจากการหาสูตรในกูเกิ้ล จากนั้นก็นำมาปรับสูตรให้เหมาะสมจนได้เครื่องดื่มโคล่าตามแบบที่ต้องการ นั่นคือ “ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ น้ำตาลต่ำ และอุดมด้วยคาเฟอีน” โดยทั่วไป น้ำอัดลมโคล่าแบรนด์อื่นจะมีปริมาณคาเฟอีน 10 มก.ต่อน้ำ 100 กรัม แต่เครื่องดื่มที่ฮัมเปิล และวีเกิร์ทคิดขึ้นมามีคาเฟอีนมากเกินเท่าตัว คือ 25 มก.ต่อน้ำ 100 กรัม เมื่อมั่นใจในผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการมือใหม่ทั้งสองก็ใช้วิธีระดมทุนจากคนใกล้ตัว ได้เงินลงทุนก้อนแรกมา 7,000 ยูโรหรือราว 2.6 แสนบาท
เดือนมค. 2003 เครื่องดื่มโคล่าภายใต้แบรนด์ Fritz-Kola ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวพร้อมสโลแกน ”vielviel koffein“หรือ “คาเฟอีนสูงปรี๊ด” ล้อตแรกผลิตออกมาเพียง 170 ขวดและชิมลางวางขายตามบาร์ต่าง ๆ ในเมืองฮัมบวร์ก ผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีมาก มีการบอกต่อกันปากต่อปาก กลายเป็นเทรนด์เครื่องดื่มของคนเมืองก่อนมีการขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังเมืองอื่น ๆ ทั่วประเทศ โดยหุ้นส่วนทั้งสองมีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ ฮัมเปิลดูแลการบริการจัดการแบรนด์ การขนส่งสินค้า และการตลาด ส่วนวีเกิร์ทดูแลงานขาย งานผลิต และประชาสัมพันธ์
เครื่องดื่ม Fritz-Kola ใช้ใบหน้าของผู้ก่อตั้งเป็นโลโก้ข้างขวด ด้านซ้ายคือฮัมเปิล ด้านขวาเป็นวีเกิร์ท เหตุผลก็เนื่องจากต้องการประหยัดเงิน เพราะการออกแบบโลโก้อาจมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 2,000 ยูโร การใช้ใบหน้าตัวเองเป็นโลโก้จึงไม่ต้องจ่ายแพงมาก และช่วงแรก ๆ เลือกใช้โลโก้สีขาวดำก็ยิ่งทำให้ประหยัดค่าพิมพ์ลงได้อีก
นอกจากเครื่องดื่มโคล่าแล้ว Fritz-Kola ยังพัฒนาน้ำอัดลมรสชาติอื่น ๆ ตามมาอีกกว่า 10 รสชาติ จากที่ผลิตขายเฉพาะในเยอรมนีโดยวางจำหน่ายทั่วทุกซูเปอร์มาร์เก็ต ก็เริ่มส่งออกไปยังเมืองต่าง ๆ ในยุโรป รวมถึงโปแลนด์ เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม สเปน สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย โดยเฉพาะในเนเธอร์แลรนด์ ถือว่าเป็นเครื่องดื่มอันดับต้น ๆ ในแง่ของการทำยอดขาย
ตลอดเกือบ 20 ปีของการดำเนินธุรกิจ Fritz-Kola กลายเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ มีโรงงานผลิตรวม 5 แห่งที่กระจายสินค้าไปทั่วยุโรป สำหรับจุดแข็งของ Fritz-Kola มีหลายอย่าง อาทิ การเป็นเครื่องดื่มอินดี้มีคุณภาพที่เกิดจากไอเดียแปลกใหม่ต่างจากแบรนด์อื่น กระตุ้นให้ผู้บริโภคอยากลอง น้ำอัดลม Fritz-Kola ถูกมองเป็นเครื่องดื่มสุขภาพเนื่องเพราะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ และมีส่วนผสมของน้ำตาลต่ำมาก
นอกจากนั้น ยังเป็นเรื่องของการชูจุดยืนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ขวดแก้วที่ใช้ซ้ำได้แทนขวดพลาสติก ซึ่ง Fritz-Kola จริงจังถึงขนาดทำเป็นแคมเปญรณรงค์ให้ผู้คนดื่มจากขวดแก้ว และจะพยายามลดการใช้ขวดพลาสติกลงให้เหลือศูนย์ อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของ Fritz-Kola ที่กลายเป็นข้อเสียเปรียบคือราคาจำหน่ายที่สูงกว่าน้ำอัดลมแบรนด์อื่น และกลยุทธ์การตลาดเพื่อรุกตลาดต่างประเทศยังไม่เต็มที่เท่าไร นอกจากนั้น จุดขายในการเป็นเครื่องดื่มน้ำตาลต่ำก็กำลังถูกแบรนด์อื่นผลิตออกมาเพื่อแข่งขันเช่นกัน
ปัจจุบัน ฮัมเปิล ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทจะถอนตัวจากธุรกิจ เหลือเพียงวีเกิร์ทที่กุมบังเหียนบริหารโดยถือหุ้นบริษัท 2 ใน 3 แต่ Fritz-Kola ยังคงความเป็นแบรนด์เครื่องดื่มขายดีอันดับต้น ๆ ในเยอรมนีและยุโรป และถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของแบรนด์ท้องถิ่นที่แม้จะเป็นมวยรองแต่ก็สามารถทาบชั้นแบรนด์น้ำอัดลมดังระดับโลกได้
ข้อมูล
www.bbc.com/news/business-53593138
www.marmind.com/blog/fritz-kola-marketing/+&cd=2&hl=th&ct=clnk&gl=th
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจ Startup